ชมความงามศิลปะผ่านของสะสมโบราณ ของ เกียรติ สิทธีอมร
นักสะสมของโบราณที่ชื่นชอบของเก่าเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมีชื่อของ เกียรติ สิทธีอมร
โดย...วราภรณ์ ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล
นักสะสมของโบราณที่ชื่นชอบของเก่าเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมีชื่อของ เกียรติ สิทธีอมร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย กรรมการบริหารหอการค้านานาชาติ อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งผู้แทนประเทศไทยในกลุ่มวิสัยทัศน์เอเชียตะวันออกรวมอยู่ด้วย การทำงานด้านเศรษฐกิจ ณ ต่างประเทศนานนับ 10 ปี ทำให้เกียรติได้ไปทำงานประจำยังต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ด้วยความชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมส่วนตัวทำให้เขาได้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมอันสวยงามของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
การเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศบ่อยๆ ทำให้เกียรติได้มีโอกาสเก็บสะสมของที่ระลึกหลากหลายสไตล์ตามแต่ใจเขาชอบ ซึ่งสะท้อนความละเอียดอ่อนในตัวเอง นาน 30 ปีแล้วที่เขาสนใจเก็บสะสมของโบราณที่เก็บรักษาไว้หลากหลายชนิด โดยของสะสมชิ้นแรกๆ ได้แก่ กริช อันถือเป็นอาวุธเครื่องประดับของชนชั้นสูง รวมถึงกษัตริย์อายุนับ 100 ปี พรมเปอร์เซีย คัมภีร์โบราณจากพม่าอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี โถใส่ของของเก่าจากเชียงใหม่รายนักษัตรอายุไม่ต่ำกว่า 80 ปี สวยด้วยงานฝังไม้อินเลย์ คือ ศิลปะที่นำไม้สองสีมาขัดกันแล้วเกิดเป็นลวดลาย ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงของงานไม้ในแถบตะวันตก แต่เข้ามาในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 1 แต่งานฝังไม้เริ่มรู้จักในเมืองไทยสมัยต้นรัชกาลที่ 2 หรือตู้โบราณสมัยรัชกาลที่ 5 อายุนับ 100 ปีที่ลวดลายสวยงามจากศิลปะอินเลย์ด้วยเช่นกัน หรือดาบเสียบปลายปืน ฯลฯ เกียรตินำของสะสมมาประดับตกแต่งบ้านในสไตล์ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียนอย่างลงตัว
เกียรติเปิดบ้านให้ชื่นชมของเก็บสะสมโบราณที่วางประดับทั่วทุกมุมของบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาเล่าเกี่ยวกับแรงบันดาลใจที่ชื่นชอบของเก่า เริ่มต้นจากชีวิตช่วงเดินทางทำงานเมืองนอกนานนับ 10 ปี ทำให้เขาเห็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง เช่น ซีกตะวันออกมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งแตกต่างจากตะวันออกกลางที่มีศิลปวัฒนธรรมที่ชัดเจน เช่น ชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ของตะวันออกลางก็มีความแตกต่างจากฝรั่งยุโรป แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว อย่างเก้าอี้ของตะวันออกกลางพัฒนามาจากเก้าอี้วางบนหลังอูฐ ความเป็นมาเป็นไปของเฟอร์นิเจอร์โบราณสะท้อนและสอดแทรกวิถีชีวิตของชนแต่ละกลุ่มให้เราเห็น ซึ่งมีความงดงามของประวัติศาสตร์
