posttoday

สายใยครอบครัว ‘นววัฒนทรัพย์’

03 สิงหาคม 2556

“เราเป็นบ้านที่ยอมกัน เลือกที่จะไม่ให้เกิดการปะทะกัน แม้เราจะรู้ตัวว่าเราไม่ได้ผิด แต่นี่คือพ่อ นี่คือแม่ นั่นคือพี่ นี่คือน้อง ทั้งหมดคือคำว่าครอบครัว”

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล 

“เราเป็นบ้านที่ยอมกัน เลือกที่จะไม่ให้เกิดการปะทะกัน แม้เราจะรู้ตัวว่าเราไม่ได้ผิด แต่นี่คือพ่อ นี่คือแม่ นั่นคือพี่ นี่คือน้อง ทั้งหมดคือคำว่าครอบครัว”

“นววัฒนทรัพย์” ผู้นำเข้าและซื้อขายทองคำแท่งค้าส่งภายใต้การดูแลของผู้เป็นแม่ “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล วัย 54 ปี ลูกสาวคนโต “ฐิภา” หรือ “มล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส วัย 31 ปี และ “ธีระพงค์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล ด้วยวัย 28 ปี ทั้งสามคนเป็นทั้งครอบครัวเดียวกันและเจ้านายกับลูกน้องที่ต้องทำงานเชื่อมโยงกันในธุรกิจของครอบครัว “นววัฒนทรัพย์”

‘พวรรณ์ : ใกล้ชิดและใช้เหตุผลกับลูก’

เธอใช้หลัก 2 ประการในการเลี้ยงลูก คือ “ความใกล้ชิด” ที่เลี้ยงให้ใกล้ตัวตั้งแต่เล็ก เพราะเริ่มต้นจากธุรกิจของครอบครัวจึงเลี้ยงลูกและทำงานไปด้วย และก็เริ่มให้ลูกคลุกคลีการทำงานตั้งแต่ยังเรียนชั้น ป.4 เมื่อเขาเห็นและเข้าใจการทำงาน จึงค่อยๆ บอกว่านี่คืออะไร สงสัยอะไรก็ถามตรงๆ เพราะเด็กไม่มีอะไรอ้อมค้อม ทำให้เขาเห็นทุกย่างก้าวธุรกิจที่บ้าน ตั้งแต่ธุรกิจแบบครอบครัวจนเริ่มเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ลูกก็ช่วยแสดงความคิดเห็นและต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

อีกอย่างคือ “การคิดอย่างมีเหตุผล” ซึ่งจำเป็นมากเพราะเป็นรากฐานการทำงานในอนาคตอย่างดี เข้าใจว่าเด็กรู้สึกเบื่อและหลายครั้งที่ตั้งคำถามกับเราว่า ทำไมหนู/ผม ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบเพื่อนบ้าง ก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าเพราะอะไร ไปไหนได้แต่แม่จะไปรับไปส่งให้ เพราะเขายังเด็กควรอยู่ในสายตาพ่อแม่ตลอด อีกทั้งพยายามสอนให้สามารถรับทั้งเรื่องดีหรือร้ายและไม่กลัวที่จะมาบอกแม่ว่าไปทำเรื่องไม่ดีมา วิธีคิดนี้จะช่วยทำให้เขาไม่หลงไปในทางที่ผิด ขณะที่เขาก็สามารถกลั่นกรองได้ด้วยตัวเอง

บ้านโตมาจากที่อยู่ร่วมกันมา 56 ครอบครัว ทำให้รู้ว่าน้องเคารพพี่ พี่ต้องดูแลน้อง เวลาใครทะเลาะกัน สุดท้ายเขาจะเข้าใจว่านั่นคือครอบครัว ทุกคนสามารถคิดต่างได้แต่ไม่มีใครผิดหรือถูก

ตอนนี้ไม่ห่วงลูกสาวเพราะเขาทำงานมาสักพัก จนมีแนวคิดและหลักการทำงาน รู้จักแบ่งเวลาเรื่องต่างๆ ถึงเวลาทำงานเขาก็ตั้งใจและทุ่มเทกับมันมากที่สุด ถึงเวลาพักผ่อนเธอก็จะผ่อนคลาย และมั่นใจได้แล้วว่าตอนนี้ “มล” สามารถสานต่อธุรกิจได้เป็นอย่างดี แต่ลูกชายยังมีมุมมองบวกหลายเรื่อง รู้สึกว่าคนที่อยู่รอบตัวเขาเป็นคนดีไปหมด ซึ่งอันนี้ก็ต้องให้เขาได้เรียนรู้ไป เรื่องงานก็ยังคอยดูอยู่ห่างๆ ถ้ามีปัญหาต้องลองให้แก้ไขเอง ถ้ายังไม่เห็น เราก็จะคอยแนะนำบ้าง ซึ่งถ้าไม่ไหวจริงถึงจะเข้าไปช่วย เชื่อว่าถ้าเขาเห็นเราทำ 23 รอบ เขาก็จะเข้าใจมากขึ้น ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเขาก็จะทำได้เหมือนพี่สาว และทำให้ผู้เป็นแม่สามารถวางมือจากงานบริษัทได้ในอีก 6 ปีข้างหน้า

