เลือดใหม่ มังกรเยาวราช
“เยาวราช” ย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถูกขนานนามว่าเป็น “ถนนมังกร”
เรื่องดวงใจ จิตต์มงคล ภาพทวีชัย ธวัชปกรณ์
“เยาวราช” ย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถูกขนานนามว่าเป็น “ถนนมังกร” หรือไชน่าทาวน์ ย่านการค้าของคนไทยเชื้อสายจีน ทำการค้าจากยุคเก่าในรุ่นบุกเบิกที่ก่อร่างสร้างตัวด้วยหยาดเหงื่อแรงงานเปลี่ยนผ่านสู่ยุคต่อยอดจากทายาทคนรุ่นใหม่ด้วยการค้ายุคใหม่ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับคลื่อน แต่หลักคิดและหลักในการทำธุรกิจในแบบคนจีนยังถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง
จากระบบกงสีสู่ยุค 3จี
บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล ทายาท “เทียมสายพิณ โชควัฒนา” นักธุรกิจใหญ่สายเลือดมังกร ได้ย้อนความทรงจำในวัยเด็กเมื่อกว่า 560 ปีก่อน ภาพของบิดา “เทียม” ผู้บุกเบิกธุรกิจยุคแรกๆ ในย่านทรงวาด เยาวราช ยังแจ่มชัดในความคิด จากภาพสะท้อนของพ่อที่เป็นคนดี ทำงานหนัก และทุ่มเทต่องาน
พร้อมถ่ายทอดคำสั่งสอนต่างๆ ให้กับลูกๆ ได้ซึมซับไปโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอาจจะรู้สึกเบื่ออยู่บ้างกับคำพูดที่ซ้ำไปซ้ำมาตามประสาที่ยังเยาว์วัยอยู่ในตอนนั้น แต่ในกาลต่อมากลับพบว่าคำสอนของพ่อเป็นอมตะ ที่นำมาใช้กับการทำงานและการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี
คำสำคัญที่บุญชัยจดจำได้แม่นยำ คือ ความซื่อสัตย์ ทั้งกับตัวเองและลูกค้า รวมถึงพนักงาน แม้ในปัจจุบันระบบงานในเครือบริษัท เริ่มมีการนำระบบหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่ปัจจุบันเคลื่อนเข้าสู่ยุค 3จี แล้ว เข้ามาปรับใช้กับการทำงาน ซึ่งก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่องค์กร รวมทั้งตัวเองในฐานะผู้ริหาร ควรจะต้องปรับตัวตามให้ทัน แต่ก็พร้อมดูแลพนักงานที่อยู่กันมานานแบบคนในครอบครัวด้วย ซึ่งหากพนักงานอยู่ได้แบบมีความสุข องค์กรหรือกิจการก็อยู่ได้ด้วยเช่นกัน
พร้อมสำทับถึงรูปแบบทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า ในปัจจุบันที่ค่อนข้างแตกต่างมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเรียนจบออกมา อยากจะทำอะไรที่ง่ายๆ ได้มาง่ายๆ เพราะคิดว่าชีวิตง่าย ทำธุรกิจเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประสบการณ์ในการทำงานที่ยิ่งมาก การได้เจอผู้คนมากๆ ได้เรียนรู้แก้ปัญหาด้วยสถานการณ์จริงที่ต้องต่อสู้นั้นเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าความรู้ที่เรียนมาซึ่งยังเล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับประสบการณ์การทำงานจริง
‘ล.เยาวราช’
โชห่วยความรู้สึกใหม่
ภาสประภา กันยาวิริยะ ทายาทรุ่นที่ 4 ร้าน “ล.เยาวราช” (LOR YAOWARAJ BANGKOK) ร้านขายของชำบนถนนเยาวราช บอกถึงการลุกขึ้นมาปรับโฉมร้านครั้งใหญ่ในรอบ 70 ปีในครั้งนี้ เพื่อความอยู่รอดของร้านท่ามกลางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ “โมเดิร์นเทรด” ที่ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก ที่ปัจจุบันร้าน ล.เยาวราช แม้จะยังมีกลุ่มลูกค้าเดิมตั้งแต่สมัยคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เข้ามาจับจ่ายซื้อของในร้านอย่างต่อเนื่องก็ตาม
แต่เมื่อปรับโฉมร้านไปพร้อมกับการทำตลาดรูปแบบใหม่ ที่อาศัยสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมมาเป็นตัวเสริมด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาด้วย โดยทางร้านได้นำรถจักรยานย้อนยุคมาตั้งไว้หน้าร้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ จากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ชอบการถ่ายรูปแล้วมักจะแชร์ให้กลุ่มเพื่อนๆ ได้ดูกันต่อในโซเชียลมีเดียที่ไปพร้อมกับเช็กอินสถานที่ ซึ่งก็จะทำให้เกิดการสร้างการรับรู้แบรนด์ ล.เยาวราช ไปด้วยพร้อมกัน