“ผมเริ่มเก็บกริชเป็นของสะสมชิ้นแรกๆ ตอนได้ไปประจำที่มาเลเซียและอีก 11 ประเทศ เริ่มเก็บชิ้นนั้นชิ้นนี้ เวลาเห็นของโบราณเหล่านี้ ผมมีความรู้สึกว่าเหมือนของชิ้นนั้นได้พูดคุยกับเรา ซึ่งเราสามารถสัมผัสวัฒนธรรมนั้นๆ ผ่านชิ้นงาน สังเกตงานแกะสลักแต่ละยุคสมัยก็ไม่เหมือนกัน แม้แกะสลักแบบเร็วก็ยังมีความงดงามของมัน อย่างพรมเปอร์เซียที่ผมเก็บเป็นงานถักทอด้วยมือนาน 23 ปี ย้อมสีเป็นธรรมชาติ มองแต่ละมุมสีไม่เหมือนกัน เพราะเขาใช้สีของผักและไม้ในการฟอกสีพรม พอเราเข้าใจถึงวิธีการผลิต ผมรู้สึกชื่นชม ของบางชิ้น เช่น แกรมโมโฟน เครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณไม่ใช้ไฟฟ้าผลิตเมื่อยุค 50 ผมได้มาจากอินโดนีเซียที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของฮอลแลนด์ มองเห็นของเหล่านี้ทำให้เรามองเห็นประวัติศาสตร์ด้วย”
ของสะสมโบราณมากมาย เกียรติใช้วิธีเวลาไปประจำที่ประเทศไหน สิ่งที่เขาต้องหาข้อมูลคือ มีของเก่าโบราณจำหน่ายที่ย่านไหนบ้าง หากเขามีโอกาสก็จะแวะไปเยี่ยมชมในตลาดค้าของเก่าทั้งแบกับดิน ซึ่งบางครั้งก็สามารถพบของโบราณผ่านชาวบ้านของแต่ละประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซียมักมีร้านของของเก่า ซึ่งในการเยี่ยมชมและเลือกซื้อของเก่าเขาใช้ทั้งความรู้สึกรวมถึงรสนิยม การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม พูดคุยกับพนักงานขายของเก่าเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้เขารับทราบถึงประวัติของโบราณชิ้นนั้นๆ
“ของสะสมทุกชิ้นที่ผมเก็บ คือ ชิ้นงานที่ชอบ ซึ่งแต่ละชิ้นไม่เหมือนกันเลย เมื่อซื้อเก็บของชิ้นๆ นั้นจะเป็นสิ่งเตือนใจผม ทุกครั้งที่ชื่นชมผมมักถึงย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ได้ของชิ้นนั้นๆ มา เช่น เครื่องเล่นแกรมโมโฟนผมได้มาจากเพื่อนชาวออสเตรียที่ไปประจำอยู่ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเปรียบเทียบระหว่างของเก่ากับของปัจจุบัน ผมสังเกตฝีมืองานจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อดีตมีเวลามากกว่ายุคปัจจุบัน งานโบราณจึงพิถีพิถันกว่า งานละเอียดมาก แต่ราคาของเก่าถูกกว่าของใหม่ที่พอหาซื้อได้ เมื่อซื้อมาแล้วราคาไม่เคยตก แต่จะหายากมากขึ้น ผมมองว่าผมเป็นคนเก็บสะสมของเก่า เราเป็นแค่คนผ่านต่อ เก็บรักษาไว้ชั่วคราวและส่งต่อ ปัจจุบันของเก่าหายากขึ้นเรื่อยๆ คนเก็บของเก่าเพราะชื่นชอบ แต่อย่าเก็บเพราะตามคนอื่น”
อย่างไรก็ดี ชิ้นงานที่เกียรติรู้สึกชื่นชอบในคอลเลกชั่นส่วนตัว อาทิ พระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 เป็นชิ้นงานตีทองแดงได้งดงามมาก เขาได้ชิ้นนี้จากร้านขายของเก่าย่านเพนนินซูลา หรือตลาดจตุจักรกลางคืน วันอาทิตย์ ข้างที่จอดรถเจ เจ มอลล์ ไม่มีไฟฟ้าต้องเอาไฟฉายไปส่องดู หรือตลาดคลองถมก็มีกลางคืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ หรือชาวต่างประเทศที่กำลังจะย้ายกลับประเทศ หากเขารู้ก็จะแวะไปหาซื้อของเก่ามาเก็บไว้
