ชีวิตสุขสันต์ในวันทำงาน
สวัสดีปีมะเมียค่ะ ปีม้านี้จะเป็นม้าทอง ม้าศึก ม้าขาว หรือม้ารับใช้ไม่ควรขึ้นอยู่กับหลักการทางโหราศาสตร์เพียงอย่างเดียว
โดย...รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข
สวัสดีปีมะเมียค่ะ ปีม้านี้จะเป็นม้าทอง ม้าศึก ม้าขาว หรือม้ารับใช้ไม่ควรขึ้นอยู่กับหลักการทางโหราศาสตร์เพียงอย่างเดียว ผู้เขียนเชื่อว่าชีวิตของเราน่าจะอยู่ที่เราเป็นคนกำหนดมากที่สุด ความสุขความทุกข์มันขึ้นอยู่กับวิธีที่เราคิด พูด และกระทำ สำหรับบางคนที่มีฐานะธรรมดาๆ หรือแม้ว่าจะดูยากจนในสายตาของคนที่มีสตางค์มากกว่า แต่หากว่าคนคนนั้นรู้สึกพอใจกับสิ่งที่เขาเป็นและมีอยู่ ความสุขก็อยู่รอบๆ ตัวเขาแล้ว โดยไม่ต้องตะเกียกตะกายไขว่คว้าเช่นบางคนที่มีแต่ความอยากที่เกินพอดี เกินกำลังความสามารถที่จะแสวงหามาได้ แบบนี้ก็ยากที่จะหาความสุขได้นาน
แต่เนื่องจากมนุษย์เรามิใช่นักบวชผู้หลุดพ้นจากความโลภ โกรธ หลง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องพบกับความทุกข์บ้างเป็นครั้งคราว สำหรับมนุษย์เงินเดือนเช่นผู้เขียนและแฟนๆ คอลัมน์ที่เป็นคนธรรมดาๆ ย่อมต้องรู้สึกบ้างว่าบางครั้งเราไม่อยากไปทำงาน รู้สึกเบื่อ เหนื่อยหน่าย และอาจถึงกับอยากลาออกจากงานเพราะเกิดความไม่แฮปปี้อย่างรุนแรง แต่เราก็ต้องอดทน บางครั้งอดทนอยู่สักพักก็จะรู้สึกดีขึ้นไปเอง บางครั้งทนเป็นเดือนเป็นปี ความทุกข์นั้นก็ยังไม่จางลง จะออกจากงานก็ยังไม่พร้อม ทีนี้จะทำอย่างไร? ถ้าทุกข์หรือหงุดหงิดอยู่นานๆ มันก็ไม่เป็นเรื่องดีกับตัวเองและองค์กร เพราะถ้าเซ็งจนไม่อยากทำงาน ผลงานออกมาย่อมไม่ดี การประเมินผลงานและผลตอบแทนย่อมแย่ตาม พอผลตอบแทนแย่ จิตใจก็แย่...วนกันไปเป็นวงจรแห่งความเลวร้าย (Vicious Circle) ยิ่งทำให้แย่ลงๆ ทุกข์มากขึ้นๆ ไปอีก อย่างนี้ต้องแก้ไขแล้วค่ะ ปีใหม่ตอนนี้ย่อมเป็นโอกาสเหมาะที่เราจะเรียนรู้ฝึกฝนตนเองให้สามารถสร้างความสุขแก่ตน ณ ที่ทำงานให้จงได้
มีกลยุทธ์หลายประการด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ง่ายๆ จนถึงยากหน่อย แต่รับรองว่าไม่เกินความสามารถที่เราจะทำได้ ตามมาอ่านต่อกันเลยค่ะ
ออกไปทานอาหารนอกที่ทำงานบ้าง ข้อนี้ไม่น่ายาก การจำเจจับเจ่านั่งอยู่ออฟฟิศทั้งวัน มันไม่สร้างความรื่นรมย์ให้ชีวิตสักเท่าไหร่ อย่างน้อยเดินจากออฟฟิศไปนั่งทานอาหารกลางวันนอกสถานที่บ้างสัก 50 นาที เป็นการเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนรสชาติอาหาร สร้างสีสันให้ชีวิต บางคนต้องประหยัดไม่อยากซื้ออาหารข้างนอกรับประทาน ไม่เป็นไรค่ะ มีทางออกให้เสมอ ท่านก็ทานอาหารเที่ยงที่ออฟฟิศสัก 2030 นาทีให้เสร็จ จากนั้นหยิบรองเท้าสวมสบายออกเดินจากออฟฟิศไปตามถนนหนทางดูร้านรวงต่างๆ หย่อนอารมณ์สัก 2030 นาที เสร็จแล้วเดินกลับที่ทำงานได้ออกกำลังและพักจิตไปพร้อมๆ กันเลย ถ้าอากาศสกปรกมีฝุ่นละออง จะสวมหน้ากากปิดจมูกกันผงฝุ่นก็ยังได้
