แจม & เนย เนโกะ จัมพ์ สวย...จิตอาสา
ถ้าให้พูดถึงนักร้องที่เป็นทั้งฝาแฝด และก็สวยน่ารักไม่แพ้กัน แน่นอนว่าชื่อของ “แจมชรัฐฐา อิมราพร” (แฝดพี่) และ “เนยวรัฐฐา อิมราพร” (แฝดน้อง) แห่งวงเนโกะ จัมพ์
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
ถ้าให้พูดถึงนักร้องที่เป็นทั้งฝาแฝด และก็สวยน่ารักไม่แพ้กัน แน่นอนว่าชื่อของ “แจม-ชรัฐฐา อิมราพร” (แฝดพี่) และ “เนย-วรัฐฐา อิมราพร” (แฝดน้อง) แห่งวงเนโกะ จัมพ์ คงทำให้ใครหลายคนนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ นอกจากทั้งคู่จะมีผลงานเพลงล่าสุด “Look สิ!” ที่ได้ “ปอนด์-ธนา ลวสุต” มาทำเพลงให้เป็นครั้งแรก ในส่วนของแฝดผู้พี่ยังมีละครวิวาห์ป่าช้าแตก ทางช่อง 8 และดุจตะวัน ดั่งภูผา ทางช่อง 7 อีกด้วย
แต่ความสวยและความสามารถของเธอทั้งคู่ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เธอทั้งคู่ยังได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสัตว์ โดยได้รับเลือกให้เป็นทูตของสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ซึ่งความมีจิตอาสาในครั้งนี้ เธอทั้งคู่มีเรื่องอยากเล่าเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
“ก่อนหน้านี้พี่ๆ วงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ทำในส่วนนี้มาหลายปีแล้ว ตอนนี้พี่ๆ ได้ส่งต่อภารกิจการเป็นทูตของสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทยให้เราสองคนร่วมกันทำ ซึ่งทั้งเนยและแจมเป็นคนรักสัตว์ และคอยช่วยเหลือเรื่องสัตว์กันอยู่แล้ว การได้มีโอกาสมาทำหน้าที่นี้ เราสองคนก็ดีใจค่ะ อย่างน้อยๆ เราก็สามารถผลักดันหรือทำอะไรที่ช่วยเหลือให้สัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้” ชรัฐฐา แฝดผู้พี่ กล่าวถึงที่มาของการได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ ซึ่งภารกิจที่เธอสองคนร่วมกันทำนั้น วรัฐฐา แฝดผู้น้อง เล่าสู่กันฟังว่า เธอทั้งคู่ไปช่วยกันฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และยาป้องกันเห็บ หมัด ให้สุนัขจรจัดที่วัดทำเลทอง ปทุมธานี
“เนยว่าปัญหาสุนัขจรจัดจะไม่เกิดขึ้นมาก ถ้าเราถามตัวเองให้แน่ชัดว่า เราพร้อมที่จะดูแลเค้าไปจนตาย ไม่ใช่เลี้ยงเพราะน่ารัก พอป่วยหรือไม่สวยก็เอาไปทิ้ง หรือปล่อยให้เป็นภาระของทางวัด หรือสถานสงเคราะห์สัตว์ต่างๆ ซึ่งพอมีจำนวนสัตว์จรจัดมากขึ้น ปัญหาอื่นๆ ก็ตามมา”
ชรัฐฐา มีความเชื่อว่าคนที่ชอบรังแกสัตว์หรือทารุณสัตว์ ทำบาป ย่อมได้รับบาปเป็นรางวัลตอบแทน