‘มลฐิภา : แม่เป็นได้ทุกสถานะของลูก’

แม่เป็นทุกอย่าง ทั้งเจ้านายที่ดีและเป็นต้นแบบในการทำงานให้เราถึงทุกวันนี้ ขณะเดียวกันแม่ยังเป็นทั้งภรรยาและแม่ที่ดีของครอบครัว ไม่เคยทำหน้าที่ใดบกพร่อง โดยเฉพาะกับลูกเหมือนเป็นเพื่อนเราคนหนึ่ง จนเรียกได้ว่ามลกับแม่แทบจะไม่มีความลับต่อกันเลย หนำซ้ำแม่และเพื่อนเราทุกคนจะรู้จักกันดี เสมือนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันไปเลย

แม่ย้ำให้ลูกฟังเสมอว่า วันหนึ่งประสบการณ์จะสอนเราและทำให้เราโตขึ้น แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ถ้าหากหันหลังมาทุกคนยังมีครอบครัว ยังมีพ่อ แม่ พี่และน้องอยู่เสมอ ดังนั้นไม่ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ก็ขอให้หันมาที่ครอบครัว แล้วพอเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จริงๆ มันเข้าใจชัดเจนเลยว่า คำว่า “ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” เป็นเรื่องที่ดีและช่วยเราได้จริงๆ เพราะประสบการณ์ของท่านทำให้เราสามารถบริหารจัดการได้ดี แต่หากเราไม่ฟังท่านคงเจออะไรที่หนักหนาสาหัสกว่านี้

นอกจากนี้ “มล” ยังประทับใจในการชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ของแม่เสมอ และหลายครั้งเรากลับรู้สึกว่าแม่วัยรุ่นกว่าเราด้วยซ้ำ แม่ยังฟังเพลงวงเกิร์ล เจเนอเรชั่น และดูซีรีส์เกาหลี ส่วนน้องชายเขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จากที่เราห่วงและดูแลเขา ตอนนี้เขาเริ่มที่จะมาดูแลเรามากขึ้นและกลายเป็นที่ปรึกษาและเพื่อนคู่คิดเรามากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นอีกมุมที่ทำให้เรารู้สึกดี

‘เบิร์ดธีระพงค์ : ครอบครัวติดกัน’

สิ่งที่ผมได้จากคุณพ่อคุณแม่ คือ การรู้จักหัดคิดหัดสังเกตสิ่งรอบตัว เช่น จะช่วยกันคิด วิเคราะห์ว่าร้านอาหารหรือวิลลานี้ มียอดขายหรือมีต้นทุนต่อวันเท่าไร จะเปิดได้นานขนาดไหนในทำเลนี้ แล้วเราก็เปิดโอกาสให้แต่ละคนแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างเต็มที่

ผมว่าเราสนิทกันมาก ตอนนี้ยังกินข้าวด้วยกันทุกกลางวัน หลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมมาทำให้เราผูกพันกันตลอดวันมากไปอีก เพราะปัจจุบันใช้ห้องทำงานเดียวกันนั่งกันคนละมุมไปเลย พ่อ แม่ พี่ และผม ซึ่งเดิมนั่งทำงานกันคนละชั้น มีอะโรโทรคุยกัน เมื่อสถานการณ์กลับสู่ปกติ พวกเราทั้ง 4 คนไม่แยกย้ายกลับไปนั่งทำงานในห้องทำงานเดิมของตัวเองเลย

ตอนนี้ห่วงคุณพ่อกับคุณแม่เรื่องเดียว คือ สุขภาพ เพราะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และหลายครั้งยังเผลอรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะกับโรคที่เป็นอยู่ ส่วนพี่สาวผมว่าเขาเป็นคนเก่ง เพราะงานที่เขาลุกขึ้นมาทำถือเป็นความท้าทายมากในการต่อยอดธุรกิจที่แม่ทำไว้ดีแล้ว สิ่งที่เป็นห่วง คือ ไม่อยากให้เขาเครียดกับงานเกินไป แต่ที่ผ่านมามั่นใจว่าพี่สาวมีวิธีการผ่อนคลายความเครียดกับงานได้ดี

แม้ตอนนี้ครอบครัวจะหาเวลาไปเที่ยวต่างประเทศได้น้อยลง เหลือเพียงช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่หรือเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น แต่เชื่อว่าการที่ทุกคนมีความใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เด็กและยังคงถึงปัจจุบัน จะเป็นรากฐานที่ทำให้ “ครอบครัวนววัฒนทรัพย์” มีความผูกพันแน่นแฟ้นตลอดไป

ข่าวล่าสุด

กกต. เห็นชอบร่างแผนเลือกตั้ง – กำหนดวันใช้สิทธิ์ 8 ก.พ. 69