วันนี้ คุณคอมเมนต์อย่างสร้างสรรค์แล้วหรือยัง?
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร/ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร/ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
ยุคสมัยนี้ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือโซเชียลมีเดียทั้งหลาย แทบจะกลายเป็นหน้าต่างของหัวใจ ที่ใครต่อใครต่างเอาไว้ใช้เป็นทางเชื่อมต่อความรู้สึกที่ส่งผ่านถึงกัน แต่ “เหรียญมีสองด้าน” ฉันใด การส่งต่อความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดียถึงใครบางคน ก็มีจุดที่ต้องระวังฉันนั้น
สถานการณ์
“เดช” เป็นคนชอบเล่นเฟซบุ๊ก ตื่นลืมตาขึ้นมาก็เปิดเฟซบุ๊ก เพื่อเช็กดูความเคลื่อนไหวของเพื่อน ของแฟน ของคนอื่นๆ ที่อยู่ในลิสต์เพื่อน และของเหตุการณ์บ้านเมือง วันหนึ่ง เดชค้นพบว่า มีคนโพสต์รูปและข้อความเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ใคร่จะสู้ดีมากนักลงไป ซึ่งข้อความและคอมเมนต์ของคนอื่นๆ ชัดเจน แรง และตรงไปตรงมาเสียจนกระทบจิตใจของเดช เดชรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองเห็นผ่านเฟซบุ๊กนั้นมันไม่ใช่ มันไม่ถูกต้อง เดชเลยแสดงความคิดเห็นโดยพิมพ์ข้อความที่ชัดเจน แรง และตรงไปตรงมาในแนวทางของตนลงไป ปรากฏว่า มีคอมเมนต์ด่าว่าเดชมากมายสารพัด เดชก็โต้กลับ แล้วก็ถูกโต้กลับมาอีก จนเช้าวันนั้น หน้าเฟซบุ๊กของเดชกลายเป็นทะเลอารมณ์ ที่ใครต่อใครต่างด่ากันอย่างสาดเสียเทเสีย ซึ่งทำให้เดชถึงกับเครียดจัด จนไม่สามารถไปทำงานได้ในวันนั้น
ทางออก
อย่างที่ใครเขาว่า ว่าเรื่องการมุ้งการเมือง แสดงความคิดเห็นได้ แต่ให้อยู่ในขอบเขตพอดี ยิ่งแสดงความรู้สึก ยิ่งต้องให้อยู่ในขอบเขตที่ไม่ระเบิดอารมณ์ใส่กัน เพราะเรื่องการเมืองมันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ที่ไม่มีใครคิดเหมือนใคร การที่เอาอีโก้ของตนไปฟาดงวงฟาดงาใส่กัน มันยิ่งทำให้ 1 ทะเลาะกัน 2 เสียสุขภาพจิต ยิ่งไปฟาดงวงฟาดงาผ่านโซเชียลมีเดีย ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ “ความสร้างสรรค์” เป็นที่สุด เพราะอะไรที่ระบายผ่านทางโซเชียลมีเดีย มันคือการสร้างหลักฐานชิ้นเยี่ยม ที่เราไม่รู้หรอกว่า ความคิดหรือความรู้สึกของเรา ที่เราได้คอมเมนต์ลงไป จะกลายเป็นดาบสองคมย้อนกลับมาทำร้ายทำลายตัวเราเองหรือเปล่า เพราะฉะนั้นก่อนพิมพ์อะไรลงไป ตั้งสติ ใช้ปัญญา อย่าใช้อารมณ์ ยิ่งเรื่องการเมือง ยิ่งต้องใช้สติปัญญามากที่สุด
อย่าลืมว่า บนโลกใบนี้ไม่มีใครคิดเหมือนใคร ทางออกเดียว คือ คอมเมนต์อะไรใคร ก็ขอให้คอมเมนต์อย่างสร้างสรรค์ อย่าคอมเมนต์เพียงเพื่อต้องการทำลายล้างกันเพื่อที่ความสะใจ แล้วทุกสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางสร้างสรรค์ ที่ไม่ใช่ทำลายกัน อย่างเป็นอยู่ทุกวันนี้
Ask the Expert
Q: อยากฝึกให้เด็กๆ คิดและตัดสินใจเองในทางที่ถูกต้องได้อย่างไรบ้าง
A: ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันอินไซต์คิดส์ (www.insightkids.co.th) แนะนำว่า การคิดตัดสินใจและเรียนรู้จากการตัดสินใจ เป็นกระบวนการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของเด็กๆ ทุกคน คุณพ่อคุณแม่ช่วยให้ลูกได้ฝึกทักษะการคิดตัดสินใจได้ ประสบการณ์การคิดตัดสินใจจะช่วยเด็กๆ ได้สร้างความมั่นใจและรู้สึกดีกับตนเอง
อาจจะเริ่มจากการสร้างขอบเขตที่ชัดเจนในสิ่งที่เด็กๆ เลือกกำหนดเวลาเข้านอน การอาบน้ำ แปรงฟัน การใส่ชุดที่เหมาะสมกับอากาศ เวลาในการเล่นเกม หรือดูโทรทัศน์
พูดคุยเกี่ยวกับการตัดสินใจทั่วไปในแต่ละวัน ให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการคิดตัดสินใจ เช่น จะไปตีแบดดีหรือไปเต้นแอโรบิกดี ให้เด็กๆ ช่วยคิดถึงข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละทาง เป็นการฝึกทักษะการคิดพิจารณาด้วย
ให้เด็กๆ มีบทบาทในการตัดสินใจในครอบครัว เช่น การวางแผนไปเที่ยว งานบ้าน และให้พวกเขาเรียนรู้จากการตัดสินใจทั้งที่ดีหรือไม่ดี ว่าทุกอย่างสามารถตัดสินใจผิดพลาดได้ การมองย้อนหลังสิ่งที่เกิดขึ้นจะช่วยให้เขาเรียนรู้และทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นในอนาคต
He Said / She Said
เม่นพนักงานบริษัท
“ชอบผู้หญิงขาวๆ อวบๆ น่าจ๊วบ (หัวเราะ) คือจะชอบผู้หญิงที่มีเนื้อหนังหน่อยครับ แต่ไม่ใช่อ้วนนะครับ และก็ไม่ได้ผอมเหมือนนางแบบ”
นกพนักงานบริษัท
“ชอบผู้ชายอวบๆ และต้องขาวๆ ยิ่งตี๋ยิ่งดี ดูแล้วเหมือนเสี่ย แต่อ้วนนี่ไม่เอานะ ดูจะเป็นเสี่ยเกินไป (หัวเราะ) ขอแค่อวบๆ ก็น่ากอดแล้วละค่ะ”
Quote
“ฉันมองเห็นคนที่ฉลาดขึ้นกว่าตอนที่ยังอายุน้อยกว่านี้ โดยเฉพาะจุดเปลี่ยน คือ หลังจากที่มีลูกแล้วก็ผ่านเลยวัย 30 มาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงวัย 40 อาจจะสวยน่ารักน้อยลงไปเยอะหน่อย แต่ก็เพิ่มประสบการณ์มากขึ้นในสมอง ฉันว่า ฉันรักการสูงวัยก็เรื่องวุฒิภาวะ ถ้าไม่นับเรื่องผิวที่แห้งเหี่ยวลงทุกวันน่ะนะ”
แทนดี้ นิวตัน นักแสดงสาวผิวสีฮอลลีวูด


