ฐิติพัฒน์ มีชูบท เจ้าของกล้วยฉาบอินเตอร์

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ย้อนกลับไปสมัยเรียน ถ้าคุณถูกอาจารย์หรือเพื่อนร่วมชั้นประชดประชันด้วยการบอกให้คุณออกไปขายกล้วยทอดดีกว่า เป็นใครก็คงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่สำหรับหนุ่มนักเรียนนอก ฐิติพัฒน์ มีชูบท กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออฟพิมุส เจ้าของกล้วยฉาบแบรนด์บานานาโจ เขากลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะยิ่งทอดก็ยิ่งรวย

ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานนัก บริษัทการเงินแห่งหนึ่งส่ง ฐิติพัฒน์ ไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าไปดูงานแฟร์ด้านขนมจากทั่วโลก ซึ่งแต่ละประเทศก็เอาขนมในชาติของตัวเองมาแข่งกัน ตอนแรก ฐิติพัฒน์ ตั้งใจว่าจะมองหาขนมที่สามารถอิมปอร์ตเข้ามาขายได้

แต่เขากลับจับทางได้อย่างหนึ่งก็คือ ขนมที่ขายได้และผู้คนก็นิยมมักจะเป็นขนมพวกชิป หั่นรับประทานเป็นชิ้นๆ อย่างมันฝรั่ง ซึ่งคนทั่วโลกส่วนใหญ่จะชอบ ซึ่งดูแล้วเมืองไทยเราก็มีขนมหลายอย่างที่เราเอาไปขายทั่วโลกได้ สู้เอาของเราไปขายน่าจะดีกว่าเยอะ

“กลับมาเมืองไทยเราก็มาดูว่าในบ้านเรามีอะไรบ้าง ก็มาสบกับกล้วยฉาบ ที่มีลักษณะเป็นชิ้นๆ เหมือนกัน ก็เลยติดต่อขอสูตรเขาก็ไม่ให้ เราเลยเข้าอินเทอร์เน็ต ดูวิธีสาธิตการทำจากยูทูบ ลองดูสูตรจากบล็อกเกอร์อาหารหลายๆ เว็บ หาสูตรทำกล้วยฉาบหลายๆ สูตร ลงทุนซื้อน้ำมัน กระทะ กล้วย มาทอดเองเลย ทดลองชิมหมดกล้วยไม่ต่ำกว่า 200 กก. ตั้งหน้าบ้านทอดลองสูตร ทั้งบ้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกล้วยฉาบ แล้วเราก็พยายามลดจุดอ่อนของกล้วยฉาบที่มีอยู่ด้วยการลองผิดลองถูกมา 3 ปี ทำงานไปทอดกล้วยไป

นอกจากนี้ก็ยังพึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การอาหารให้มาช่วยค้นคว้าทดลองทำกล้วยฉาบด้วยกัน ว่าทอดอย่างไรไม่ให้ไหม้ บางได้ที่ น้ำตาลไม่เกาะเป็นก้อนๆ จนสุดท้ายเราก็ได้กล้วยฉาบอย่างที่เห็น” ฐิติพัฒน์ เล่าที่มาที่ไปของธุรกิจที่เริ่มจากจุดประกายเล็กๆ หาข้อมูลอินเทอร์เน็ตและลงมือทำ และยังใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่มาพัฒนากล้วยฉาบไทยให้มีรสชาติดีกว่าเดิมอีกขั้นหนึ่ง

 

ฐิติพัฒน์ บอกกับเราอีกว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ช่วยทำให้เขาสามารถเปิดบริษัทได้โดยลดค่าใช้จ่ายในระบบไอทีได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลายล้านบาทเพื่อวางระบบไอที แต่หันมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง แค่ใช้อินเทอร์เน็ตต่อเข้าระบบกลางที่เราสมัครไว้ก็มีอีเมลกับที่เก็บไฟล์เอกสารกลางซึ่งทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้พร้อมๆ กัน เพื่อเข้าถึงข้อมูลยอดขายสินค้าได้จากทุกที่แบบเรียลไทม์ว่าตอนนี้เราขายได้เท่าไหร่และมียอดกำไรเท่าไหร่แล้ว

