posttoday

อย่ารอให้บอกรักไม่ทัน

13 พฤศจิกายน 2556

ปกติไม่ค่อยชอบแชร์อะไรเศร้าๆ ในเฟซบุ๊ก แฟนเพจของตัวเอง เพราะคิดว่าคนเราในชีวิตประจำวันก็มีเรื่องให้เซ็งและเศร้ากันเยอะพอแล้ว

โดย...หนูดี–วนิษา เรซ

ปกติไม่ค่อยชอบแชร์อะไรเศร้าๆ ในเฟซบุ๊ก แฟนเพจของตัวเอง เพราะคิดว่าคนเราในชีวิตประจำวันก็มีเรื่องให้เซ็งและเศร้ากันเยอะพอแล้ว เราควรเอาพื้นที่สาธารณะตรงนี้ มาใช้แชร์อะไรที่เป็นความสุขและความสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวันกันดีกว่า

แต่หนนี้พอกลับจากปีนังมาสักพักยังมีเรื่องค้างคาใจค่ะ และคิดว่าอยากแชร์จัง เพราะเป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายพล็อตหักมุมและเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในวันก่อนที่หนูดีจะเดินทางไปถึงเมืองปีนัง

เรียกว่าพอเดินเข้าเช็กอินในโรงแรมยังไม่ทันได้ออกไปดูเมืองเลย โรงแรมก็แสนน่ารัก เอาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เป็นภาษาอังกฤษมาวางไว้ให้ โอ้โห พาดหัวเลยค่ะ

เรื่องราวของสามีภรรยาที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ระหว่างที่ภรรยาที่เป็นพนักงานธนาคาร โดนยามปล้นและบังคับให้เปิดเซฟ เมื่อหนูดีเล่าเรื่องคร่าวๆ และแชร์ไปในเฟซบุ๊กกลับกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งเฟซตั้งแต่เปิดมา คือ ภายในคืนเดียวมีคนเห็นไป 120, 000 กว่าคน และวันรุ่งขึ้นหนูดีได้รับไลน์ทักจากพี่ๆ น้องๆ ว่า “อ่านเรื่องแล้วนะ เศร้าจังงงงง” จนถึงปัจจุบันนี้มีคนแชร์ไปอ่านกว่า 139,293 วิว และกลายเป็นโพสต์ท็อปฮิตของเพจหนูดีเพียงชั่วข้ามคืน

แปลว่า ใครๆ ก็อยากโดนบอกรัก...ก่อนจะสายเกินไปนะคะนี่

หนูดีได้ไปนำโพสต์มาให้อ่านกันตรงนี้อีกครั้งค่ะ

“เศร้าค่ะ

ไปมาเลเซีย

วันแรกที่เข้าพักในโรงแรม

อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น New Straits Time

เจอข่าวปล้นแบงก์

ส่วนที่เศร้าคือ

ภรรยาเป็นเจ้าหน้าที่แบงก์

โดนโจรปล้น ใช้ปืนบังคับให้ไปเปิดเซฟใหญ่

ระหว่างโจรเปิดเซฟ

เธอแอบโทรศัพท์หาสามี ที่แต่งงานกันมากว่าสิบปี

ถามว่า “คุณยังรักฉันอยู่ไหม”

สามีรับสาย บอกว่า ขับรถอยู่ คุยไม่ได้ แล้ววางหูเลย

โดยไม่รู้ว่าอีกฝั่งเกิดอะไรอยู่

พอถึงที่หมาย โทรกลับมาหา ไม่มีคนรับสายแล้ว

ปรากฏว่า หลังจากนั้นโจรหันมา

แล้วยิงภรรยาที่หน้าผาก เสียชีวิตเลยค่ะ

(ฮือออออ ไม่น่าอ่าน ประเดิมการท่องเที่ยวด้วยน้ำตาเลย)

ตอนที่เป็นข่าว สามีให้สัมภาษณ์แบบร้องไห้ตลอดเวลา

เขาเสียใจมาก

แค่คำว่า รัก สั้นๆ ให้ภรรยาไม่ได้

ทั้งๆ คนที่เรารักถามมา ก็ตอบไปเลยว่า รัก

เพราะบอกว่า “ขับรถอยู่ คุยไม่ได้” มันยากว่า “รัก” ตั้งเยอะ

ยังพูดได้...

เขาบอกว่า ตอนนี้ ที่เสียใจที่สุดคือ อยากพูด

แต่เธอไม่มีชีวิตอยู่...จะฟังแล้ว

เศร้าค่ะ เศร้า

ไม่ค่อยได้โพสต์เรื่องเศร้าๆ

แต่เรื่องนี้ อดไม่ได้ มีภาพ นสพ. ด้วยค่ะ

เดี๋ยวเอามาโพสต์ให้ดู

ส่วนตัวแล้ว หนูดีคิดว่า “คำว่ารัก” ถ้าเรารักจริงๆ

มันสำคัญนะคะ พูดไปเถอะค่ะ พูดบ่อยๆ

ไม่เสียตังค์สักหน่อย หนูดีพูดวันละเป็นสิบๆ รอบ

เพราะคิดดูสิคะ คนที่ไม่รักจริง โกหกหวังผล

ยังพูดคำว่า “รัก” ได้คล่องๆ

ถ้าเรารักกันจริงๆ ก็พูดไปเถอะค่ะ

อย่าให้ในที่สุดแล้ว คำว่า “รัก” เป็นคำใช้งาน

ของคนที่ไม่ได้หมายความจริงๆ

และคนที่หมายความจริงๆ จากใจกลับไม่ค่อยได้พูด”