“นี่คือเรื่องจริงค่ะ แจมอยากให้ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ผ่านออกมาเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษชัดเจนโดยเร็ว อยากให้ผู้ใหญ่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงเร่งช่วยเหลือ เพราะสัตว์ถูกล่า ถูกจับเพื่อการค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค้าเนื้อสุนัข ซึ่งมีเนื้อสัตว์ตั้งหลายชนิดที่เป็นอาหารได้ แต่เนื้อสุนัขหรือสมองลิงเป็นการกินที่โหดร้ายและพิสดารเกินไป เค้าพูดไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าสัตว์ทุกตัวรักชีวิตเหมือนมนุษย์เรานี่แหละค่ะ”
เมื่อถามแฝดผู้น้องอย่างวรัฐฐา ว่า เธอชอบสัตว์อะไรมากที่สุด เธอยิ้มก่อนตอบว่า เธอชอบช้างมาก อีกทั้งเวลาเห็นช้างมาเดินบนถนนจะรู้สึกสงสาร เพราะเธอรู้ดีว่าช้างมักจะเจ็บเท้าอยู่เสมอ “ช้างเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติของไทย เนยเลยอยากให้คนไทยให้ความสำคัญกับเค้าให้มาก อย่าลืมว่าช้างไทยเป็นสัตว์ที่น่ารักและสง่างามของคนไทยเรานะคะ”
แน่นอนว่า เมื่อทั้งชรัฐฐา และวรัฐฐา มีจิตอาสาที่น่าชื่นชม ย่อมมีคนที่คิดลบ และเผลอมองว่าเธอสองคนกำลังสร้างภาพ แฝดผู้พี่เปิดใจว่า เธอไม่ได้คิดมากกับเรื่องแบบนี้
“หากมีคนมองว่าดารานักร้องที่มาทำงานช่วยเหลือสัตว์ จะต้องสร้างภาพเพื่อให้ตัวเองดูดีแน่ๆ แจมว่าที่เราทำ ไม่ใช่ว่าเราเป็นดาราเราถึงทำ บางครั้งความมีชื่อเสียงสามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้ ถ้าเป็นคนธรรมดาจะขอความช่วยเหลือกับใครก็ลำบาก หรือจะเป็นกระบอกเสียงให้เรื่องบางเรื่องก็ยากที่จะทำได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นมันอาจจะน้อย เรื่องแบบนี้นานาจิตตัง แค่เรามีความตั้งใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ”
มาที่เรื่องราวชีวิตส่วนตั๊วส่วนตัวของเธอทั้งคู่กันบ้างดีกว่า เธอทั้งคู่เผยว่า จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง เริ่มมาจากทั้งคู่ได้ประกวดร้องเพลงเคพีเอ็น แล้วมีทีมแคสติงที่อาร์เอสมาดู “พี่ๆ เค้าเห็นว่าเราเป็นฝาแฝด เค้าก็สนใจ แต่ตอนประกวดไม่ได้ร้องคู่กัน ร้องเดี่ยวของแต่ละคน และก็ฝึกกันมาเรื่อยๆ จนมาเป็นนักร้องที่อาร์เอส ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเส้นทางที่เรามาไกลกว่าที่คิดไว้ เพราะมีโอกาสไปทำงานเพลงที่ญี่ปุ่น มีแฟนเพลงคนญี่ปุ่นด้วย วงการนี้ให้ประสบการณ์ ให้ความรู้เยอะมากค่ะ ซึ่งเป็นโอกาสที่ใครหลายคนอยากจะทำงานตรงนี้ ก็ขอให้ตั้งใจและอดทนค่ะ”
แน่นอนว่า เมื่อเข้ามาในทำงานวงการบันเทิง ย่อมต้องเจอทั้งข่าวคราวและข่าวคาวมารบกวนจิตใจ ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวได้โดยง่าย งานนี้แฝดพี่เผยว่า เธอเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่ง ต่างจากแฝดน้อง ที่คิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น
