คฑา ชินบัญชร อ่านหนังสือคือหัวใจของนักพยากรณ์

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

“ความแม่นในการทำนายเป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่ใช่หัวใจของการเป็นนักพยากรณ์ทั้งหมด คนที่เป็นนักพยากรณ์ที่ดีจะต้องสามารถอธิบายความหมายของการพยากรณ์ให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจเส้นทางเรื่องราวชีวิตของเขาได้โดยผ่านไพ่ที่ปรากฏ และต้องชี้นำแนะแนวทางปรับตัวเพื่อรับพลังธรรมชาติเข้ามาเสริมชีวิตให้มีความสุขได้ตามหลักของฮวงจุ้ย” เขมชาติ ปริญญานุสรณ์ หรือที่เรารู้จักกันในนามของ อาจารย์คฑา ชินบัญชร หมอดูไพ่ยิปซีและชินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง บอกหัวใจของการเป็นนักพยากรณ์หรือหมอดูที่ดีผ่านมุมมองและประสบการณ์มากกว่า 20 ปี

เส้นทางของนักพยากรณ์ชีวิต

แรกเริ่มเดิมที คฑาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกเส้นทางการเป็นนักพยากรณ์ เขาก็เหมือนกับคนทั่วๆ ไปที่อยากประกอบอาชีพปกติเหมือนที่คนอื่นเลือกเป็นกัน ความตั้งใจแรกๆ ของคฑาหลังเรียนจบ ก็คือ เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียน เพราะเขาเลือกเรียนในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับอีกเส้นทางหนึ่ง ก็คือ กลับไปช่วยกิจการของครอบครัวในตำแหน่งผู้บริหารภัตตาคารมังกรหลวง

แต่ชะตาชีวิตก็เหมือนกำหนดให้เขาเดินบนเส้นทางนักพยากรณ์เมื่อเพื่อนสนิทคนหนึ่งซื้อไพ่ยิปซีของ อ.ขุนทอง อสุนี มาดูกันเล่นๆ เปิดไพ่แล้วอ่านหนังสือกันไป ทายไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะไม่ได้ปะติดปะต่อเรื่องราวของไพ่แต่ละใบ แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้มากกว่าการดูไพ่ ก็คือ ไพ่ยิปซีเป็นงานศิลปะมันมีความสวยงามในตัวมันเอง

เพื่อนก็เลยให้หนังสือกลับมาอ่านแล้วเราก็กลับไปดูให้เพื่อนอีกครั้ง ปรากฏว่าแม่นว่าตรง เพราะเรารู้จักเรียงร้อยเรื่องราวความหมายของไพ่ในตำแหน่งต่างๆ และโยงเป็นเรื่องราวชีวิตที่เขาจะได้พบเจอ ก็เลยศึกษาด้วยการอ่านหนังสือเพิ่มเติมและได้มีโอกาสนั่งดูไพ่ในรายการโทรทัศน์จนมีชื่อเสียง

ส่วนฮวงจุ้ยนั้นเราได้มีโอกาสศึกษาต่อจากซินแสในประเทศสิงคโปร์ เพราะที่บ้านทำธุรกิจภัตตาคารตำหนักไทย ก็เลยได้เรียนรู้เรื่องการวางฮวงจุ้ยตั้งแต่เด็กๆ พอออกมาทำอาชีพนักพยากรณ์อย่างเต็มตัวก็คิดว่านี่ใช่ตัวเราที่สุดแล้วเพราะเราทำแล้วมีความสุข แม้เส้นทางชีวิตไม่ได้มีบุญไปเป็นอาจารย์ ไม่ได้มีบุญไปเป็นผู้บริหารธุรกิจของครอบครัว แต่เราก็เลือกเส้นทางชีวิตที่เชื่อว่าลิขิตมาให้เป็นแบบนี้

