โมเลกุลคู่
หลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสามีและภรรยาที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวต่อกัน
หลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสามีและภรรยาที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวต่อกัน เมื่อต้องมาทำงานร่วมกันฉันเจ้านายกับลูกน้อง จะเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือไม่
เรื่องนี้ “นพ.สมยศ อนันตประยูร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) หนึ่งในผู้ประกอบการคลังสินค้ารายใหญ่ของประเทศไทย กับ “จรีพร อนันตประยูร” หรือคุณจูน ภรรยาคู่ใจ กรรมการผู้อำนวยการ WHA ได้มาเฉลยให้ฟังว่า ความสัมพันธ์เช่นนี้มีข้อดีที่ทำให้ความรักของเขาและเธอแนบแน่นขึ้น กับการทำงานในบริษัทของตัวเองที่ทั้งคู่ร่วมปลุกปั้นกันขึ้นมา
เราเป็นโมเลกุลคู่
นพ.สมยศ เธอไม่ใช่เป็นเพียงคู่ชีวิต แต่เป็นเนื้อคู่ หนังคู่ กระดูกคู่ โมเลกุลคู่ คุณจูนเขาเป็นคนเนื้อหอม มีคนมาจีบเยอะมาก ผมชอบที่เขาฉลาด มีไหวพริบ ขยัน มีความรับผิดชอบสูงจนน่าตกใจ ที่สำคัญ “เขารักผม” และเป็นเรื่องที่หลอกกันไม่ได้ เรื่องความรัก เป็นอะไรที่จริงจังมาก เพราะถ้าไม่รักก็คงไปด้วยกันไม่ได้
“เวลางานคุณจูนเขาจะไม่มาเบ่งกรี๊ดกร๊าดเจ้ากี้เจ้าการว่าฉันเป็นภรรยานะ เพราะถ้ามาแนวอย่างนั้นเราคงอยู่กันไม่ยืด และถ้าเราอยู่ในเวลางาน ผมใส่สูท ผมจะไม่ถือของให้นะ เพราะเรามีหน้าที่เป็นเจ้านาย ใช่ไหมล่ะ จะให้ไปถือของมันไม่ใช่ เราแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน หรือแม้แต่เวลาสอนการบ้านลูก เราจะสอนกันคนละวิชา เพราะแต่ละคนต่างมีวิธีการสอนต่างกัน เราจะไม่ก้าวก่ายกันและกันในเรื่องของการสอนลูก” คุณหมอสมยศ กล่าว
การแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวนั้น ผมว่ามันจำเป็นนะ อยู่ที่วุฒิภาวะด้วย แล้วถ้ามีอยู่สูงก็จะแยกแยะเรื่องเหล่านี้ได้ คุณต้องรู้จักมีกฎเกณฑ์ และเป็นเรื่องของการอยู่ในกฎเกณฑ์
การทำหน้าที่สามีภรรยา จะต้องรู้จักให้อภัยกัน คนเรามีผิดกันได้ ก็คอยแก้กันไป และในบางครั้งต้องรู้จักคำว่า “ถอยคนละก้าว” จะดื้อดึงหัวชนฝา หรือมีความเชื่อมั่นแบบไร้สตินั้น คงไม่สามารถทำให้ชีวิตคู่อยู่ได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องยอมรับ ยอมถอยบ้าง เราทั้งคู่พยายามหาโซลูชั่นร่วมกัน
งานเป็นสื่อรัก
จรีพร เราทำงานด้วยกันตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน มีงานเป็นสื่อนำให้มีโอกาสได้รู้จักกัน โดยตัวเธอนั้นทำงานอยู่บริษัทยา ก็ต้องคุยต้องเจอกับ นพ.สมยศ ซึ่งตอนนั้นเป็นหมอที่โรงพยาบาลศิริราช
“พี่เป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาจีบตรงๆ ซึ่งคุณหมอจะมาแนวคุยเรื่องงาน กว่าจะรู้ตัวว่าจีบก็ใช้เวลาหลายเดือนอยู่” นับตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งตอนนี้ก็นับว่าผ่านมานานนับ 25 ปีแล้ว
เธอว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนหยินกับหยาง พอมาอยู่ด้วยกันแล้วลงตัวก่อให้เกิดพลัง โชคดีที่ต่างถนัดกันคนละด้าน คุณจูนถนัดเรื่องการขายและการเงิน ขณะที่คุณหมอจะถนัดเรื่องภาพรวมของการบริหาร มุมมองของธุรกิจ และยิ่งเป็นเป็นสามีภรรยาด้วยแล้ว ทำให้มีความเชื่อใจระหว่างกันเป็นพื้นสร้างพลัง และกลายเป็นประโยชน์สูงสุด
ที่สำคัญ เวลางานคืองาน จะแยกกันโดยชัดเจน ไม่นำเรื่องส่วนตัวมายุ่งเกี่ยว คุณจูนยอมรับคุณหมอในฐานะเจ้านาย เขามีมุมมองและความคิดไม่เหมือนคนอื่น กล้าทำ กล้าตัดสินใจในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า ทำให้ WHA มีวันนี้ เชื่อในสิ่งที่คุณหมอคิด และเรา 2 คนลุยมาด้วยกัน ถ้าเราไม่ทำในวันนั้น ก็ไม่สามารถเปลี่ยนโลกธุรกิจขนส่งของประเทศไทยได้ และหากทำพลาดในวันนั้น อย่างมากก็แค่หมดตัว
“เวลาเขาใส่สูทจะเป็นอารมณ์ทำงานระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เห็นพี่ถือของหนักพวกกระเป๋าหรือแฟ้มจะไม่เข้ามาช่วยเลย แต่เวลาอยู่บ้านหรือไม่ได้ใส่สูทจะดูแลเราทุกอย่างดีมาก ไปช็อปปิ้งพี่แทบไม่ต้องถือของเลย แม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นข้ามถนน จะป้องกันพี่และลูกไว้ เขาจะนำก่อนทุกครั้ง และคุณหมอเป็นคนใจดีมาก เวลาพี่ทำอะไรผิดหรือพลาด ไม่เคยดุ ไม่เคยว่าพี่เลย”
โชคดีที่เราทำงานด้วยกัน ไม่เช่นนั้นคงเลิกกันไปนานแล้ว ด้วยความที่บ้างานทั้งคู่ ทำให้อยู่ด้วยกันตลอด รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรอยู่ และเมื่อกลับบ้านก็ไม่นำเรื่องงานมาเป็นหัวข้อสนทนา
เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ค่อยยอมใคร แต่กับผู้ชายคนนี้กลับยอมได้ เพราะรักคำเดียว ...
เราทั้งคู่ไปเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนต่างประเทศด้วยกันตลอด พอเห็นนามสกุล นักลงทุนถามว่าเป็นอะไรกัน ตอบไปว่าเป็นสามีภรรยากัน เขาสงสัยว่าความที่เป็นสามีและภรรยา แต่สามารถทำงานร่วมกัน ช่วยกันดูแลธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างราบรื่นได้อย่างไร ไม่เคยเห็นมาก่อน จนถึงกับอยากจะศึกษา เพราะชอบโมเดลนี้มาก และเวลาไปโรดโชว์ก็จะชอบให้ไปเป็นแพ็กคู่