นอกจากการตกแต่งโฉมใหม่ร้าน “ล.เยาวราช” ให้มีสีสันสดใสแล้ว ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายเสริมหน้าร้าน คือ ไอศกรีม ที่ได้สร้างแบรนด์ “กินติม” ขึ้นมาเอง เพื่อเป็นจุดขายใหม่ และ “เรียกแขก” กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าหรือรับประทานอาหารในย่านเยาวราชที่มีจำนวนมากทุกวัน
ส่วนอุปสรรคสำคัญก่อนการปรับโฉมร้านในครั้งนี้ คือ การเจรจาของบลงทุนกว่า 1 ล้านบาทจากคุณพ่อ คุณน้า ซึ่งถือเป็นเจ้าของร้านตัวจริง ที่มีความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนเสียเงินมากมายเพื่อปรับปรุงร้าน เพราะปัจจุบันของก็ขายได้อยู่แล้ว แต่เมื่ออธิบายเหตุผลให้ฟัง พร้อมลงมือทำจนเป็นรูปร่างกระทั่งผ่านมากว่า 1 ปี ก็พบว่ามียอดขายและจำนวนลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามาถูกทาง
‘เลี่ยงเซ่งเฮง’
ยักษ์ตื่นร้านทองตู้แดง
ชิษณุ พิสุทธิกุล ผู้บริหารร้านทองเลี่ยงเซ่งเฮง เยาวราช อีกหนึ่งลูกหลานมังกรบนถนนเยาวราช ที่ตัดสินใจออกจากงานประจำ “หนุ่มไฟแนนซ์” เพื่อยกเครื่องธุรกิจครอบครัวจากร้านทองเก่าแก่อายุเฉียด 60 ปี ให้มีความคึกคัก ตื่นจากการเป็นยักษ์หลับในรอบหลายทศวรรษ และให้ธุรกิจมีลูกเล่นผ่านผลิตภัณฑ์ทองคำ ทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณ
โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ “คาแรกเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง” นำลิขสิทธิ์ (ไลเซนส์) ดิสนีย์ อย่างคาแรกเตอร์ มิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ หรือล่าสุด หมีพูห์ ในโลกตัวการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์ มาใช้ร่วมออกแบบในผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าทั้งรุ่นเก่าที่ยังนิยมสะสมทองคำรูปพรรณ รวมถึงขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกันด้วย
“ความนิยมทองรูปพรรณในกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มลดลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้หลายคนไม่อยากสวมใส่ของมีค่าติดตัวออกนอกบ้าน และมีอีกหลายคนที่มองว่าทองคำเป็นสินค้าเครื่องประดับที่ดูเชยไปแล้ว เลยทำให้ร้านมีไอเดียอยากพัฒนาลวดลายทองรูปพรรณใหม่ๆ ออกมาผ่านคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนยอดนิยม เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้” ชิษณุ กล่าว
รวมถึงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจการค้าทองคำต่างๆ โดยเฉพาะบนถนนเยาวราชที่ต้องปรับตัวจากพฤติกรรมการซื้อทองคำของคนรุ่นใหม่ ที่หันไปสนใจการซื้อทองคำเพื่อการลงทุนในรูปแบบทองคำแท่งมากขึ้น ขณะที่ทองรูปพรรณกลายเป็นสินค้าขายดีเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งแตกต่างไปจากตลาดทองคำในอดีตรุ่นพ่อแม่ แต่เมื่อร้านทองเลี่ยงเซ่งเฮงมีการปรับรูปแบบการทำตลาดจากการนำไลเซนส์ดิสนีย์มาใช้ร่วมกับทองรูปพรรณที่ส่งผลให้ร้านทองมียอดขายจากผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณเพิ่มขึ้น
ยู้ ลูกชิ้นปลา
เดินตามรอยความอร่อย
เกยูร กิตติธเนศวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์เยาวราช เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “ยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช (Yoo Fishball) ทายาทธุรกิจขายส่งลูกชิ้นปลารายแรกบนถนนเยาวราช ที่เจ้าตัวบอกว่าเติบโตมากับกะละมังลูกชิ้นปลามาตั้งแต่เด็ก และเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาโทแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีธุรกิจไหนที่จะทำเงินสดต่อนาทีได้เท่ากับการขายลูกชิ้นปลา ทำให้เธอขอเดินตามรอยความอร่อยต่อจากป๊าและอากง “อึ้ง เป็ง ชุง” เจ้าของสูตรลูกชิ้นปลาเก่าแก่จากเมืองจีน ที่อยู่คู่ถนนแห่งนี้มากว่า 85 ปี
