คุณหนูเอาแต่ใจ กับ ลูกชายไม่รู้จักโต
ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวมีชีวิตรักและชีวิตสมรสระหว่างสามีภรรยาที่มีความสุขมาก
โดย...มีนา
ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวมีชีวิตรักและชีวิตสมรสระหว่างสามีภรรยาที่มีความสุขมาก แต่ความรักความสามัคคีในครอบครัวเริ่มลดน้อยลง เมื่อลูกสาวคนเล็กวัย 5 ขวบ และลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ ที่ตัวใหญ่และใกล้เป็นหนุ่มแล้วยังมีนิสัยเป็นเด็กไม่รู้จักโต ส่วนลูกสาวก็เป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถือว่าเป็นลูกสาวคนเล็กทุกคนในบ้านจึงรักและตามใจมากเป็นพิเศษ คุณพ่อคุณแม่พยายามแก้ไขปัญหาอยู่หลายครั้ง แม้ไม่กล้าว่ากล่าวด้วยวิธีที่รุนแรง เพราะจะมีคุณปู่คุณย่าคอยห้ามปรามและให้ท้ายอยู่เป็นประจำ จนในบางครั้งเกรงว่าปัญหาจะเรื้อรังไปจนกระทั่งลูกๆ โตกว่านี้แล้วจะปรามไม่ไหว จนบางครั้งคิดไปถึงอนาคตและกลายเป็นความเป็นห่วงไป
ปัญหา : ลูกสาววัย 5 ขวบเป็นเด็กเอาแต่ใจมากๆ เช่น พาไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะมุมของเล่น หากลูกสาวอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ จะลงไปดิ้นและร้องไห้ที่พื้นเป็นที่อับอายมากๆ เพราะพูดอย่างไรแกก็ไม่ฟัง
วิธีแก้ : สำหรับเด็กเอาแต่ใจตัวเอง สะท้อนถึงการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ที่รักลูกและถนอมลูกมากจนเกินพอดี ลูกอยากได้อะไรแล้วไม่เคยขัดใจเลย ลูกจึงมั่นใจในความรักของพ่อแม่ที่มีให้สูงมาก เมื่อลูกเรียกร้องอะไรก็มั่นใจด้วยว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายต้องให้ วิธีแก้คือต้องแก้ไขตั้งแต่ลูกยังเป็นเด็กเล็ก เช่น อาศัยการพูดคุย การอธิบายว่าสิ่งนั้นที่ลูกอยากได้มันยังไม่ถึงเวลา หรือถ้าอยากได้จริงๆ ต้องตั้งกติกา เช่น ตั้งใจเรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยดีๆ หรือทำตัวเป็นเด็กดีก่อน อีกทั้งยังควรสอนให้ลูกรู้จักการให้ตั้งแต่เด็ก เพราะเด็กมักชินกับความสุขของการเป็นผู้รับ จนลืมไปว่าความสุขนั้นสามารถได้มาจากการเป็นผู้ให้ด้วยเช่นกัน วิธีทำให้ลูกรู้จักและสัมผัสกับการให้ คือ พาเขาไปพบเจอกับเด็กที่ขาดกว่าเขา เช่น เด็กด้อยโอกาสตามศูนย์เด็กกำพร้า ซื้อหาของเล่น หรือนำของเล่นเก่าที่คุณภาพดีของลูกแต่ปัจจุบันไม่เล่นแล้วไปแบ่งปันให้เพื่อนๆ ผู้ขาดแคลนบ้าง แล้วก็สอนให้ลูกรู้จักการให้ การแบ่งปัน บอกลูกว่าโชคดีแค่ไหนที่ลูกยังมีพ่อแม่คอยดูแล ดังนั้นต้องรักผู้อื่นและรู้จักแบ่งปันให้เพื่อนที่ขาดแคลนที่ยังมีอยู่บนโลกใบนี้บ้าง ไม่ใช่แต่จะเรียกร้องอย่างเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาแสดงให้เด็กเห็นว่าความสุขเพียงเล็กน้อยที่ลูกสละนั้น สามารถสร้างความสุขให้กับคนอื่นๆ ได้มากแค่ไหน และสุดท้ายเขาก็จะได้รับความสุขนั้นกลับคืนไปด้วยเช่นกัน ส่วนคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายนั้นก็ต้องพูดให้ท่านได้คิดว่า ยุคสมัยนี้กับสมัยเก่าเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานต้องมีการปรับ อย่ารักและตามใจมากจนเกินไป เด็กจะเสียนิสัยเพราะในยุคปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุมากพอแล้ว ดังนั้นลูกเติบโตในบ้านต้องสอนให้ลูกหลานรู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง รู้ว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ
ปัญหา : คือ ลูกชายเป็นเด็กไม่รู้จักโต อยากให้แม่ไปรับไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน ให้ไปโรงเรียนเองก็เกิดอาการงอน