“แจมเป็นคนที่เวลาโกรธหรือโมโห จะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา ไม่ใช่ไม่อยากแสดงให้คนอื่นเห็น แต่พอรู้สึกว่าเรามีความรู้สึกด้านมืด ก็จะพยายามห้ามตัวเอง บางครั้งก็รู้สึกว่าเราควรจะแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง เพราะบางทีเป็นผลเสีย อาจถูกคนเอาเปรียบได้ เพราะเห็นเราไม่ว่าอะไร ซึ่งตรงข้ามกับน้อง ที่น้องเป็นคนชัดเจนจนเกินไป คิดยังไงก็พูด เป็นคนไม่แคร์ใครด้วย เป็นตัวของตัวเองสูง แต่ความเหมือนของเราสองคนคือ รักสัตว์ มีมุมคิกขุเวลาอยู่ด้วยกัน”
ที่สำคัญ จะไม่ให้ถามเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เธอทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่ทั้งสวยและน่ารักอย่างนี้ คุณพ่อคุณแม่ย่อมหวงเป็นแน่แท้ วรัฐฐา เผยว่า คุณพ่อคุณแม่หวงเธอทั้งคู่ไม่ต่างกัน แต่หวงกันคนละแบบ
“พ่อจะหวงแบบเนียนๆ แต่จะห่วงเรื่องการใช้ชีวิต การกิน และเรื่องความสวยความงาม คงเป็นเพราะพ่อเป็นคนที่เป๊ะมาก ต้องกินข้าวตรงเวลา ส่วนแม่จะสบายๆ แต่จะห่วงเรื่องแฟน แม่จะคอยเก็บข้อมูล และสแกนว่าคนที่เข้ามาในชีวิตของเราเป็นคนยังไง เข้ามาหาลูกเราแบบไหน แต่ไม่ได้ห้าม แค่ขอรู้ข้อมูลคนที่เราคุยด้วยหน่อย ซึ่งเนยคิดว่ามันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนเป็นพ่อเป็นแม่”
อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกสาวแสนสวยได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง พ่อแม่ย่อมต้องอยากเห็นลูกเดินทางไปในทิศทางที่ดีที่สุด คอยชี้แนวทางที่เหมาะสมและดีงามให้ลูกให้ได้มากที่สุด ซึ่งนั่นได้ส่งผลให้ชรัฐฐา และวรัฐฐา มีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิตอยู่มิใช่น้อย
“ทัศนคติในการใช้ชีวิตของเนยคือ ทำอะไรให้ง่ายๆ กับตัวเองดีที่สุด เนยเน้นเรื่องความสุขของชีวิต สุดท้ายแล้วชีวิตเราไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากความสุขที่เราได้มา อะไรก็ได้ที่ไม่สร้างหนี้สิน ไม่ทำให้ชีวิตเราต้องเดือดร้อน เนยแฮปปี้แล้วค่ะ”
แฝดพี่เผยต่อว่า สำหรับเธอไม่ต้องมีอะไรที่สุขที่สุด หรือต่ำที่สุด “บางทีถ้าเรามีช่วงเวลาที่สุดเกินไปในทางใดทางหนึ่ง มันจะมีผลเสียอะไรหลายอย่างตามมา เช่น ถ้าเรารักมาก สุขมาก แต่วันหนึ่งเกิดสูญเสีย เราจะทุกข์มากที่สุด ถ้าเราเป็นกลาง เราก็ไม่ได้มีความต้องการมากเกินไป อยู่แบบสบายๆ ดีกว่าค่ะ”
ยามว่างชอบทำอะไร
แจม “ชอบอยู่บนเตียงเล่นโทรศัพท์ ไม่ชอบกิจกรรมที่เหงื่อออกแบบเปียกแฉะ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ออกแดดเลย คือ ลุยพอสมควร แต่ไม่ได้หนักเกินร่างกายเรารับไหวค่ะ”
เนย “ชอบอ่านหนังสือ และดูสารคดีสัตว์ เพราะเราจะได้เรียนรู้ เห็นชีวิต รวมทั้งความคิดของสัตว์ด้วยค่ะ”
หนังเรื่องโปรด
แจม “Moulin Rouge ค่ะ แจมชอบหนังเพลง และชอบ นิโคล คิดแมน เธอสวยและเก่งมากๆ”
เนย “เนยชอบ Les Miserables ค่ะ จากที่เป็นหนังสือ แล้วทำเป็นละครบรอดเวย์ จนมาเป็นหนังเพลง แม้เนื้อหาของเรื่องจะเครียดมาก แต่มีสาระดี และความสนุกก็มีมากๆ อีกด้วย”


