น็อตโตะ กับความสุขของ (เจ้า) กะทิ

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

คุณจำนักร้องสาวคนนี้ได้ไหม?

เธอมีชื่อว่า “น็อตโตะวรางคณิภา พวงธนะสาร” อดีตนักร้อง วอยซ์เทรนเนอร์ ณ บ้านเอเอฟ 9 และปัจจุบัน เธอเปิดบริษัทเพื่อผลิตรายการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นรายการเฟรนด์ ทริป รายการแฮปปี้ แมพ แถมยังเปิดบริษัททัวร์ ในนาม 108 ทริป อีกด้วย

“ที่เปิดบริษัททัวร์ เพราะเวลาคนดูรายการ เขาก็อยากออกทริปกับเรา ซึ่งการหันมาทำธุรกิจ เป็นเพราะงานในวงการบันเทิงเอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วนร้องเพลง ตอนนี้ขอพักไว้ก่อน คงแล้วแต่จังหวะโอกาส ทำรายการกับจัดทัวร์นี่แทบไม่มีวันหยุดเลยค่ะ (หัวเราะ)”

แต่ถึงแม้ว่างานจะรัดตัวน็อตโตะมากเพียงใด แต่เธอก็ยังมีเวลาให้เจ้าลูกชายตัวจิ๋ว ที่มีชื่อว่า “กะทิ” สุนัขเพศผู้ พันธุ์ชิวาวาขนสั้น ซึ่งมีอายุได้ 6 เดือนแล้ว

 

“แต่ก่อนตัวเองเป็นคนหากิจกรรมทำอยู่เสมอ เช่น วาดภาพ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ แต่ด้วยเวลาของเราไม่มีเวลาทำสิ่งเหล่านี้มากนัก เลยคิดว่า ถ้าเลี้ยงสัตว์ที่สามารถสื่อสารกันได้ก็คงดี น็อตโตะเลยพยายามดูหมาตามเว็บไซต์ต่างๆ ดูพันธุ์นั้นพันธุ์นี้ไปเรื่อยๆ”

น็อตโตะเผยว่า จุดเริ่มต้น เธอไม่ได้สนใจสุนัขพันธุ์ชิวาวาเลย “พอดีไปถ่ายรายการที่เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ แล้วพีอาร์ของเมืองโบราณเขาเลี้ยงชิวาวาไว้ แล้วหมาของเขาเพิ่งคลอด เขาถามเราว่าเราว่างมั้ย อยากให้มาดูหมาชิวาวาที่เพิ่งคลอด เราคิดว่าลองไปดูสักหน่อย ก็เลยตกลงใจไปดู พอเห็นครั้งแรก ตัวมันเล็กมากๆ เล็กจนเราไม่กล้าจับ ที่เราไปดูนี่มีอยู่ด้วยกันประมาณ 34 ตัว ทุกตัวดูบอบบางมาก ปรากฏว่าเจ้ากะทิเดินมาหาเรา แล้วเอาหน้ามาเกยที่ขา พอเราลุก เขาก็เดินตามเรามา ส่วนตัวอื่นไม่สนใจเราเลย เราเลยรู้สึกว่าตัวนี้สนใจเราดีนะ แล้วเจ้าของก็เชียร์ว่าตัวนี้ติดเรานะ เราเลยอุ้มเจ้ากะทิ พอมองหน้าแล้ว เราก็มโนไปเองว่ากะทิคงเว้าวอนให้เอามันไปกับเราด้วย (หัวเราะ)”

หลังจากนำเจ้ากะทิกลับมาที่บ้าน น็อตโตะเผยว่า กะทิเป็นหมาที่รู้เรื่องมาก ฉี่เป็นที่เป็นทาง ไม่เห่า ให้ทานอะไรก็ทาน

“แรกๆ คงแอ๊บเรียบร้อยอยู่ แต่ตอนนี้สิ เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว พอเริ่มโต ก็เริ่มซ่า เริ่มป่วน ชอบกระโดดจากโซฟาลงมาที่พื้น กระโดดขึ้นกระโดดลง จนเรากลัวว่าขามันจะหัก แต่มันก็ไม่เป็นไรนะ คงเพราะกะทิเป็นหมาที่แข็งแรงมาก”