ถ้าอยากจะเป็นนักพยากรณ์

คฑาให้คำแนะนำกับนักพยากรณ์รุ่นใหม่ที่อยากจะเดินรอยตาม ว่าให้เริ่มต้นจากจุดที่ง่ายที่สุด ก็คือ การอ่านหนังสือ เพราะตัวเขาเองก็เริ่มศึกษาจากหนังสืออย่างจริงจัง ซึ่งต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ปลูกฝังให้เป็นคนที่รักการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความชอบในการอ่านหนังสือเลยทำให้เราสามารถจับใจความจากความหมายเรื่องราว ช่วยทำให้เรามีความรู้รอบด้านและสามารถบอกเล่าได้อย่างน่าเชื่อถือ

ต่อมา ก็คือ เรื่องของสมาธิที่ทำให้เราพิจารณาความหมายของไพ่เพื่อร้อยเรียงเรื่องราว ในขณะที่จับเราต้องเชื่อมั่นศรัทธาและแน่วแน่

สุดท้าย ก็คือ เราสามารถถ่ายทอดเก่ง อาจจะมีหมอดูที่ดูเก่งกว่าเราอีกมากมายแต่เขาถ่ายทอดไม่เก่ง รู้ความหมายแต่ถ่ายทอดให้ผู้มาดูเข้าใจไม่ได้ ฟังแล้วไม่รู้เรื่องเข้าใจไปคนละความหมายคนก็ไม่นิยม ดังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องแม่นไม่แม่น แต่เป็นเพราะเราสามารถให้คนเข้าใจได้ชัดเจนหรือเปล่า

“ผมไม่อยากบอกว่าเราเป็นคนที่มีความแม่นยำ แต่เป็นเพราะหลายๆ อย่างประกอบกันทำให้เราประสบความสำเร็จในการเป็นนักพยากรณ์ชะตาชีวิต ในเรื่องการดูดวง ผมจะดูอยู่ 2 อย่าง ก็คือ ฮวงจุ้ยกับไพ่ยิปซี ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของธรรมชาติ ซึ่งหลักของฮวงจุ้ยอย่างง่ายๆ ก็คือ การที่เรานำเอาพลังของธรรมชาติเข้ามาเสริมใช้กับตัวเรา ทำอย่างไรให้เอาพลังธรรมชาติ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง มาเสริมพลังให้กับชีวิตและปรับตัวเราให้เข้ากับธรรมชาติได้ เพราะเราไม่วันที่จะชนะธรรมชาติอันเป็นหลักวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง เราเรียนรู้ธรรมชาติได้แต่เอาชนะธรรมชาติไม่ได้ เราจึงต้องปรับตัวเข้าหาธรรมชาติเพื่อรับประโยชน์นั้นให้มากที่สุด

แต่ไพ่ยิปซี ก็คือ การนำเอาพลังในตัวเราออกมาดูว่าทิศทางชีวิตเราตามธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร เพราะไพ่ก็คือสิ่งที่บ่งบอกตัวเรา ทั้ง 78 ใบก็คือเรื่องราวทั้งหมดในชีวิตคนคนหนึ่งที่อาจจะเจอไปตามวิถี ผมเลยสนใจที่จะศึกษาที่จะบ่งบอกถึงตัวเราในอนาคตโดยไม่ต้องให้ใครบอก อ่านหนังสือก็พอเดาได้ แต่ใจความสำคัญของการดูไพ่ยิปซีคือการตีความให้เก่งและเล่าให้เป็นนั่นเอง” คฑา เสริมสำหรับคนที่อยากจะเป็นนักพยากรณ์

ด้วยสิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ ต้องอ่านหนังสือให้มากเพื่อหาความรู้รอบด้านและรู้จักเล่าให้เป็นนั่นเอง เหมือนที่ คฑา ชินบัญชร ผู้เป็นหนอนหนังสือตัวยง ประสบความสำเร็จในการเป็นนักพยากรณ์ระดับประเทศได้นั่นเอง