65 ปีสงครามโลกครั้งที่ 2 กับซีรีส์ Band of Brothers
เคอร์มิท
ย้อนไปเมื่อ 65 ปีก่อน กองทัพเยอรมนียกธงขาวประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 1945 และอีกครั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ปีเดียวกันที่ยุโรปตะวันออก นับเป็นการปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างแท้จริงทางฝั่งยุโรป
ในแวดวงภาพเคลื่อนไหว มีการบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้เอาไว้อย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Band of Brothers มินิซีรีส์ 10 ตอนจบทางช่องเอชบีโอ ภายใต้การสร้างสรรค์ร่วมกันของสตีเวน สปีลเบิร์ก และทอม แฮงก์ส หลังเคยร่วมงานกันมาใน Saving Private Ryan (1998) ที่เป็นฉากในสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมือนกัน
Band of Brothers เป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นโดยมีเค้าโครงจากเรื่องจริง พัฒนามาจากผลงานวิจัยแอมโบรส ซึ่งทำโดยการไปสัมภาษณ์บรรดาทหารผ่านศึกจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวจริงเสียงจริง
แน่นอนว่าในการนำมาสร้างเป็นมินิซีรีส์ ต้องมีการใส่สีตีไข่เพิ่มสีสันเข้าไปบ้าง โดยเฉพาะในแง่ของการปลุกเร้าอารมณ์ความรักชาติ นาทีชีวิต การบุกบั่นฟันฝ่าของบรรดาทหารกล้า
10 ตอนของมินิซีรีส์ เริ่มเล่าตั้งแต่การฝึกทหารที่ฐานท็อคโค รัฐจอร์เจีย ไปจนกระทั่งถึงการยอมแพ้ของเยอรมนี ตัวเอกของเรื่องคือ พันตรีริชาร์ด วินเทอร์ ผู้มีบทบาทในการเป็น
“โซ่ข้อกลาง” ของกอง ให้แต่ละคนรักและสามัคคี รวมถึงอยู่รอดปลอดภัยBand of Brothers ออกครบเซตในรูปแบบดีวีดี บลูเรย์ เมื่อปี 2008 (มีเวอร์ชันดีวีดีก่อนหน้านี้) ซึ่งได้รับการเรตจากผู้ชมถึง 4.9 เต็ม 5 นอกเหนือจากมินิซีรีส์ทั้ง 10 ตอนแล้ว ยังแถมสารคดีความยาว 80 นาที เรื่อง
“We Stand Alone Together : The Men of Easy Company” (รวมกันเราอยู่) สารคดีขนาดสั้นเกี่ยวกับเบื้องหลังการสร้าง Band of Brothers 30 นาที รวมทั้งภาพเหตุการณ์ขณะไปฉายรอบปฐมทัศน์ที่นอร์มังดีที่ว่ามามีในเวอร์ชันดีวีดีด้วย ส่วนเวอร์ชันบลูเรย์เพิ่มฟีเจอร์พิเศษๆ คือ บทคอมเมนต์ภาพต่อภาพ และไกด์ทัวร์สนามรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบอินเตอร์แอกทีฟ
คอหนังสงครามรอช้าได้ไง


