ศตวรรษที่ 21 ของมาเลเซีย

มาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความสัมพันธ์กับไทยในหลากหลายมิติด้วยกัน หากแต่ว่าที่ผ่านมา โลก 360 องศามีข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับประเทศค่อนข้างน้อย ดังนั้น การเดินทางกลับมาเลเซียอีกครั้งในปี 2014 จึงเป็นโอกาสดีในการมาอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้ ว่าเหมือนหรือแตกต่างจากการรับรู้ที่ผ่านมามากน้อยขนาดไหน

ประเทศมาเลเซียที่เราคุ้นหูกันนั้น มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สหพันธรัฐมาเลเซีย” ประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 ส่วนหลัก คือ มาเลเซียตะวันตก ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแหลมมลายู ส่วนที่ 2 คือ มาเลเซียตะวันออก อยู่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว มีพื้นที่ติดกับประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้งสองส่วนถูกแบ่งกั้นด้วยทะเลจีนใต้ มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 รัฐ กับอีก 3 ดินแดนสหพันธ์ โดยแต่ละรัฐมีประมุขแห่งรัฐปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น ภายใต้อำนาจของรัฐบาลสหพันธรัฐที่ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์

 

กรุงกัวลาลัมเปอร์หรือบางครั้งคนทั่วไปอาจเรียกชื่อย่อๆ ว่า KL (เคแอล) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย มีพื้นที่ประมาณ 243 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1.6 ล้านคน โดยกัวลาลัมเปอร์นั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านจำนวนประชากรและตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 1970 ประเทศนี้พึ่งพารายได้ที่มาจากภาคการเกษตรเป็นหลัก วันเวลาผ่านไปกว่า 40 กว่าปี ณ เวลานี้ประเทศมาเลเซียได้เพิ่มรายได้ที่มาจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงพยายามส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 1 ใน 3 ของเงินตราจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมานี้ มาเลเซียติดอันดับ 3 ของปลายทางแนะนำสำหรับคนวัยเกษียณอีกด้วย ซึ่งก็เป็นผลมาจากแคมเปญที่เรียกว่า “Malaysia my second home” ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติพักแบบ Long stay ได้นานถึง 10 ปี

 

นอกเหนือจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่เป็นหน้าเป็นตาแล้วก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นประเทศทันสมัยของมาเลเซีย เมืองปุตราจายาก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เป็นตัวแทนที่แสดงได้ถึงวิสัยทัศน์อันยาวไกลในการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ดังนั้น จึงเป็นเมืองอุดมคติที่มีการจัดวางผังอย่างลงตัว มีทัศนียภาพที่งดงามและมีสถาปัตยกรรมที่งดงามล้ำสมัย

คำว่า “ปุตรา” หมายถึง บุตรชาย ส่วน “จายา” หมายถึง ความสำเร็จหรือชัยชนะ ดังนั้น เมืองนี้จึงเป็นเสมือนบุตรชายที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อนำพาความสำเร็จและชัยชนะมาสู่ประเทศ ซึ่งในช่วงแรกๆ จะมีแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ทางรัฐบาลจึงต้องออกนโยบายและส่งเสริมให้คนที่มีศักยภาพย้ายมาอยู่ที่นี่ จึงทำให้ปัจจุบันนี้มีคนอาศัยอยู่ร่วมแสนคนแล้ว

 

นอกจากเมืองปุตราจายาแล้ว ยังมีอีกเมืองหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ความทันสมัยของมาเลเซียในศตวรรรษที่ 21 นั่นก็คือ เมืองไซเบอร์จายา ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น Silicon Valley แห่งมาเลเซีย เพราะเป็นแหล่งรวมของบริษัทห้างร้านทางด้านไอที และสำนักงานโทรคมนาคมระดับโลกหลายบริษัทด้วยกัน เมืองนี้มีการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมที่ทันสมัยระดับโลก และเป็นอาณาจักรของเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ ที่รัฐบาลพยายามสร้างแรงจูงใจให้กับบรรดาบริษัทเอกชนต่างๆ เข้ามาตั้งกิจการ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศโดยรวมในอนาคต นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีทั้งโรงแรม มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ ห้างร้านทันสมัย และสวนสาธารณะรอบบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่ทำให้เมืองนี้มีความน่าอยู่และน่าทำงานยิ่งขึ้น

ณ ปี 2014 นี้ ประเทศมาเลเซียนำเสนอภาพลักษณ์ที่ก้าวหน้าและทันสมัยสู่สายตาชาวโลกได้อย่างน่าประทับใจ สร้างแรงดึงดูดให้หลายคนอยากเดินทางมาเห็น แต่ภาพของกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองปุตราจายา และไซเบอร์จายานั้น จะสามารถบอกเล่าความเป็นประเทศมาเลเซียได้ทั้งหมดหรือไม่ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นต่างๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาบริหารประเทศนั่นเอง อย่าลืมติดตามชมเนื้อหาเพิ่มเติมและภาพบรรยากาศสวยๆ ของมาเลเซียได้ในรายการโลก 360 องศา ทุกวันเสาร์ ทาง ททบ.5 เวลา 21.30 น.