ปลายทางที่ ปางอุ๋ง

โดบ...สืบสิน / ภาพ ลีโอ

เพื่อนที่อยู่ จ.เชียงใหม่ ส่งไลน์มาหา บอกถึงองศาของอากาศที่นั่นว่ายามนี้ต่ำถึง 14 องศาแล้ว มันเป็นการย้ำเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาที่เราต้องแบ็กแพ็กกระเป๋าเดินทางใบเก่งไปสัมผัสลมหนาวที่ไหนสักแห่ง เย้!!!

หนาวนี้ล่ะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่เมือง 3 หมอก ชื่อว่าแม่ฮ่องสอน รู้สึกตื่นเต้นและเร้าใจ เรียกว่าชุ่มฉ่ำหัวใจเป็นที่สุดก็ว่าได้ เพราะที่เป็นการเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศอันหนาวฉ่ำถึงแม่ฮ่องสอนเป็นครั้งแรก

 

แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดชายแดนจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 924 กิโลเมตร

แม่ฮ่องสอนเมืองหมอก 3 ฤดู แม่ฮ่องสอนจะถูกปกคลุมด้วยหมอกต่างๆ ตามฤดูกาล คือ ฤดูหนาว หมอกน้ำค้างในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อน หมอกควันจากการเผ่าไร่เกษตรและไฟป่าในฤดูร้อน และฤดูฝน จะอาบฉ่ำไปด้วยหมอกแห่งสายฝนประจำฤดูกาล

 

ความงดงามเหล่านี้ไม่เพียงประทับใจชาวไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติยังนิยมแบกเป้ เช่ารถมอเตอร์ไซค์ ไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ทั่ว จ.แม่ฮ่องสอน กันอย่างหนาแน่นทีเดียวล่ะครับ

หลังจากฝนตกหนักมานาน ก็ย่างก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเข้าเดือน ต.ค. ยาวไปจนถึงกลางเดือน ก.พ.โน้น ช่วงนี้ล่ะ จ.แม่ฮ่องสอน จะกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง

 

จริงๆ แล้วความหลากหลายของชุมชนที่อาศัยอยู่รวมกันมาช้านาน ก็เป็นเสน่ห์ให้จังหวัดนี้ไม่เหมือนใคร ทุกวันนี้ยังมีชุมชนอยู่ในจังหวัดนี้ไม่ต่ำกว่า 25 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนไทยเชื้อสายไทยใหญ่ หรือคนไต ที่เรียกตัวเองว่า ไตหลง

และก็มีกลุ่มชาวไทยภูเขา ที่มีมากถึง 576 หมู่บ้าน ในทุกอำเภอของ จ.แม่ฮ่องสอน แบ่งเป็นเผาต่างๆ เช่น กะเหรี่ยง เป็นชนเผ่าที่มีประชากรมากที่สุดของชาวไทยภูเขา มูเซอ ลีซอ ลัวะ แม้วหรือม้ง ปาดอง หรือกะเหรี่ยงคอยาว และจีนฮ่อ ซึ่งแต่ละชุมชนก็จะมีวัฒนธรรมของตนเองอย่างชัดเจน

 

หลังจากวางแผนการเดินทาง เราก็พร้อมเดินทางไปพิชิตหนาวกันที่เมืองหมอก 3 ฤดูอย่างสนุกสนานและน่าประทับใจ จนอยากจะมาชวนเพื่อนๆ พี่น้องออกไปสัมผัสด้วยกัน

ทุ่งดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ

กลายเป็นไฮไลต์ที่พลาดไปเสียมิได้แล้วล่ะครับ ถ้ามาเยือนที่แม่ฮ่องสอน นั่นคือ ทุ่งดอกบัวตอง พอเริ่มต้นหน้าหนาวดอกบัวตองก็จะแข่งขันกันบานรับลมเย็นฉ่ำ ยิ่งหนาวเท่าไหร่เราก็จะได้สัมผัสกับทุ่งบัวตองแบบเต็มๆ และในทุกปีทาง จ.แม่ฮ่องสอน ก็จะจัดให้มีเทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ อ.ขุมยวม ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นระหว่างวันที่ 1 พ.ย.13 ธ.ค.ของทุกปี ซึ่งนับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย และได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องไปสัมผัส ภายใต้โครงการ “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน”

 

มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1,000 ไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อมๆ กันในช่วงเดือน พ.ย.ธ.ค. จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามมาก

เสน่ห์นี้ที่บ้านรักไทย

มาแม่ฮ่องสอนทั้งทีอย่าพลาดการไปเยือนที่หมู่บ้านรักไทยกันนะครับ เพราะเป็นหมู่บ้านที่ชาวจีนยูนนานมาอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นชนเผ่าเดียวกันกับที่ดอยแม่สลอง เป็นเส้นทางที่อยู่บนเขาเดียวกันกับเส้นทางที่จะไปปางอุ๋ง เรียกว่าห่างกันเพียงแค่ 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง ที่หมู่บ้านแห่งนี้เราจะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมแบบจีน และความสวยงามของหมู่บ้านดินที่สีสดงดงาม แถมยังเย็นสบาย และที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งก็คือ อาหารจีนยูนนานที่อร่อยมาก โดยเฉพาะขาหมูหมั่นโถว จะบอกให้ว่าอร่อยที่สุด ขาหมูโตๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับหมั่นโถวร้อน แถมกับชาอุ่นๆ ซึ่งที่นี่เขามีชาดีแบบปลูกเองขายเอง

 

นอกจากนี้ ยังมีของที่ระลึกที่อดใจไม่ได้ทีเดียวล่ะ และที่ชอบใจอีกอย่าง คือ จะอยู่ท่ามกลาง “เขื่อนในหมอก” เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่กลางหมู่บ้านอีกด้วย ใครจะหาที่พักหรือรีสอร์ทที่นี่ก็พร้อมให้บริการครับ

ปางอุ๋ง ดินแดนโรแมนติก

ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางของทริปนี้ ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่า มีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่าให้กับราษฎร

 

คำว่า “ปาง” ซึ่งหมายถึงที่พักของคนทำงานในป่า ส่วน “อุ๋ง” นั้น เป็นภาษาเหนือ หมายถึงที่ลุ่มต่ำคล้ายกระทะใบใหญ่มีน้ำขัง รวมกันแล้วก็น่าจะหมายถึง ที่พักริมอ่างเก็บน้ำนี่เอง

ภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาบ กับบรรยากาศอันหนาวเย็นในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆ ของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสนและไอหมอกบางๆ ท่ามกลางทิวสนที่ปลูกเรียงราย ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไป ก็ยังคงความงามอันน่าประทับใจ