“ผมถูกใจตรงฝีมือ ชิ้นงาน ทั้งตีและแกะสลักเป็นรูปรัชกาลที่ 5 ผมติดประดับไว้ที่ห้องรับแขก ส่วนพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 9 ผมติดประดับไว้ที่ฝาผนังที่ห้องทำงาน เห็นแล้วชอบมากๆ รู้สึกชื่นชมเพราะฝีมือของช่างโบราณที่มีความงดงามและหายาก ส่วนของโบราณอีกชิ้นที่ผมชอบมากๆ คือฆ้องวงอายุ 300 ปี ที่ผมประยุกต์ออกแบบทำฆ้องมาทำเป็นเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม รวมทั้งตู้เก็บของสะสมที่ทำขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ละชิ้นผมนำมาประดับบ้าน เพื่อให้แขกที่แวะเยี่ยมเยือนได้เห็นได้ชื่นชมความงดงามของโบราณ เพราะเก็บเพราะงานแต่ละชิ้นสะท้อนเรื่องเล่าของแต่ละช่วงของชีวิต ผมเก็บเพราะชื่นชมของชิ้นนั้นๆ จริงๆ”
สำหรับหลักการดูของเก่า เกียรติให้ความรู้ว่า งานไม้ที่ทำจากไม้เก่าหรือไม้ใหม่สังเกตได้ง่าย แต่บางคนเอาไม้ใหม่มาทำให้ดูเก่าก็ต้องสังเกตดีๆ “คนเล่นของเก่าจำเป็นต้องศึกษาเพื่อเวลาคนขายเล่าประวัติของของชิ้นนั้นๆ มีจริงหรือไม่ในยุคที่เขาอ้างถึง และสังเกตที่เนื้องานต้องมีความรู้ระดับหนึ่ง จึงจำเป็นต้องอ่านหนังสือทุกวัฒนธรรมทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ดูเรื่องยุโรปศิลปะมีความเป็นมาเป็นอย่างไร แม้ตอนเด็กๆ ผมไม่ชอบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ แต่พอเป็นผู้ใหญ่กลับชอบทั้งประวัติศาสตร์เพราะมีความน่าสนใจ ศึกษาลงไปลึกๆ แล้วจะพบว่าสนุกมาก หรือเวลาเข้าไปร้านขายของเก่าสนใจชิ้นไหนให้ลองถามถึงประวัติศาสตร์มีความเป็นมาเป็นอย่างไร ไม่ต้องอาย รู้บอกไม่รู้ สอบถามเรื่อยๆ เราก็จะได้ความรู้เพิ่มพูนมากขึ้น”
พอศึกษาและคลุกคลีกับของโบราณมากๆ เข้า ทำให้เกียรติค้นพบเสน่ห์ของของโบราณคือเนื้องานที่มีความละเอียด ทักษะของช่างฝีมือในแต่ละยุคแต่ละสมัยซึ่งมักสอดแทรกเรื่องศิลปะวัฒนธรรมที่น่าสนใจไว้ครบถ้วน
“ความสุขจากการเก็บสะสมของโบราณ คือ เมื่อเราได้เป็นเจ้าของและนำประดับไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้าน เมื่อมีแขกแวะมาเยี่ยมเยือน เราพาแขกเดินชื่นชม งานทุกชิ้นมีเรื่องเล่า เตือนเราได้หมด เป็นความสุขเรียบง่ายมากๆ ”
วิธีเก็บของสะสมโบราณให้สวย
การเก็บรักษาของสะสมให้สวยอยู่กับเราไปนานๆ หลักดูแลรักษา ต้องดูถึงความเหมาะสม เพราะวัสดุแต่ละชิ้นไม่เหมือนกัน เช่น ไม้ดูแลไม่ให้อยู่ในที่ชื้นเกินไป หรือเสี่ยงต่อปลวก ไม้สักเก่าไม่ต้องห่วง แต่ไม้ใหม่ๆ เช่น ไม้เนื้อแข็งควรดูแลให้ดีหน่อย ควรลงน้ำยาเคลือบหรือน้ำมันดูแลไม้ จะลงน้ำยาดูแลรักษาไม้แต่ละครั้งก็ให้ดูที่ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะลงน้ำยาถนอมไม้แต่ละครั้งจะทำให้สีจืดลง ความเอิบอิ่มของสีของไม้จะน้อยลง
หากของเก่าทำสร้างจากวัสดุเหล็ก จะทำความสะอาดก็ต้องดูสภาพ ดูอย่าให้มีสนิม หากมีสนิมต้องใช้น้ำยาที่เอาสนิมออก แล้วเคลือบด้วยน้ำมันถนอมผิวเหล็กอีกที
“เวลาทำความสะอาดของเก่าผมมักทำความสะอาดเอง ไม่ค่อยให้ใครแตะเท่าไหร่ ผมดูเอง อย่างทองเหลืองกับทองแดงผมจะปล่อยให้เก่าอยู่แบบนั้น อย่าขัดมัน เพราะยิ่งขัดเนื้อโลหะยิ่งสึก ปล่อยตามสภาพสวยที่สุด จริงๆ การดูแลไม่เป็นสูตรสำเร็จ ชอบดูแลแบบไหน ให้ทำแบบนั้น ”