เวลาไปออฟฟิศ น็อตโตะมักจะพาเจ้ากะทิไปด้วย แม้จะแสดงความก้าวร้าว หรือแสดงความเป็นเจ้าของออกมาบ้าง แต่น็อตโตะก็เผยว่านี่คงเป็นธรรมชาติของมัน

 

“เวลากะทิได้กลิ่นแปลกๆ จะยกขาฉี่ทับ หรือเวลาไม่ถูกชะตาใครก็จะเห่า ทางแก้คือ น็อตโตะจะพามันไปเข้าสังคม ด้วยการพาไปฝากให้พี่ที่รู้จักที่เขาเลี้ยงหมาเหมือนกัน พี่เขาก็พาไปสวนสาธารณะ พาไปเข้าสังคม ซึ่งจะช่วยให้หมาของเราอารมณ์ดีตามไปด้วย”

เนื่องจากต้องทำรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือจัดทริปไปยังที่ต่างๆ ทำให้น็อตโตะไม่ค่อยมีเวลาเจอเจ้ากะทิสักเท่าใดนัก “เวลาเราไม่เจอกันนานๆ ก็จะเฟซไทม์หากัน ส่งเสียงคุยกัน กะทิจะชอบเลียหน้าจอ เพื่อบอกเราว่าคิดถึง แต่พอเรากลับมา กะทิจะแสดงการงอน จะแอบอยู่ในบ้านของตัวเอง ไม่ยอมออกมาเจอเรา แต่อาการนี้เป็นแค่วันเดียวนะ วันต่อมาก็แทบจะตัวติดกับเรา มาอ้อน มาเลีย”

น็อตโตะเผยว่า ตั้งแต่เลี้ยงกะทิมา กะทิไม่เคยป่วยเลย “สงสัยพ่อแม่เขาแข็งแรง แล้วอาหารที่เราให้เขากิน ก็เป็นอาหารที่ดี ระดับซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งเราก็ศึกษาเรื่องอาหารมาเป็นอย่างดี มันส่งผลเรื่องขน และเรื่องถ่ายที่ทำให้ไม่มีกลิ่น ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการให้ความรักความเอาใจใส่”

 

เคล็ดไม่ลับกับชิวาวา

1.ชิวาวาเป็นสัตว์ที่ติดเจ้าของ ขี้อ้อน เราต้องรักและดูแลเขาด้วยใจ ซึ่งเขาสัมผัสได้ หากเราเลี้ยงเขาดี แต่ไม่มีสัมผัสอบอุ่นนี้ เขาจะกลายเป็นหมาหงอยได้

2.ชิวาวามักมีคราบน้ำตา เพราะตาเขาโต เราต้องคอยเช็ดออก ส่วนเรื่องขนร่วงนั้นไม่ค่อยมีปัญหา แต่จะมีปัญหาเรื่องผิวหนัง ก็ต้องคอยอาบน้ำอยู่บ่อยๆ การเลี้ยงเขาให้อยู่ในห้องแอร์ คิดว่าอยู่ในห้องแอร์ได้ แต่ก็ต้องใส่เสื้อ เพราะชิวาวาเป็นหมาขี้หนาว ถ้ามีแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ก็ควรพาเขาออกไปรับแดดบ้าง

3.เรื่องอาหารก็สำคัญ อย่าให้เขาทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก เดี๋ยวจะช็อกน้ำตาล อีกทั้งควรให้อาหารในปริมาณที่พอดี อย่าให้มากเกินไป หรือน้อยเกินไป

4.คนเลี้ยงต้องศึกษาหมาพันธุ์นี้ให้ดี เพื่อที่จะได้รู้นิสัยเขา หรือได้เรียนรู้จุดที่ต้องระวัง เพื่อการเลี้ยงดูที่ดี อย่าลืมว่าเราต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต ไม่อยากให้การเลี้ยงหมาเป็นแค่แฟชั่น ที่อยากเลี้ยงก็เลี้ยง พอเลี้ยงแล้วเบื่อก็ปล่อยทิ้ง อยากบอกว่าหมาก็มีชีวิตจิตใจ ไม่ต่างจากเรา