โพสต์จบแต่เพียงเท่านี้ แต่เรื่องราวยังไม่จบค่ะ

ความน่ารักของผู้คนในเฟซบุ๊กก็คือ มีการแชร์กันไปอ่านบ้าง แท็กเรียกให้เพื่อนมาอ่านบ้าง หรือคู่รักบางคู่ก็แท็กกันและบอกรักกันกลางเพจของหนูดีเลย บางคู่คงเพิ่งทะเลาะกัน และฝ่ายชายกำลังง้ออยู่ ก็มีการแท็กเรียกฝ่ายหญิงและบอกว่า “รักนะคะ”

หนูดีเคยได้คุยกับโปรดิวเซอร์รายการทีวีรายการหนึ่ง ที่นั่งคุยระหว่างรออัดรายการกับหนูดีในประเด็นนี้ว่า เขาเป็นเด็กต่างจังหวัดและพ่อแม่เลี้ยงมาแบบไม่เคยกอดและไม่เคยบอกรัก แต่รักกันมากนะคะ พอเขาเข้ามาเรียนกรุงเทพฯ ก็เห็นเพื่อนๆ กอดและบอกรักพ่อแม่กันเยอะมาก เขาเลยรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติหรือเปล่า และตั้งใจว่าหนนี้กลับบ้านละก็ จะกอดและบอกรักพ่อกับแม่

หนแรกที่ลองทำ เขาทำแบบไม่ให้ท่านทั้งสองตั้งตัว คือ จู่โจมกอดเลย แม่ก็ตกใจ แต่พ่อนะคะตัวแข็งเลย ก็ลูกชายอยู่มหาวิทยาลัย อยู่ดีๆ มากอด พ่อก็เกร็งเป็นธรรมดา ทั้งสองไม่กอดตอบค่ะ แต่เขาตั้งใจมั่นละว่าไม่ทำวันนี้จะรอมาเสียใจตอนพ่อกับแม่ตายไปแล้วหรือ

เขาก็กอดทุกครั้งที่กลับบ้านและเปลี่ยนมาบอกรักทุกครั้งเวลาโทรกลับไปบ้าน

ทำแบบนี้ไปหลายปี เขาบอกว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน จากที่คุณพ่อเป็นคนจีน ห้วนๆ พูดจาแข็งๆ พอหลายปีเข้าเริ่มชิน เริ่มชอบ ตอนนี้เริ่มกอดตอบและบอกรักตอบในโทรศัพท์ด้วย และเขาเห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์มีความละมุนละไมมากขึ้น

การบอกรักใครคิดว่าไม่สำคัญ สำหรับหนูดีแล้วมันสำคัญมาก กับคนในครอบครัว เราบอกรักกันวันละนับครั้งไม่ถ้วน เพราะนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีแล้ว ตัวคนบอกรักเองก็พลอยรู้สึกอบอุ่นในหัวใจไปด้วย

ก็อย่างที่เขาพูดๆ กันค่ะ ทีคนไม่ได้รักหวังมาหลอกเราบ้างอะไรบ้างยังพูดรักได้คล่องๆ ไม่ต้องคิด แล้วเราล่ะ หากเรารักใครด้วยน้ำใสใจจริง เรายิ่งต้องพูด ต้องบอก ไม่ต้องคิดว่ามันจะเฝือ เพราะยิ่งได้ยิน ยิ่งประทับใจ ยิ่งได้ยิน ยิ่งมั่นใจ หนูดีได้ยินในบ้านตัวเองมาเป็นหมื่นๆ ครั้ง ยังรู้สึกไม่เบื่อเลย เพราะคนที่พูดให้เราฟังเขาพูดจากใจ ไม่เฟก และเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เรารู้ว่าเรารักกันอยู่แล้ว แต่คำพูดเป็นของทรงพลัง มันส่งผ่านสิ่งดีๆ ผ่านคลื่นเสียงมาถึงหัวใจของเราได้

บางคนบอกว่า ของดีๆ ไม่ต้องพูดบ่อยหรอก เดี๋ยวหมดค่า

หนูดีกลับคิดว่า ในเมื่อมันเป็นของดีและมันก็ฟรี ใช้บ่อยไม่มีสึกหรอ ถ้าคิดก็พูดเถอะค่ะ ในกรณีนี้ ถ้าปากเราตรงกับใจ คนฟัง ฟังได้ไม่มีเบื่อแน่นอน

ข่าวล่าสุด

จับตาครม.นัดแรกหลังยุบสภา พิจารณาประชามติรธน.ฉบับใหม่