กุหลาบเลื้อย
สำหรับผู้ออกแบบจัดสวนและแม้แต่คนรักสวนธรรมดาอย่างเรา เห็นจะปฏิเสธไม่ได้ว่ากุหลาบเลื้อยเป็นตัวสร้างจุดเด่นให้กับสวน
โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม
สำหรับผู้ออกแบบจัดสวนและแม้แต่คนรักสวนธรรมดาอย่างเรา เห็นจะปฏิเสธไม่ได้ว่ากุหลาบเลื้อยเป็นตัวสร้างจุดเด่นให้กับสวน ไม่ว่าจะจัดให้มันเลื้อยขึ้นไต่ผนังรั้วไม้ พันพาดซุ้มหน้าบ้านและเสารั้ว หรือจัดให้พันพาดไปตามแนวยาวของรั้ว ขึ้นซุ้มเหล็กดัด หรือแม้แต่จัดให้เกาะเหล็กยึดขึ้นตามกำแพงอิฐก่อ กุหลาบเลื้อยหลากสีช่วยทำให้สวนเกิดบรรยากาศแห่งความสดชื่นหอมหวานขึ้นมาในทันที
กุหลาบเลื้อยบางพันธุ์อาจมีดอกขนาดใหญ่หรือมีดอกเล็ก รูปทรงดอกล้วนแต่หลากหลายและมีนิสัยการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราอาจจัดกลุ่มพวกมันออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ นั่นคือกลุ่มที่มีลำต้นเป็นเถายาว พุ่งขึ้นมาจากโคนกอใกล้ผิวดิน และสามารถจัดทรงได้ไม่ยากนัก แต่ละปีกุหลาบเลื้อยที่สามารถจัดทรงให้เลื้อยขึ้นลำต้นใหญ่ในสวนได้ หรืออาจใช้ปลูกขึ้นคลุมเรือนไม้ระแนงในสวนก็เหมาะสมดี
กุหลาบเลื้อยกลุ่มที่สองนั้นมีโครงลำต้นแข็งแรง ประกอบด้วยเถาแข็งที่ภายในเห็นเนื้อไม้เด่นชัด พวกนี้จึงมีโครงสร้างที่โดดเด่นและสร้างดอกได้ปีละครั้งหรือหลายครั้งก็ได้ และอาจสร้างดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือผลิช่อดอกขนาดเล็กออกมาก็มี
เราควรเลือกซื้อกุหลาบเลื้อยพันธุ์ที่สามารถเติบโตได้ความสูงที่เราต้องการ โดยสร้างซุ้มหรือโครงร้านให้มันได้ไต่เกาะขึ้นไป เลือกพันธุ์กุหลาบเลื้อยที่ให้สีดอกตามที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู หรือส้ม ให้เข้ากับสีของบ้านเป็นเรื่องสำคัญ เพราะกุหลาบเลื้อยจะคงอยู่ไปอีกนานหลายปีในสวนของเรา
พันธุ์กุหลาบเลื้อย
กุหลาบเลื้อยดอกสีชมพูที่โดดเด่นพันธุ์ซึ่งมีชื่อว่าอโลฮา (Aloha) มีกลิ่นหอม ดอกขนาดใหญ่ และรูปทรงการจัดเรียงตัวกลีบดอกสวยงามน่าดู พุ่มชูสูง 8-10 ฟุต หากได้รับการดูแลดี
กุหลาบเลื้อยพันธุ์อัลติสซิโม (Altissimo) นับว่าได้รับความนิยมสูงในหมู่ปลูกเลี้ยงกุหลาบในอเมริกา มันชูลำต้นเป็นเถาขึ้นสูง 8-10 ฟุต เช่นเดียวกับพันธุ์อโลฮา ทนหนาวเย็นได้ดีมาก แต่ออกดอกได้ดีในช่วงฤดูร้อน ดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยวสีแดงฉาน กลีบมีผิวมันเป็นประกายตัดกับกลุ่มเกสรตัวผู้สีเหลือง บริเวณใจกลางดอก
พันธุ์ออตั้มซันเซต (Autumn sunset) เป็นกุหลาบเลื้อยซึ่งเข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่สองปีที่แล้ว ทนร้อนได้ดี ทนทานโรคและให้ดอกหอม ดอกสีเหลืองอมส้ม พุ่มสูง 8-12 ฟุต
พันธุ์ดับลิน เบย์ (Dublin Bay) เหมาะสำหรับคนชอบกุหลาบดอกสีแดงสดใส พุ่มสูง 8-10 ฟุต ออกดอกได้รวดเร็วหลังปลูกไม่นาน นับเป็นกุหลาบเลื้อยที่ไม่ธรรมดาเลย แต่หาพันธุ์ได้ยาก
พันธุ์กุหลาบเลื้อยดอกสีขาวไส้กลาง (เกสรตัวผู้สีเหลือง) คือพันธุ์ “Fourth of July” หาได้ในอเมริกา ทนโรคเมืองร้อนได้ระดับหนึ่ง พุ่มสูง 810 ฟุต แต่กุหลาบพันธุ์นี้ไม่พบในการปลูกเลี้ยงนอกอเมริกาเท่าใดนัก
เทคนิคปลูกเลี้ยงกุหลาบเลื้อย
การเตรียมหลุมปลูกกุหลาบเลื้อยต้องขุดหลุมขนาดประมาณหนึ่งเมตร ขุดลึกอย่างต่ำ 50 เซนติเมตร นำดินเก่าในหลุมขึ้นมาปรุงใหม่ โดยผสมกับทรายหยาบ แกลบดิน (ผ่านการหมักนาน 6 เดือน) ใบไม้ผุ มูลไก่หรือมูลวัว (ปุ๋ยคอกเก่า) เติมปูนขาวเล็กน้อยหลุมละครึ่งกิโลกรัม (หากดินเป็นกรดจัด พีเอชต่ำกว่า 4.0) คลุกเคล้ากับดินผิวให้ทั่วถึง และใส่ลงไปในหลุม เติมปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (NPK 15-15-15) หลุมละครึ่งกิโลกรัม คลุกเคล้าให้ทั่วถึง
ก่อนปลูกต้องแผ่รากให้ยืดออก หากเป็นกุหลาบอยู่ในถุงหรืออยู่ในกระถาง สถานที่ปลูกกุหลาบเลื้อยต้องได้รับแสงแดดโดยตลอดทั้งวัน (อย่างต่ำแสงแดด 6 ชั่วโมง จึงจะพอ) การถ่ายเทอากาศมีลมพัดผ่านไม่อับชื้น มิฉะนั้นจะเกิดโรคราระบาด ก่อนปลูกควรจุ่มโคนต้นพร้อมรากลงในถังน้ำ แช่น้ำไว้ 2-3 ชั่วโมงก่อนปลูก
การรดน้ำกุหลาบปลูกใหม่ ควรให้น้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย รดน้ำตอนเช้าก่อนแดดออก หาใบไม้ผุคลุมผิวดินรอบโคนให้หนาอย่างน้อย 1 นิ้ว อย่าลืมปักหลักมัดต้นให้มั่นคงกันลมพัดโยก นับเป็นเรื่องสำคัญ