กล้าพูดแสดงความเห็นโดยไม่ต้องก้าวร้าว (Be Assertive) การที่ปิดปากเงียบไม่แสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ ณ ที่ทำงานอาจจะไม่ใช่กลยุทธ์การทำงานที่เหมาะสม เจ้านายและเพื่อนร่วมงานอาจคิดว่าท่านเป็นคนไม่มีความเห็นหรือเลี่ยงความรับผิดชอบ หรือไม่ฉลาดก็ได้ ควรแสดงความเห็นตามโอกาสอันควร กล้าให้คำวิจารณ์อย่างสุภาพและอย่างมีจิตวิทยาแบบนักการทูต เพื่อนร่วมงานจะมองว่าท่านมีความรับผิดชอบใส่ใจในงานและมีความเป็นมืออาชีพ การที่เรามีความทุกข์ใจไม่ต้องแก้ด้วยการพ่นพิษพูดจาร้ายๆ ก้าวร้าวต่อคนอื่นหรือเงียบไม่พูดแบบเก็บกด
เป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงาน แม้ว่าอาจจะยากอยู่สักหน่อยที่จะหาเพื่อนดีๆ ที่จริงใจในที่ทำงาน ไม่เหมือนเพื่อนสมัยวัยเรียนที่รู้ใจและจริงใจต่อกันมากกว่า แต่การที่ท่านมีความจริงใจและปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือให้ความร่วมมือตามกาลเทศะ ท่านก็น่าที่จะได้รับมิตรจิตมิตรใจที่น่าชื่นใจกลับคืนมาไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ความจริงใจไม่ได้หมายความว่าท่านต้องพูดทุกอย่างที่ท่านคิดให้เพื่อนร่วมงานฟังหรือเล่าความลับให้เขาฟัง นโยบายไม่นินทาเพื่อนร่วมงานยังคงเป็นนโยบายการทำงานที่ชาญฉลาดสำหรับทุกยุคทุกสมัย มันจะป้องกันมิให้ท่านตกอยู่ในฐานะลำบาก
สร้างมิตรภาพ อย่าสร้างแค่เครือข่ายความสัมพันธ์ (Create relationship not just network) สมัยนี้ใครๆ ก็สอนให้รู้จักสร้าง “network” หรือเครือข่ายความสัมพันธ์เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำงานและทำธุรกิจ การสร้างเครือข่ายเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่อย่าเน้นเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจมากเกินไปจนทำให้ใครๆ รู้สึกว่าท่านสนใจแต่เรื่องผลประโยชน์ ท่านควรตระหนักว่าเครือข่ายทางสังคมที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพและความปรารถนาดีต่อกันอย่างจริงใจจะมีอายุยืนยาวมั่นคงมากกว่าเครือข่ายที่ตั้งขึ้นบนความมุ่งหวังทางการค้าหรือธุรกิจเท่านั้น
ให้นึกขอบคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ของท่าน (Be Grateful) มองไปรอบๆ แล้วท่านจะตระหนักว่าชีวิตของท่านที่ว่าทุกข์ว่าแย่ ยังมีคนอื่นที่ลำบากทุกข์ทรมานมากกว่าท่านมากมายนัก จงรู้สึกขอบคุณพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ดลบันดาลให้ท่านมีชีวิตอย่างเช่นในปัจจุบัน มีงานทำ มีรายได้ ในขณะที่คนเป็นล้านตกงาน
สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้น่าอยู่ (Create an office nest) คนเราใช้เวลาอยู่ที่ทำงานประมาณวันละ 8 ชั่วโมง ท่านสามารถตกแต่งประดับห้องทำงานหรือพื้นที่ทำงานของท่านให้น่ามองนั่งสบายมากขึ้น เช่น หาหมอนอิงหรือโต๊ะวางเท้าเล็กๆ เพื่อให้ท่านนั่งทำงานได้สบายขึ้นโดยไม่ปวดหลัง หาแจกันดอกไม้หรือรูปสวยๆ มาประดับโต๊ะทำงาน หาปากกาสีสวยๆ มาเขียนงาน ฯลฯ สภาพที่ทำงานที่สวยงามจะมีส่วนช่วยจรรโลงใจให้อยากทำงานมากขึ้น
ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการทานอาหารให้ถูกส่วน ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย ร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามกันไป
ให้รางวัลตัวเองบ้าง เวลาทำงานเหนื่อยๆ ให้รางวัลตัวเองด้วยการช็อปปิ้งสิ่งของที่ตนเองอยากได้ (ที่ไม่เกินฐานะ) หรือทานอาหารที่ชอบ ใครไม่ให้รางวัลเราก็ไม่เป็นไร เราให้รางวัลตัวเองก็ได้
หายใจเข้า-ออกลึกๆ ยาวๆ เวลาเครียด ในทางจิตวิทยาและศาสตร์ของการนั่งสมาธิ การหายใจเข้าออกยาวๆ จะช่วยคลายเครียดของกล้ามเนื้อในร่างกายและของจิตใจไปได้ เวลาประชุมมาเครียดๆ ให้หาเวลาพัก 5 นาที ผ่อนคลายด้วยการหายใจดู...แล้วห้ามบอกว่าเวลาแค่ 5 นาทีก็หาไม่ได้นะคะ
เปลี่ยนตัวเอง อย่าคิดเปลี่ยนคนอื่น ข้อนี้สำคัญมาก การที่เรามีความทุกข์เพราะคนโน้นคนนี้สร้างความไม่สบายใจให้แก่เรา เรามักโทษว่าเป็นความผิดของเขาและเราหวังว่าเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาให้ดีขึ้น ความคาดหวังนี้มีไว้ก็ไม่เสียหายอะไร แต่ที่ง่ายกว่าคือเราควรเปลี่ยนตัวเองในแง่ของวิธีคิด วิธีมองโลก หากเราเคยมีวิธีมองตัวเรา มองคนอื่น และมองโลกที่นำความทุกข์ความไม่สบายใจมาให้เรา เราน่าจะต้องเปลี่ยนบ้าง เรื่องที่เคยทำให้เราหงุดหงิด เราคงต้องมองสิ่งนั้นและคิดว่าไม่เห็นน่าหงุดหงิด หงุดหงิดทำให้โง่ ให้ตัวเราทุกข์ ฝึกวิธีคิดอย่างนี้วันละนิดละหน่อย นานวันเข้าเราก็มีเรื่องที่ทำให้เราหงุดหงิดและทุกข์น้อยลง แต่มิได้หมายความว่าเราหลอกตัวเอง หรือมองเรื่องที่ผิดให้เป็นเรื่องถูก ความผิดความถูกมันก็ยังเป็นเช่นนั้น เรื่องไม่ดีเราก็ค่อยๆ แก้ไขไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องอารมณ์เสียกับมัน ถ้ายังแก้ไม่ได้ก็วางมันไว้ก่อน ทำในสิ่งที่เราทำได้ก่อน สร้างความสุขในใจให้ตัวเราก่อน
ในโลกนี้ไม่มีใครรักและหวังดีต่อเราเท่ากับตัวเราเอง เราเกิดและตายคนเดียว มีแต่เราเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งถาวรของเรา ความสุขความทุกข์อยู่ที่ตัวเราจะคิดค่ะ ขอให้ทุกท่านพบความสุขในทุกๆ สถานไม่เฉพาะแต่ที่ทำงานนะคะ


