เจ้าคุณอลงกต วัดพระบาทน้ำพุแนะวิธีสร้างสุขให้ชีวิต
พระอุดมประชาทร (เจ้าคุณอลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี
พระอุดมประชาทร (เจ้าคุณอลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี แนะวิธีสร้างสุขให้แก่ชีวิตง่ายๆ ในการบรรยายธรรมเรื่อง สิ่งที่ปรารถนาที่สุด ให้กับพนักงานและประชาชนทั่วไปกว่า 300 คน ในกิจกรรม “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” หนึ่งในโครงการส่งเสริมพุทธศาสนา พัฒนาคุณธรรม ของบริษัท ซีพี ออลล์ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ในโลกนี้ก็เป็นเพียงการปรุงแต่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา มองทุกอย่างให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ไม่มีอะไรเป็นของใครนิรันดร์ ท้ายที่สุดแล้วตายไป ก็ไม่สามารถพกพาติดตัวไปได้”
แนะวิธีสร้างสุข
ท่านเจ้าคุณอลงกตเล่าว่า คนเรามีความอยากมี อยากได้ อยากเด่น อยากดัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเป็นธรรมดาที่คนเราจะอยากมีเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น แต่หากเราใช้ชีวิตแบบ “อยู่ อย่าง อยาก” มากจนเกินไป ความรู้สึกแบบนี้จะทำให้ตัวเราเองไม่มีความสุข ไม่รู้สึกผิด ไม่ละอายใจ เพราะจิตใจคิดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ และความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วสาระสำคัญของการมีชีวิตอยู่ของคนเรานั้น คือการที่จะทำให้ตัวเราเองและคนอื่นที่อยู่ร่วมกับเราได้อย่างมีความสุข มีความคิดคำนึงถึงกันและกันบนโลกใบนี้
ดั่งคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจฉิมโอวาท(วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด)
และบทถวายสังฆทานที่บรรดาพุทธศาสนิกชนกล่าวกันเป็นประจำว่า “เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนานเทอญ”
ความปรารถนาดีต่อผู้อื่นจะทำให้เราลดความเห็นแก่ตัวลงทีละเล็ก ทีละน้อย ก็เหมือนเป็นการลดละกิเลส ตัณหาลง เพราะความสุขที่เราต้องการนั้นไม่ได้จำกัดเพียงเพื่อให้แก่ตนเอง แต่เพื่อทำให้คนรอบข้างของเรามีความสุขไปด้วยกัน
“สิ่งปรารถนาของอาตมามากที่สุด คือเห็นเราทุกคนยิ้มให้กันด้วยความปรารถนาดี ยิ้มให้กันด้วยความเมตตา ยิ้มให้กันเพราะหวังว่าคนตรงหน้าจะมีความสุขกับรอยยิ้มที่เราส่งให้ไป แทนการ “อยากได้” ที่เคยทำมา ซึ่งรอยยิ้มก็เปรียบเสมือนยาแคปซูลแห่งความเมตตา ที่เราส่งไปให้กับร่างกายตัวเอง หรือคนรอบข้าง ได้ทุกคน ทุกกรณี ทุกเวลา และจะทำให้ทุกคนมีความปรารถนาแห่งความสุขเหมือนกัน” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุอธิบายเสริม
บุคคลที่เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อบำบัดความทุกข์ของคนอื่นได้คือผู้ประเสริฐ เพราะมี “ต้นทุนแห่งความเมตตามีมากที่สุด” และยิ่งหากบุคคลเหล่านี้ยอมรับกับความเป็นจริง อยู่กับความจริงให้ได้ว่าเป็นของธรรมดา หากจะมีการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ก็ตระหนักได้เสมอว่าเราไม่ได้เป็นคนกำหนดชะตา แต่ธรรมชาติต่างหากที่เป็นตัวกำหนด เพียงเท่านี้เราก็จะมีความสุขกับการใช้ชีวิต เพราะเรามีธรรมะและความเมตตาเป็นยา สร้างภูมิต้านทานความทุกข์ในชีวิตพกติดตัวไปได้ทุกที่
บทบาทของวัด
วัดพระบาทน้ำพุ นั้นมีชื่อเสียงในการเป็นที่พักรักษาตัวของผู้ป่วยโรคเอดส์ เป็นการช่วยเหลือโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ และศาสนา มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ท่านในฐานะเจ้าอาวาสจึงเล่าให้ที่ประชุมฟังว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยในวัดพระบาทน้ำพุมีหลายร้อยคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเดือนละ 5-10 คน
ทางวัดแบ่งผู้ป่วยเป็น 3 ระดับ 1.ระดับแรกเริ่มติดเชื้อ ระดับที่ 2 (เริ่มป่วย) ระดับที่ 3 (ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้)
เมื่อป่วยต้องรักษา และรักษาไม่หายก็ตาย เป็นธรรมดา จึงมีผู้ตายทุกสัปดาห์ เฉลี่ยสัปดาห์ละประมาณ 2-3 คน
ประวัติ
พระอุดมประชาทร มีนามเดิมว่าอลงกต
เกิดวันที่ 9 ธ.ค. 2496 ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2519 ปริญญาโท สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ปี 2522
อุปสมบทที่วัดบวรนิเวศวิหาร (ธรรมยุต) เมื่อปี 2522 อายุ 25 ปี ต่อมาปี 2529 อุปสมบทเป็นมหานิกายที่วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี จำพรรษาวัดพระบาทน้ำพุ ปี 2531 เริ่มดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ตามโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ เมื่อปี 2535
มหาวิทยาลัยต่างๆ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตหลายแห่งด้วยกัน เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ปี 2540
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพยาบาลศาสตร์ ปี 2542
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา ปี 2544 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ท่านเช่นกัน
ส่วนสมณศักดิ์นั้น ปี 2539 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ “พระครูอาทรประชานาถ”
ปี 2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญในราชทินนาม ที่ “พระอุดมประชาทร”
มูลนิธิช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์
ท่านพูดถึงภาระการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ตามโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ ภายใต้การนำของ “มูลนิธิธรรมรักษ์” มีชื่อย่อว่า “ม.ธ.ร.” ว่า
“อาตมาเคยคิดจะหยุดการช่วยเหลือ เพราะค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนสูงมาก เฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อเดือน แต่ตอนนี้ได้ล้มเลิกความคิดนั้นไปแล้ว และอาตมาจะช่วยจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของอาตมา ทั้งนี้อยากให้เราทุกคนได้มีชีวิตแบบสร้างสุขให้ตนเองและผู้อื่น”
ท่านแนะนำความสะดวกในการทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างง่ายๆ สำหรับผู้ไม่มีเวลา เพียงกด *1900222000 ครั้งละ 20 บาท เท่านี้ท่านจะได้บุญอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้แล้ว
พระอุดมประชาทร เดินทางบรรยายธรรมในรายการ เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกบรรยายเมื่อปี 2548 ผ่านไป 8 ปี จึงมาเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้มีผู้บริจาคปัจจัยรวมทั้งสิ้นกว่า 3 แสนบาท
ครับนี่คือแนวทางสร้างสุขในชีวิต ที่แนะนำโดยพระอุดมประชาทร ผู้ที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม


