posttoday

บ้านที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก สมศรี เตชะไกรศรี

01 เมษายน 2557

เพราะทำงานกับบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์มาอย่างยาวนาน จนได้ชื่อว่าเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของ “บ้าน” หลังนี้

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เพราะทำงานกับบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์มาอย่างยาวนาน จนได้ชื่อว่าเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของ “บ้าน” หลังนี้ บ้านที่คุ้นเคยกับชาวกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อลุมพินี ทาวเวอร์ สมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ บริษัทในเครือแอล.พี.เอ็น. วันนี้ในวัยกว่า 43 ปี จะขอเล่าให้ฟังถึง “บ้าน” ที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก

“ในฐานะผู้ก่อตั้ง ก็อยู่กับแอล.พี.เอ็น.มาตั้งแต่ต้น ได้รู้และได้เห็นในทุกความเป็นไปของบริษัทฯ จากจุดเริ่มต้นคือความท้าทาย ด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ดิฉันไม่เคยทำมาก่อน หากปัจจุบันคือความท้าทายที่ยิ่งกว่า ด้วยธงในธุรกิจที่เราตั้งเป้าจะไปให้ถึง”

จากจุดเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อน แอล.พี.เอ็น. พัฒนาโครงการทุกรูปแบบ ได้แก่ บ้าน ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์และอาคารชุดพักอาศัย จุดเปลี่ยนคือช่วงปี 2540 ซึ่งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ผู้คนมองหาอาคารชุดพักอาศัยราคาระดับกลางถึงระดับกลางล่าง เป็นช่วงเดียวกับที่บริษัทฯ มองภาพของตัวเองได้ชัดเจนขึ้นพร้อมกัน

สมศรีเล่าว่า ในขณะนั้นแอล.พี.เอ็น.พุ่งเป้า หรือโฟกัสตัวเองอย่างชัดเจนว่า จะเป็นซิตี้คอนโดมิเนียม สรรพกำลังและทรัพยากรทั้งหมดจึงทุ่มเทลงไปอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่ได้คืนกลับมาคือตำแหน่งผู้บุกเบิกซิตี้คอนโดระดับราคาต่ำล้าน ผู้คนรู้จักและยอมรับแอล.พี.เอ็น.ทั้งในฐานะของผู้บุกเบิกและในฐานะของผู้ครองตลาดซึ่งทำคอนโดต่ำล้านได้น่าอยู่อาศัย

บ้านที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก สมศรี เตชะไกรศรี

เบื้องหลังไม่ง่าย แต่สิ่งที่ทำให้ง่ายคือ หลักการและนโยบายที่เป็นหนึ่งเดียว นั่นคือความพยายามทำให้คำว่าบ้าน คือความสามารถในการเป็นเจ้าของ เป้าหมายคือคนทำงานที่เพิ่งทำงานและยังไม่มีเงินเก็บมากนัก ควรมีโอกาสและมีสิทธิเป็นเจ้าของที่พักอาศัย ราคาต้องไม่แพง เปรียบเทียบกับบ้านในตลาดเวลานั้นที่แพงมาก ยากกว่ายากที่จะเป็นเจ้าของ

“บ้านคือหนึ่งในปัจจัยสี่ เป็นหนึ่งในสี่ของความสำคัญที่สุดในชีวิตของมนุษย์ นั่นอธิบายว่าทำไมเราถึงมองว่า การเป็นเจ้าของบ้านเล็กๆ สักหลังหนึ่ง จึงมีความสำคัญมาก ทั้งในแง่ของความเป็นมนุษย์และการพัฒนาตนเองของเพื่อนร่วมชาติ” สมศรีเล่า

คนที่มีบ้านเป็นของตัวเองจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เป็นความจริง อธิบายตามหลักปรัชญาวิทยาและมนุษยวิทยาได้ว่า การตระหนักในความเป็นเจ้าของ ก่อให้เกิดความรักและผูกพันต่อสิ่งยึดโยงที่เกี่ยวข้องในชีวิตของคนคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง งาน ชีวิตและอนาคต แอล.พี.เอ็น.ในฐานะผู้พัฒนาโครงการจึงตระหนักในความสำคัญของผู้ก่อสร้างบ้าน ที่ไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นที่พักพิงทั้งทางร่างกายจิตวิญญาณ

“แอล.พี.เอ็น. เราทำบ้านที่มีชีวิต” สมศรีกล่าว

สร้างบ้านแล้วไม่แล้วกัน แต่คือพันธสัญญาความยั่งยืนในการบริหารจัดการให้น่าอยู่อาศัย คำว่า “ชุมชนน่าอยู่” กลายเป็นคีย์เวิร์ดหรือถ้อยคำที่บ่งบอกความเป็นแอล.พี.เอ็น. ลูกบ้านจำนวนมากมายมหาศาลที่พักอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาคอนโดเดียวกัน คิดๆ แล้วก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ ที่จะต้องทำให้ทุกคนยิ้มได้ หัวเราะได้ แก้ปัญหากันได้แบบพี่แบบน้อง

แต่แอล.พี.เอ็น.ก็ทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย อย่างน้อยก็ลูกบ้านชาวลุมพินีทาวเวอร์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่า ชุมชนน่าอยู่จริงๆ พิสูจน์ได้จากยอดขายของโครงการที่ไม่เคยตก เบื้องหลังคือลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ บริษัทในเครือที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการการอยู่อาศัยและความพึงพอใจแบบ 360 องศาของลูกบ้าน

บ้านที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก สมศรี เตชะไกรศรี

 

“หลังประตูห้องทุกบานในคอนโด คือ ชุมชนน่าอยู่ คือความห่วงใย คือการแบ่งปัน น้ำจิตน้ำใจ การห่วงหาอาทรและความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน ถามแอล.พี.เอ็น.เราก็ขอตอบว่า เราลึกซึ้งและเข้าใจถ่องแท้กับความหมายของคำคำนี้ ชุมชนน่าอยู่ เราอยู่ที่ ทุกคนอยากอยู่ที่นี่”

สมศรีเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยส่วนตัวแล้วนี่คือความท้าทาย เธอท้าทายตัวเองในทันทีที่ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งว่า ดูซิว่าเราจะทำอย่างไรกับตำแหน่งนี้ได้บ้าง ที่ใดมีคนมากกว่า 1 คน ที่นั่นคือความท้าทาย ลองหลับตานึกภาพคอนโดมิเนียมแอล.พี.เอ็น.ที่แต่ละแห่งมีจำนวนยูนิตเป็นพันยูนิตขึ้น

“ทุกวันหรือจะต้องพูดว่าทุกเวลานาทีคือการบริหารจัดการปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเสียง ปัญหาเรื่องกลิ่น หรือปัญหาที่จอดรถ ปัญหาการอยู่อาศัยร้อยแปดปัญหา มองไปด้านไหนก็มีมาให้รับมือตลอด อย่างไรก็ตาม แอล.พี.เอ็น.ได้วางระบบเกี่ยวกับการบริหารงานชุมชนไว้อย่างดี เรากล้าพูดว่า เราเอาอยู่”

สมศรีบอกว่า แอล.พี.เอ็น.ได้พัฒนาเครื่องมือสื่อสารและแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับงานชุมชนโดยตรง บริหารจัดการในชุมชนที่มีอยู่ โดยทุกโครงการสามารถแชร์เคส แบ่งปันหรือส่งต่อตัวอย่างถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนทุกจุดมีคำตอบที่พร้อมนำไปปฏิบัติการหรือประสานงานต่อได้ทันที เรื่องหรือกรณีที่เกิดขึ้นมีใครที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ระดับบริหาร ระดับจัดการและฝ่ายสนับสนุน ทุกฝ่ายสามารถติดตามผล และประเมินผลได้ภายในเวลาที่กำหนด

“เน็ตเวิร์กของเราจะดูแลครอบคลุมองคาพยพที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็พูดได้อย่างมั่นใจว่า เราดูแลลูกบ้านของเราแบบ 100%” สมศรีเล่า

