posttoday

ข้าวเหนียวทุเรียนกระป๋อง

18 เมษายน 2557

“ทุเรียน” ถูกขนานนามว่าเป็น “คิงออฟฟรุต” และช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เมนูขนมหวานไทยต้องมีรายชื่อ “ข้าวเหนียวทุเรียน”

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

“ทุเรียน” ถูกขนานนามว่าเป็น “คิงออฟฟรุต” และช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เมนูขนมหวานไทยต้องมีรายชื่อ “ข้าวเหนียวทุเรียน” ติดอยู่ด้วยแน่ๆ ทว่าการจะส่งออกข้าวเหนียวทุเรียนออกไปประกาศศักดาความอร่อยให้ต่างชาติรู้จัก ทำได้ยาก เพราะติดในเรื่องของกลิ่นและข้อจำกัดด้านการเก็บรักษาและขนส่ง

เมื่อเห็นอุปสรรคดังกล่าว ณัฐสกนธ์ เจริญสาธิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญดีเซิร์ท เจ้าของธุรกิจ “SWEET SIAM” เห็นถึงช่องว่างโอกาสที่จะส่งข้าวเหนียวทุเรียนบรรจุกระป๋องที่สามารถเก็บได้ในอุณหภูมิปกติ แค่เปิดฝาพร้อมกินทันที รสชาติใกล้เคียงต้นตำรับ ส่งออกไปเจาะตลาดลูกค้าชาวจีนที่นิยมขนมไทย หลังจากมีโอกาสไปเรียนที่ประเทศจีน ทำให้รู้ดีว่าชาวจีนนิยมกินขนมไทยอย่างมาก โดยเฉพาะเมนูที่มีส่วนผสมของผลไม้ไทยกับน้ำกะทิจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ประกอบกับเศรษฐกิจของจีนที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อมุ่งมั่นที่จะทำแล้ว ณัฐสกนธ์ ต้องมาตีโจทย์เรื่องขนมไทยให้แตกว่า ทำอย่างไรให้รับประทานได้ทั่วโลก เริ่มจากหาเทคโนโลยีด้านการถนอมอาหารเพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพและรสชาติแบบดั้งเดิม ซึ่งพบว่าเทคโนโลยีสเตอริไลซ์ (Sterilize) สามารถฆ่าเชื้อโรคในอาหารได้หมดด้วยความร้อน 130 องศาเซลเซียส จึงตระเวนปรึกษานักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านขนมไทยโดยเฉพาะ โดยมีแนวคิดที่จะทำขนมไทยใส่กระป๋องส่งขายทั่วโลก

“นวัตกรรมแปรรูปขนมไทยบรรจุกระป๋องมาจากที่ผมไปขอความรู้และคำแนะนำจากสถาบันอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งใช้เวลาวิจัยและพัฒนาอยู่นานเกือบ 2 ปี กับเงินลงทุนหลักล้าน ซึ่งนวัตกรรมนี้จุดเด่นสามารถเก็บอาหารแบบต้นตำรับไว้ได้นานนับปีภายใต้อุณหภูมิปกติ แค่เปิดฝากระป๋องก็กินได้ทันที ทำให้ได้รสชาติใกล้เคียงกับขนมที่ทำสดใหม่ สะดวกต่อการเก็บรักษาและขนส่ง สิ่งสำคัญเทคนิคการแปรรูป วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งของเรามีทั้งใช้แบบกระป๋อง ถ้วยพลาสติก และซอง” ณัฐสกนธ์ อธิบาย

เบื้องต้นมีสินค้า 5 รายการ ล้วนแต่เป็นขนมไทยที่ชาวต่างชาตินิยมทั้งสิ้น สินค้าเด่นคือ ข้าวเหนียวทุเรียนและข้าวเหนียวมะม่วงบรรจุกระป๋องแบบคู่ แยกข้าวเหนียวมูนกับน้ำกะทิ ชุดละ 120 บาท นอกจากนั้นได้แก่ สาคูข้าวโพด และมังคุดลอยแก้ว บรรจุถ้วยพลาสติก ราคา 40 บาท และน้ำกะทิพร้อมดื่มในซอง มี 3 รส ได้แก่ รสมังคุด มะม่วง และทุเรียน ราคา 25 บาท

สิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ขนมไทยกระป๋องของ ณัฐสกนธ์ เป็นที่ยอมรับของตลาดอย่างรวดเร็ว คือ แม้ว่าจะเป็นอาหารกระป๋องแต่ก็มีรสชาติที่ใกล้เคียงกับขนมที่สดใหม่ เนื่องจากคัดเลือกวัตถุดิบชนิดเดียวกับขนมต้นตำรับ เช่น ข้าวเหนียวมูนจะใช้พันธุ์เขี้ยวงูจากภาคเหนือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้จากภาคตะวันออก มะพร้าวจากภาคใต้มาทำเป็นน้ำกระทิ

ทั้งนี้ ผลไม้ต่างๆ จะรับซื้อตรงจากชาวสวนในช่วงฤดูที่ผลไม้แต่ละชนิดออกผล แล้วนำมาเก็บไว้ในห้องเย็นเพื่อควบคุมให้มีวัตถุดิบผลิตสินค้าได้ทั้งปี เพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้ผันผวนตามราคาขึ้นลงของผลไม้ ส่วนกระบวนการผลิตขณะนี้ยังใช้วิธีว่าจ้างโรงงานอาหารแปรรูป ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานอาหารส่งออกครบถ้วน ทั้ง ISO, GMP และ HACCP

ณัฐสกนธ์ ได้วางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักไปที่ประเทศจีน ผ่านวิธีทำตลาด ทั้งมีตัวแทนรับซื้อไปทำตลาดในจีน ส่งเข้าร้านอาหารไทย และร้านขายสินค้าอาหารเอเชียในประเทศจีน เพราะเป็นตลาดใหญ่ ปัจจุบันกว่า 80% ส่งไปขายในตลาดจีน ส่วนอีก 20% ขายตามแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ เช่น พัทยา เชียงใหม่ และร้านคิงเพาเวอร์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน

สำหรับแผนการตลาดในอนาคตกำลังขยายตลาดส่งออกไปอาเซียน ซึ่งผู้บริโภคมีความชื่นชอบขนมไทยไม่น้อยเช่นกัน ควบคู่กับเน้นการสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าเป้าหมายจดจำให้ได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตเป็นของตัวเองด้วย เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้า

หากสนใจสามารถไปหามาทดลองชิมกันได้ตามช่องทางจำหน่ายต่างๆ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 086-465-4922 หรือ www.sweetsiamthailand.com

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี