สีหนุวิลล์ เมืองท่าน่าท่องเที่ยว
เมื่อกรุงพนมเปญเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่กันอย่างแออัด
เมื่อกรุงพนมเปญเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่กันอย่างแออัด ทำให้การจราจรที่นี่นับวันจะติดขัดมากขึ้น อีกทั้งค่าที่ดินก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ของกัมพูชา จึงมีการมองหาเมืองใหม่ที่เป็นได้ทั้งเมืองท่า เมืองเศรษฐกิจ และเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมน่าอยู่อาศัย ในเวลานี้คงไม่มีที่ไหนเหมาะสมที่สุดเท่ากับเมืองสีหนุวิลล์
เมืองสีหนุวิลล์อยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางตอนใต้ประมาณ 230 กิโลเมตร เชื่อมต่อกันด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งทางบกที่มีความสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ ที่ใช้ในการขนถ่ายสินค้าเข้าออกไปยังท่าเรือน้ำลึกนานาชาติสีหนุวิลล์ ที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศกัมพูชา ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาถนนสายนี้ให้มีความทันสมัยและมีมาตรฐานมากที่สุด ถนนสายนี้จึงราดยางอย่างดี ราบเรียบและทำความเร็วได้เฉลี่ย 80 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถนนสายนี้ก็เต็มไปด้วยรถบรรทุกคอนเทนเนอร์
คำว่า “สีหะ” แปลว่า “สิงห์” ส่วน “หนุ” แปลว่า “เขี้ยว” รวมกันแปลว่า “เขี้ยวสิงห์” นั่นเอง ซึ่งสิงโตคือสัญลักษณ์ของเมืองนี้ จึงมีรูปปั้นสิงโตคู่สีทอง ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงวงเวียนใจกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก
เมืองสีหนุวิลล์ เดิมชื่อว่า “กัมปงโสม” เมื่อมีการยกสถานะขึ้นเป็นจังหวัดในปี 2008 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “สีหนุวิลล์” เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ซึ่งพระองค์เคยใช้ชีวิตในช่วงทรงพระเยาว์ที่เมืองนี้
สีหนุวิลล์เป็นเมืองท่าที่เริ่มพัฒนาขึ้นในสมัยการปกครองของฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกขึ้น เพื่อใช้ขนถ่ายยุทธภัณฑ์ทางการทหาร จึงมีชาวตะวันตกเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่จำนวนมาก มากไปกว่านั้น ที่นี่ยังมีหาดทรายทอดตัวยาวหลายกิโลเมตรและมีน้ำทะเลใสสีคราม ต่อมาจึงถูกพัฒนาให้เป็นเมืองตากอากาศชายฝั่งทะเลในเวลาต่อมา
โอเฌอเตียล เป็นชายหาดสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ในอดีตชาวตะวันตกเคยยกย่องให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน “The most beauty bays in the world” ปัจจุบันเป็นเป้าหมายปลายทางในการมาท่องเที่ยวพักผ่อนของนักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกและชาวเวียดนามที่ชื่นชอบเสน่ห์ของหาดทรายสวยงาม ซึ่งแต่งแต้มสีสันด้วยแม่ค้าหาบเร่ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส และไม่ไกลกันมากเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่จำหน่ายแพ็กเกจดำน้ำ ดูปะการังรอบๆ เกาะที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล เฉลี่ยราคาอยู่ที่วันละ 20 เหรียญสหรัฐ ไปจนถึง 50 เหรียญสหรัฐ ส่วนเรื่องของความสวยงามนั้น คนที่นี่เขาขอบอกว่าไม่แพ้ทะเลของไทยอย่างแน่นอน
หากพูดถึงรายได้หลักของสีหนุวิลล์นั้น กลับไม่ใช่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่เป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอและอสังหาริมทรัพย์ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมพิเศษที่รัฐบาลสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโรงงานทอผ้า โรงงานตัดเย็บ โรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นผลพลอยได้ที่มาจากการที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาทำงานที่นี่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน แรงงานภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกัมพูชามีแรงงานหนุ่มสาวในระบบอีกจำนวนมาก ซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำเป็นสิ่งดึงดูดนักลงทุน
อุปสรรคสำคัญในการพัฒนาเมืองสีหนุวิลล์ คือการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ว่ากันว่าโรงแรมขนาดเล็กบางแห่งไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ในตอนกลางวัน ส่วนโรงแรมขนาดใหญ่ก็ต้องเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรอง เพราะไฟฟ้าที่นี่ดับบ่อย นั่นจึงเป็นที่มาของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 100 เมกะวัตต์ ซึ่งเพิ่งเปิดเดินเครื่องอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และยังมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าอีกหนึ่งโรงติดกัน ขนาด 400 เมกะวัตต์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวก็จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
สีหนุวิลล์ เป็นอีกหนึ่งโฉมหน้าของประเทศกัมพูชา ที่เราไม่เคยทำความรู้จักมาก่อน เราไม่เคยรู้ว่าประเทศนี้จะมีชายหาดที่สวยงามและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เราไม่เคยรู้ว่าที่นี่เป็นเมืองท่าที่มีอนาคตสดใส และเราไม่เคยรู้ว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชากำลังเติบโตและได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก นี่คงเป็นภาพสะท้อนที่ดีว่าที่ผ่านมาเรารู้จักกัมพูชาน้อยไป