นอกจากนี้ ผมก็ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารด้วยแอพประเภทแชตและอีเมล รวมทั้งประหยัดค่าโฆษณาด้วยการหันมาทำการตลาดในโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เพื่อให้คนเห็นสินค้าของเราได้มากกว่าด้วยต้นทุนที่ถูกมากๆ โดยเฉพาะเพจ Facebook.com/bananajoe เป็นเครื่องมือหลักที่ผมจะใช้ทำการตลาดกับลูกค้า

อย่างเปิดเว็บไซต์ก็มีเหมือนกัน แต่เราจะสะกดอีกแบบหนึ่ง ตอนแรกเราตั้งใจจะจดโดเมนเนม bananajoe.com แต่ราคากระโดดขึ้นไปถึงหมื่นกว่าเหรียญ เพราะมีคนจดโดเมนเนมนี้เตรียมทำกำไรไว้แล้วรอให้เราไปซื้อชื่อจากเขา สุดท้ายเราเลยต้องใช้ชื่อ bananasjoe.com เติมเอสเข้าไปหนึ่งตัวก็กลับมาได้ราคาจดโดเมนเนมปกติ

แสดงว่าเครื่องมือการทำการตลาดผ่านโลกออนไลน์มันมีมูลค่ามหาศาลมาก และเทคโนโลยีก็ทำให้เราอยู่ได้สบายขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โลกแคบลง แคบจนอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่ดูไกลตัวแต่อินเทอร์เน็ตทำเหมือนอยู่ใกล้เราอย่างไม่น่าเชื่อ

“อย่างแต่ก่อนเราจะศึกษาหุ้นตัวหนึ่งต้องไปตลาดหลักทรัพย์ ไปหาหนังสือมาอ่าน แต่เดี๋ยวนี้เราเข้ากูเกิลคำตอบที่เราควรรู้มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดจะอยู่ในนั้น ที่เหลือจะอยู่ที่ประสบการณ์ในการลงมือทำที่จะทำให้เรารู้ลึกรู้จริงถึงปัญหาและค้นหาทางแก้ปัญหาต่อไป

เหมือนที่เคยหาสูตรทำกล้วยฉาบในอินเทอร์เน็ต ก็ได้ความรู้มาระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือการลงมือทำ ทำให้รู้ลึกรู้จริงถึงปัญหาในการทำกล้วยฉาบ ปัญหาที่กูเกิลไม่ได้บอกกับเรา และไม่มีในยูทูบ ทุกอย่างจึงอยู่ที่การลงมือทำล้วนๆ แต่เมื่อเราเจอทางตัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็สามารถช่วยให้เราหาคำตอบหาทางแก้ไข เช่นที่เราทำให้บานานาโจประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้” ฐิติพัฒน์ ทิ้งท้ายเคล็ดลับความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่การค้นหาในกูเกิลเพียงอย่างเดียว การลงมือทำคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจของทุกคนเป็นจริง

เทคโนโลยีโดนใจ

1.ดร็อปบ็อกซ์

บริษัทของบานานาโจใช้แอพดร็อปบ็อกซ์ในการเก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งทำให้เขาสามารถลดต้นทุนการวางระบบไอทีสำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ๆ ด้วยเงินลงทุนไม่มาก

2.เล่นกับเกมวางแผนธุรกิจ

หลายๆ เกมอาจทำให้เราเสียเวลาการทำงาน แต่สำหรับ ฐิติพัฒน์ เกมวางแผนธุรกิจช่วยทำให้เราได้ความรู้บางอย่างในการบริหารจัดการเข้ามาช่วยในการทำงาน

3.นักวิจัยช่วยธุรกิจได้

หากคุณอยากพัฒนาสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ลองปรึกษากับเนคเทคหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อขอองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาแก้ปัญหาสินค้าให้ดีขึ้น

4.กล้าลองใช้เทคโนโลยีเพื่อสินค้า

คนส่วนใหญ่มักติดภาพกล้วยหอมในถุงพลาสติกใส แต่ ฐิติพัฒน์ กล้าเลือกใช้ห่อฟอยล์เพื่อเก็บรักษาคุณภาพ รวมทั้งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้น้ำตาลเคลือบตัวกล้วยฉาบแบบไม่เกาะเป็นก้อน