ดูแลลูกบ้านแล้วไม่ลืมดูแลคนในองค์กร หลักคือความสำเร็จที่วัดได้ หรือเวิร์กไลฟ์ บาลานซ์ (Work Life Balance) องค์กรนี้ให้โอกาสคนเติบโต เป้าหมายคือทีมงานที่สนุกกับการทำงาน มีชีวิตการงานที่ดี และมีชีวิตส่วนตัวที่มีความสุข เติบโตไปพร้อมกันกับบริษัท ทุกคนมีเวิร์กไลฟ์ที่เหมาะสม

สมศรีเล่าว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องพนักงานไม่ยอมลาพักร้อน ทำงานไม่ยอมเลิก กระทั่งต้องมีกฎออกมาว่า ทุกคนต้องจัดตารางพักร้อน ถ้าพักร้อนไม่ได้ตามแผน ต้องรายงานหัวหน้าถึงเหตุผลที่ไม่ยอมลา (ฮา) ระดับหัวหน้าต้องชี้แจง หรือในวันทำงานก็ต้องออกกฎตัดไฟฟ้า ปิดไฟ 18.30 น. เพื่อให้พนักงานกลับบ้าน 18.00 น. ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ยาวกันไปจนห้าทุ่มเที่ยงคืน

แล้วตัวเองล่ะดูแลไหม? ดูแลสิ ดูแลอย่างดีด้วยแนวคิดง่ายๆ สบายๆ อยู่ง่ายกินง่าย ใช้เวลากับครอบครัว ปัจจุบันสมศรีมีบุตรชาย 1 คน ผู้ชื่นชอบเมนูโปรดคาโบนาราของคุณแม่มาก ทำให้กินอย่างไรเท่าไรก็ไม่มีเบื่อ ว่างๆ ใช้เวลาปั่นจักรยานเล่นแถวตลาดเก่าแก่ย่านตลิ่งชัน ซึ่งจะมีคุณย่าคุณยายผู้ชรากำผักหญ้ากำเล็กๆ มาขายน่าชื่นใจ วันเสาร์ตักบาตรพระ จากนั้นก็ปั่นจักรยานรอบโบสถ์ ได้ทั้งบุญและพลานามัยที่ดี

บ้านที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก สมศรี เตชะไกรศรี

 

สุดท้ายคือเป้าหมายใหญ่ของแอล.พี.เอ็น. ธงที่ตั้งไว้ในปี 2557 ประกอบด้วย พันธกิจส่วนผู้ถือหุ้น คือการเติบโตอย่างเหมาะสม และผลตอบแทนที่ยั่งยืนภายใต้หลักธรรมาภิบาล ส่วนผู้อยู่อาศัย คือการสร้างสรรค์และส่งมอบชุมชนน่าอยู่ด้วยคุณค่าของแอล.พี.เอ็น.กรีน ส่วนสังคมและสิ่งแวดล้อม คือการส่งเสริมจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

“แอล.พี.เอ็น. เรากำลังเดินไปสู่คุณภาพชีวิต ความรู้ความสามารถ และคุณธรรม เพื่อความสุข และความก้าวหน้ามั่นคงผ่าน LPN Way ภายใต้วัฒนธรรมความห่วงใยและแบ่งปันขององค์กรแห่งคุณค่า” สมศรีกล่าว

สมศรี เตชะไกรศรี

ชื่อเล่น เหนียว

การศึกษา

นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Mini M.B.A. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

การทำงาน

ปัจจุบัน : กรรมการผู้จัดการ

บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์

รองกรรมการผู้จัดการ และ เลขานุการบริษัท

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์

กรรมการผู้จัดการ

บริษัท พรสันติ

กรรมการบริษัท

บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์

หลักการทำงาน

1.คนทำงานทุกคนควรมีความสุข สนุกกับงานให้ได้ทุกวัน

2.ต้องมีองค์ความรู้ จึงจะบริหารจัดการงานได้

3.คนที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ต้องมีชีวิตส่วนตัวที่มีความสุขด้วย

4.ต้องมีสุขภาพที่ดี

ข่าวล่าสุด

ศึกไทย–กัมพูชา สองสมรภูมิ : กับดัก UNSCความเสี่ยงต้องระวัง