วิธีแก้ : ปัญหานี้ถือว่าไม่ค่อยเป็นปัญหาหนักสักเท่าไหร่สำหรับพ่อแม่ในยุคปัจจุบัน เพราะพ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกเป็นเด็กไปนานๆ กลัวลูกจะเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว เพราะมีความสุขกับการที่มีลูกๆ มานัวเนียอยู่ใกล้ๆ เด็กที่ไม่รู้จักโตส่วนใหญ่มักเติบโตมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิดมากๆ ไปรับไปส่งที่โรงเรียนทุกค่ำเช้า ปู่ย่าตายายบางคนขนาดหลานโตแล้วก็ยังมีความสุขกับการป้อนข้าวให้อยู่เลย เด็กจึงรู้สึกว่าตนเองเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา ข้อดีที่เห็นชัดที่สุดของเด็กกลุ่มนี้ คือ พวกเขาจะมองโลกสดใส คิดบวก มองทุกอย่างในแง่ดี มีความสุขกับอะไรง่ายๆ และมักจะทำให้คนรอบข้างมีความสุขด้วยเช่นกัน จนในบางครั้งดูเปราะบางเกินไปเสียด้วยซ้ำ พ่อแม่จึงควรฝึกให้ลูกตัดสินใจหรือทำอะไรด้วยตัวเองและช่วยเหลือตัวเองในสิ่งง่ายๆ เสียบ้าง เช่น ให้ลูกรับผิดชอบกับตารางสอน หรืออุปกรณ์การเรียนที่ต้องเก็บรักษาให้ดี ฝึกให้ลูกรู้จักเส้นทางกลับบ้านและขึ้นรถเมล์ไปกลับบ้านเอง เริ่มจากระยะทางใกล้ๆ เมื่อลูกชินแล้วก็ปล่อยให้เขากลับบ้านเอง โดยมีพ่อแม่ซัพพอร์ตอยู่ห่างๆ พ่อแม่ยุคใหม่ควรปล่อยให้ลูกพบเจอกับความยากลำบากเสียบ้าง รู้จักเลือกคบคนดี และสอนว่าลูกต้องโตและต้องดูแลตัวเอง เพราะพ่อแม่สักวันหนึ่งก็ต้องตายจากไป
Ask the Expert...
Q. หลานชายวัย 7 ขวบขาดสมาธิในการเรียน (ไม่ได้เป็นสมาธิสั้น) หัวดีเรียนรู้เร็ว พูดจาฉะฉาน เรื่องรอบตัวเก่ง แต่เรื่องเรียนไม่ดี (ครูบอกว่าไม่ได้โง่ แต่ไม่ค่อยมีสมาธิห่วงเล่น) เราจะแก้ไขส่งเสริมเรื่องเรียนแกอย่างไรดีคะ ?
A. พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) กรมการแพทย์ ให้ข้อแนะนำที่น่าสนใจไว้ว่า สมาธิมีส่วนสำคัญสำหรับเด็กวัยเรียน เพราะทำให้เด็กสามารถจดจ่ออยู่กับเนื้อหาในชั่วโมงเรียนหรือการบ้านที่อยู่ตรงหน้าได้ ดังนั้นหากเด็กเริ่มมีปัญหาเรื่องสมาธิจึงมักจะสังเกตได้ง่ายในช่วงวัยนี้ ส่วนสำคัญที่สุดคือ เด็กควรได้รับการประเมินจากจิตแพทย์เด็ก เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่แน่นอน เพราะพฤติกรรมขาดสมาธิอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ การประเมินจากผู้เชี่ยวชาญจะทำให้เด็กได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ การรักษายังครอบคลุมไปถึงการฝึกทักษะของเด็กในกรณีที่พบว่าสมาธิเป็นปัญหาหลัก ซึ่งจะมีส่วนช่วยเรื่องเรียนและเรื่องพฤติกรรมของเด็กอีกด้วย
He Said / She Said
ไทม์ นักศึกษา
“ผมว่าผู้หญิงยุคนี้เข้าใจยากนะ เพราะจนป่านนี้ผมยังหาแฟนไม่ได้เลย (หัวเราะ) ผมว่าผมเอาใจเก่ง เทกแคร์เก่ง หน้าตาผมก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงพวกสาวๆ สักที ผมว่าพวกเธอคงเป็นสาวที่มั่นใจตัวเองสุดๆ อยู่ได้โดยไม่มีผู้ชายพวกเธอก็ทำได้ เชื่อดิ (หัวเราะ)”
ก้อย นักศึกษา
“ผู้ชายหายากค่ะ (หัวเราะ) ดิฉันว่าสมัยนี้ต้องดูให้ดี เราอาจจะได้หนุ่มๆ ที่หลอกให้รักเพื่อสร้างภาพก็เป็นได้ (หัวเราะ) แต่เอาเข้าจริงๆ ดิฉันก็ว่าน่าจะมีผู้ชายนุ่มๆ เสียงอบอุ่นๆ นิสัยดีๆ หลงมาให้ดิฉันเลือกสักวันละน่า”
Quote
“ชีวิตก็เหมือนการเต้นรำ ถ้าหากเราอยู่บนฟลอร์ขนาดใหญ่ ก็มักจะมีคนร่วมวงเต้นรำจำนวนมากมาย บางคนก็อาจจะเกิดหงุดหงิดอารมณ์เสีย เมื่อมีการเปลี่ยนเพลง เปลี่ยนจังหวะ ทำนอง แต่ชีวิตนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา”
มิเกล อังเกล รูอิซ นักเขียนชาวเม็กซิกัน


