ไกรวิน ศรีไกรวิน สเตปเปนวูล์ฟแห่งรพ.พญาไท
ชายหนุ่มแต่งตัวตามสบาย สีหน้านิ่งเรียบ ระวังตัวเอง ดวงตาฉายแววฉลาดนุ่มนวล แต่ก็แฝงไว้ด้วยความมุ่งมาด ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้นึกถึงแฮรี่-ตัวละครเอกแห่งสเตปเปนวูล์ฟ
ชายหนุ่มแต่งตัวตามสบาย สีหน้านิ่งเรียบ ระวังตัวเอง ดวงตาฉายแววฉลาดนุ่มนวล แต่ก็แฝงไว้ด้วยความมุ่งมาด ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้นึกถึงแฮรี่-ตัวละครเอกแห่งสเตปเปนวูล์ฟ
เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์/ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
“ชีวิตผมอยู่คนเดียวเสียเยอะ” ชายหนุ่มมาดขรึมพูดเสียงนุ่ม “เดวิด” หรือ ไกรวิน ศรีไกรวิน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มปฏิบัติการ บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา และผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 คนล่าสุดพูดถึงตัวเอง
ชายหนุ่มแต่งตัวตามสบาย สีหน้านิ่งเรียบ ระวังตัวเอง ดวงตาฉายแววฉลาดนุ่มนวล แต่ก็แฝงไว้ด้วยความมุ่งมาด การสัมภาษณ์ในช่วงเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่เกิดขึ้นในบ่ายวันนั้น ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้นึกถึงแฮรี่-ตัวละครเอกแห่งสเตปเปนวูล์ฟ วรรณกรรมรางวัลโนเบลของเฮอร์มาน เฮสเส ทั้งคู่แม้ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่บางเหลี่ยมบางมุมก็ใช่เลย
สเตปเปนวูล์ฟ
วรรณกรรมที่อยู่ในใจคนรักหนังสือทั่วโลก สเตปเปนวูล์ฟคือหมาป่าผู้เปล่าเปลี่ยว ตัวละครเอกแฮร์รี่เผชิญการต่อสู้ ด้านหนึ่งเขาคือมนุษย์ แต่อีกด้านหนึ่งเขามีวิญญาณเป็นหมาป่า เปรียบเสมือนด้านมืดที่ขับชีวิตให้พุ่งทยานไปข้างหน้า แฮร์รี่ออกจะทุกข์ทรมานกับโลกที่จิตวิญญาณและตัวตนถูกกลืนหาย ขณะที่สัตว์ในร่างทำให้เขาเชื่อว่า เขาควรจะถูกควบคุม เปรียบเทียบกับไกรวิน มองออกว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหมาป่าผู้โดดเดี่ยว แต่หมาป่าตัวนี้ผสานให้ด้านทั้งสองของชีวิตเคลื่อนขับไปได้พร้อมกัน เขาชื่นชมความสวยงามและมีอารมณ์ขันที่ดี
“ชีวิตนักเรียนก็อยู่คนเดียวเยอะหน่อย แต่ผมปรับตัวได้ ปีแรกอยู่หอพัก ปีต่อๆ มาย้ายออกมาอยู่คนเดียวข้างนอก” ไกรวินเล่าถึงชีวิตนักศึกษาปริญญาโทสมัยเรียนอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย California University of Pennsylvania เมื่อเปรียบเทียบกับแอลเอที่ใกล้ๆ กัน พิตส์เบิร์กเจริญ สะดวกสบาย แต่ไปไหนมาไหนไกลหน่อย อีสต์โคสต์ของอเมริกาค่อนข้างเงียบ ซึ่งไม่เป็นไรเพราะเขาไม่คิดจะเที่ยวอยู่แล้ว
ซัมเมอร์กลับบ้านที่เมืองไทย ไม่ก็ไปเยี่ยมบ้านญาติที่ยุโรป แต่หลักใหญ่ใจความเรียนหนังสือเป็นหลัก เขาตั้งใจเรียนและเรียนได้ดี ชีวิตถูกใช้อย่างเรียบง่าย ไม่เฉพาะที่เมืองนอก แต่ชีวิตที่เมืองไทยแต่เล็กแต่น้อยมาก็เช่นกัน ย้อนกลับไปวัยเด็ก ที่บ้านทำธุรกิจดีลเลอร์ นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ เด็กน้อยถูกเลี้ยงดูโดยคุณตาคุณยาย เนื่องจากมารดาแต่งงานมีครอบครัวใหม่ โดยคุณตาคืออดีตผู้พิพากษา “รัตน์ ศรีไกรวิน” มีอิทธิพลต่อความคิดความมุ่งหวังและคุณงามความดีในเวลาต่อมาของไกรวินอย่างมาก
ดับเบิลไดนามิก
จบเศรษฐศาสตร์และกลับบ้านแถวๆ วิกฤตการเงินปี 2540 ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์พักหนึ่ง ก่อนจะมาตั้งหลักที่บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา บริหารโรงพยาบาลเครือพญาไท เริ่มจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักวางแผนและบริหารการเงิน รับผิดชอบเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ 3 ปีก็เสร็จ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จ จากนั้นย้ายไปหน่วยงานสนับสนุน ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน และล่าสุดขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา ดูแลบริหารภาพรวมทั้งหมดของ 4 โรงพยาบาลในเครือ
“นโยบายคือการดูแลฐานลูกค้าหลักอย่างครอบคลุมและทั่วถึงในทุกๆ มุมของลูกค้า จากความสัมพันธ์ชั่วคราวหมอกับคนไข้ เราพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน” ไกรวินกล่าว การทำงานอาศัยฐานลูกค้ากว่า 30 ปีของเครือพญาไท ดาตาเบสทั้งหมดถูกนำมาใช้ประโยชน์ พัฒนาความสัมพันธ์เชิงลึกกับคนไข้ เช่น รู้จักครอบครัวของลูกค้า บิดามารดามีความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน ลูกหลานย่อมมีความเสี่ยงและอาจต้องตรวจเรื่องพวกนี้เร็วขึ้น
ไกรวิน บอกว่า พญาไทต้องการเข้าถึงความต้องการของผู้ป่วย ครอบครัวผู้ป่วย ดูแลครอบคลุมทั้งก่อนมาโรงพยาบาล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล และเมื่อกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน ฐานข้อมูลที่ได้เปรียบเอื้อให้รู้จักคนไข้เป็นรายคน และเข้าถึงตัวผู้ป่วยอย่างแท้จริง ต่อไปธุรกิจโรงพยาบาลไม่ใช่แค่การรักษาเสร็จแล้วให้คนไข้กลับบ้าน หากจะเป็นไดนามิกที่ยิ่งกว่าไดนามิก เนื่องจากต้องพัฒนาปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ตอบสนองวิวัฒนาการทางการแพทย์ และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ผู้คนในสังคมที่เปลี่ยนฉับๆ ทุกเวลานาที
ที่สุดก็ก้าวผ่าน
“คนบ้านเราเลือกไปโรงพยาบาลเอกชนเพราะไม่อยากต่อคิวยาวเหยียดที่โรงพยาบาลรัฐ คนไทยต้องการมาโรงพยาบาลปุ๊บ รู้ผลปั๊บ นำไปสู่การแข่งขันของโรงพยาบาลที่อิงกับความไม่ต้องการคอยของคนไข้นี่เอง” ไกรวินกล่าว สำหรับพญาไทหลีกไม่พ้นที่ต้องกระโจนสู่การแข่งขัน นอกจากดาตาเบสที่ไล่ตามกันไม่ได้ง่ายๆ แล้ว พญาไทยังพลิกปรับสู่การเป็นโรงพยาบาลสมัยใหม่ เน้นความคุ้มค่า และผลลัพธ์การรักษาพยาบาลที่ดี
“พญาไทคือโรงพยาบาลอนาคต” ไกรวินกล่าว ตอบโจทย์เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ และยกระดับการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ล่าสุดคือ Phyathai Stroke Center ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองพญาไท 1 รักษาอาการหลอดเลือดที่มีภาวะตีบและแตกเฉียบพลัน โรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะถึงขั้นเสียชีวิต หรือไม่ก็ทุกข์ทรมานจากความพิการอัมพฤกษ์อัมพาต
สำคัญต้องพาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลภายใน 3 ชั่วโมงตั้งแต่มีอาการ ให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือผ่าตัดทันที การทำเช่นนี้ได้ต้องมีทีมรักษาอัมพฤกษ์อัมพาตฉุกเฉิน มีเครื่อง CT Scan 64 สไลด์ และเครื่อง MRI สมองที่เปิดใช้งาน 24 ชั่วโมง พญาไททำทั้งหมดนี้ด้วยมาตรฐานที่สูง โดยดูแลตั้งแต่เริ่มมีอาการจนกว่าจะปลอดภัยออกจากโรงพยาบาล และป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการซ้ำอีก
“ผู้ป่วยมีอัตราการตายและความพิการลดลงจากโรคหลอดเลือดสมองถึง 30% เมื่อเทียบกับการรักษาแบบธรรมดาทั่วไป” ไกรวินกล่าวต่อไปว่า การทำงานกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ ทำให้รู้สึกดี เพราะในที่สุดเราจะพบว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตของผู้คน เป็นส่วนหนึ่งของผู้คน และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ดี “ก็มารู้เอาตอนทำงานที่พญาไทนี่เองว่า สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ดีที่สุดกับผมแล้ว” หมาป่าผู้ (เคย) เปล่าเปลี่ยวยิ้มน้อยๆ
5 คนดีๆ ในชีวิต
1.รัตน์ ศรีไกรวิน
คุณตาเลี้ยงมาแต่น้อย และเป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตที่หลานคนนี้ยึดมั่น คุณตาเป็นผู้พิพากษา ใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย มีความสมดุลระหว่างงานและครอบครัว คุณตาใจดีมีเหตุมีผล สามารถฟังอะไรที่หลานตาพูดได้ยืดยาว รวมทั้งพยายามเข้าใจ (ฮา) นึกถึงคุณตาคือนึกถึงผู้ใหญ่ใจเย็นที่สุขุมนุ่มลึก รักคุณตามาก
2.สตีฟ จ็อบส์
มองทะลุความต้องการของคน มีความสามารถในการขมวดรวบยอดความต้องการและแนวทางชีวิตของคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างน่าทึ่ง สินค้าหลายอย่างของเขากลายเป็นของที่ใช้ได้และขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะไอพอด โมบายมิวสิก และอีกมาก ถือเป็นกูรูนักการตลาดคนหนึ่ง
3.นพ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์
แพทย์นักบริหารที่เก่งฉกาจ ปัจจุบันคือรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการแพทย์และธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา มีความเชื่อว่าการแพทย์เป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การบริหารการแพทย์ที่ดี ต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร ติดตามให้ทันเทคโนโลยี ตัวท่านเองเป็นตัวอย่างที่ดีในสิ่งที่ท่านเชื่อ อีกทั้งชื่นชมในความกระฉับกระเฉง อัพ-ทู-เดต เรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
4.นพ.วิชัย ทองแตง
ประธานคณะกรรมการบริษัท ประสิทธิ์พัฒนา รวมทั้งทำธุรกิจส่วนตัวอีกหลายด้าน ถือเป็นนักวิสัยทัศน์ที่เคี่ยวกลั่น มีความคิดริเริ่มสุดยอด ในทางหนึ่งเป็นคนเรียบง่าย ใช้ชีวิตเป็น วันๆ ยุ่งมาก แต่ก็เห็นบริหารจัดการเวลาได้ดี ไม่ว่าชีวิตจะยุ่งหรือยากลำบากแค่ไหน นอนหลับสบายดีทุกคืน ซึ่งน่าสนใจมาก
5.คุณน้าจี้-รัตนาวดี เสนาดิสัย
คุณน้าจี้เป็นผู้หญิงเก่ง หน้าที่การงานดี และประสบความสำเร็จในแบบที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็ใช้ชีวิตได้เหมาะสมกับช่วงวัย ครั้งหนึ่งคุณน้าเป็นผู้บริหารระดับสูงของเอไอเอ แต่ด้วยความคิดล้ำยุค แค่วัย 40 ก็รีไทร์ออกมาทำงานที่บ้าน ประเด็นคือเธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ มีเงิน มีความสุข มีเวลา ได้ใช้ชีวิตที่สนุกและคุ้ม