จากสูตรความอร่อยในการทำลูกชิ้นปลาที่ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบัน ที่ทำให้เกยูรเห็นว่าธุรกิจลูกชิ้นปลาเยาวราชสูตรดั้งเดิมแบบนี้ สามารถต่อยอดให้มีความทันสมัยได้ในรุ่นของเธอ จึงตัดสินใจใช้เงินลงทุนส่วนตัวเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรลูกชิ้นปลาเยาวราช ภายใต้ชื่อ “ยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช เป็นสาขาแรกในย่านเยาวราช และเพิ่มอีก 4 สาขาในปัจจุบัน คือที่สยามเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี ซอยอารีย์ และสุรศักดิ์
สำหรับชื่อร้านนั้นต่อยอดมาจากชื่อเล่นของเธอเอง คือ “ยู้” เพื่อสร้างแบรนด์ธุรกิจ ให้จดจำง่าย มีความทันสมัย และสื่อถึงการเป็นธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวของคนรุ่นใหม่ ที่แตกต่างไปจากร้านก๋วยเตี๋ยวในรุ่นพ่อที่ไม่มีแบรนด์ชัด โดยปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจ 3 ส่วนหลัก คือ ร้านก๋วยเตี๋ยว “ยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช” ศูนย์อาหาร (ฟู้ด คอร์ท) “แกรนด์ เยาวราช” เปิดให้บริการสาขาแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ธุรกิจบริการรับจัดเลี้ยง (เคเทอริ่ง) และธุรกิจรับจ้างผลิตลูกชิ้นปลาเพื่อการส่งออก
พร้อมทิ้งท้ายถึงคำสอนจากป๊าว่า ก่อนทำธุรกิจส่วนตัวหรือจะมาเป็นเถ้าแก่นั้น จะต้องเป็นลูกน้องก่อนเพื่อเรียนรู้งาน ทำงานให้เป็นทุกขั้นตอน แล้วค่อยลงมือออกมาทำตามความฝัน ซึ่งนอกจากจะทำงานประจำเป็นพนักงานในธุรกิจด้านส่งออกราว 1 ปีแล้ว เกยูรยังได้มาฝึกงานกับที่บ้านอีก 3 เดือน เพื่อเรียนรู้ธุรกิจ ก่อนตัดสินใจเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช เพี่อมาขอท้าชิงความอร่อยกับร้านป๊าบนถนนแห่งนี้ด้วย
เป็นเครื่องยืนยันว่า เยาวราชในวันนี้จะเปลี่ยนไป แต่ปรัชญาในการค้าขายแบบคนจีนนั้นยังไม่เคยเปลี่ยน
เยาวราช จากเก่าสู่ใหม่
“เยาวราช” หรือ “ถนนมังกร” ตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีนมีจุดเริ่มต้นหรือหัวมังกร บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบริเวณวงเวียนโอเดียน ท้องมังกรอยู่ที่บริเวณตลาดเก่าเยาวราชและสิ้นสุดปลายหางมังกรที่บริเวณปลายสุดของถนน
หากอยากเดินเที่ยว ดูความคึกคักของถนนสายนี้ มีหลายช่วงเวลาให้เริ่มต้นความเพลิดเพลินกันได้แบบ 24 ชั่วโมง
เยาวราชวันนี้ผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ทั้งธุรกิจและผู้คนจากรุ่นสู่รุ่นที่อาศัยในย่านนี้เอาไว้แบบกลมกลืน เห็นได้จากร้านอาหารจีนชื่อดังในอดีตหลายร้าน หรือร้านขายของชำบางแห่ง ที่มีการปรับโฉมใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน
เริ่มต้นกันที่บริเวณวงเวียนโอเดียน แล้วเลาะทางเดินเท้าฝั่งซ้ายมือเพื่อเข้าสู่ถนนเยาวราชคู่ขนานไปกับวันเวย์ ในฝั่งนี้ยังมีร้านรวงเก่าแก่หลายแห่งที่เปิดให้บริการมานานหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน อย่างร้านอาหารติ่มซำเลื่องชื่อ “เดอะ แคนตัน เฮาส” (The Canton House) ที่ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติยืนต่อคิว เพื่อรอรับประทานเป็นอีกหนึ่งตำนานอาหารอร่อยบนถนนสายนี้
เดินต่อไปเรื่อยๆ จะพบร้านยิ่งเจริญ ร้านขายเครื่องประดับ เครื่องรางของขลัง กำไล แหวน ทำด้วยหยก หุ่นปั้น เทพเจ้าต่างๆ และอื่นๆ ที่พอมีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปดูสินค้าประปราย หรือแม้แต่ร้านขายยาจีน สมุนไพร จีนโบราณ ที่หาดูได้ยากในย่านใจกลางเมืองปัจจุบัน เยาวราชยังมีร้านขายยาลักษณะนี้เปิดขายอยู่เป็นจำนวนมาก


