posttoday

เริ่ดๆ เก๋ๆ โลเกชันไทยในหนังเทศ

06 เมษายน 2556

ฉากสวยๆ ในหนังเรื่องหนึ่ง สร้างความตราตรึงให้ผู้ชมมิรู้คลาย หนังจบภายในชั่วโมงครึ่งก็จริง

ฉากสวยๆ ในหนังเรื่องหนึ่ง สร้างความตราตรึงให้ผู้ชมมิรู้คลาย หนังจบภายในชั่วโมงครึ่งก็จริง

โดย...โจ เกียรติอาจิณ

ฉากสวยๆ ในหนังเรื่องหนึ่ง สร้างความตราตรึงให้ผู้ชมมิรู้คลาย หนังจบภายในชั่วโมงครึ่งก็จริง แต่ภาพเหล่านั้นกลับไม่จบลงง่ายๆ บางรายอินจัดถึงขั้นลงทุนหนีไปเที่ยว ณ สถานที่ที่เคยปรากฏในหนัง

ไม่ใช่อื่นไกล ก็กรณีคนจีนนั่นไง ที่แห่มาเที่ยวเมืองไทย เพราะความฮิตความฮอตของหนังจีนขายขำ Lost in Thailand ทำรายได้ถล่มทลายในบ้านเกิด 320 ล้านหยวน (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) จนเกิดกระแส “ไทยแลนด์ฟีเวอร์”

ขอยกเครดิตให้โลเกชันในเชียงใหม่ สถานที่ถ่ายทำหนังที่แผ่อานิสงส์แรงกล้า นำพาตี๋หมวยมาเยือนเมืองไทย ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวสุดป๊อป

เพราะเมืองไทยมีดี

“สวี่เจิง” ผู้กำกับ Lost in Thailand บอกเหตุผลที่เลือกประเทศไทยเป็นโลเกชันหลัก ก็เพราะความหลากหลายด้านวัฒนธรรม มีไม่ซ้ำแบบ เลือกได้ตามรสนิยม

“คุณสามารถเลือกเที่ยวชมธรรมชาติอันสวยงาม จะเข้าวัดฝึกสมาธิก็ได้ กระทั่งจะไปเที่ยวตามสถานบันเทิงและสนุกสุดเหวี่ยงในแบบที่ไม่เหมือนใครก็ยังทำได้ ดังนั้นจะมีที่ไหนเหมาะแก่การจับตัวละครโยนลงไปเผชิญกับเรื่องราวมันๆ ได้ดีกว่าที่เมืองไทยอีกละ”

คำพูดผู้กำกับจีนแผ่นดินฟังแล้วก็เป็นปลื้ม แสดงว่าเมืองไทยคือหมุดหมายสำคัญสำหรับกองถ่ายหนังต่างประเทศ ที่พวกเขาอยากมาจนตัวสั่น ทำไมไม่ไปจีน ไม่ไปฮ่องกง ไม่ไปญี่ปุ่น กระทั่งเกาหลีใต้ ที่ชูประเด็นเน้นวัฒนธรรม ป๊อป รวมถึงเพื่อนบ้านย่านเออีซี สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ก็ยังแพ้ไทยแลนด์

“พอล สเตอร์ริเออ” ผู้ประสานงานกองถ่ายหนังต่างประเทศหลายต่อหลายเรื่อง สารภาพกับเราว่า เมืองไทยได้เปรียบเรื่องภูมิศาสตร์ ผู้คน วัฒนธรรม ขาดไม่ได้ คือ ถ่ายหนังในเมืองไทยราคาถูก

“เมืองไทยมีเกือบจะครบทุกอย่างเลยนะครับ ขาดก็แต่ไม่มีหิมะ (หัวเราะชอบใจ) ซึ่งผมก็คิดว่ามันจะมีหนังสักกี่เรื่องกันเชียวที่มีฉากหลักอยู่กลางหิมะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นภูเขา ทะเล ชุมชน ตึกรามบ้านช่อง อะไรที่ไม่มี ก็เป็นหน้าที่ของเทคโนโลยี สร้างแทนได้ แต่ความเป็นเมืองไทย หาไม่ได้จากที่อื่นแน่นนอน ตลาดน้ำ วัด โบราณสถาน ตุ๊กตุ๊ก ย่านราตรี ผมว่านี่ละคือเสน่ห์ของเมืองไทย

ผู้คนก็มีส่วน อย่างทีมงานที่เป็นคนไทย น่ารัก มีน้ำใจ ผมเคยคุยกับทีมงานฝรั่งบอกจะกลับมาถ่ายที่เมืองไทยอีก เพราะชอบทีมงานคนไทย ฝรั่งหน้าที่ใครก็หน้าที่ใคร ไม่ช่วย ไม่ก้าวก่าย ตากล้องแบกกล้อง ก็แบกคนเดียวไป ทีมงานไทยไม่ใช่ ยังช่วยแบกช่วยถือ มันก็เลยกลายเป็นภาพประทับใจถึงการมีน้ำใจของคนไทย

อีกอย่างคือ ถ่ายหนังที่เมืองไทยราคาถูก เมื่อเทียบหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนังที่มีพล็อตเกี่ยวกับเมืองไทยโดยตรง หรือแค่มายืมโลเกชัน หลอกๆ ว่าเป็นฉากในเวียดนาม หรือจีนแผ่นดินใหญ่ กองถ่ายที่อยากเซฟเงิน ก็ต้องเลือกมาเมืองไทย ทำงานเสร็จ ก็เที่ยวต่อได้ด้วย คุ้มค่าสุดๆ ครับ”

ไทยแลนด์แดนโลเกชัน

ลองเสิร์ชคำว่า Bangkok แล้วเติม Location เข้าไปอีกหน่อย ในเว็บไซต์ IMDB.com รายชื่อหนังดัง หนังฮิต หนังเก่าเมื่อปีมะโว้ หรือจะเป็นหนังใหม่ที่ยังไม่เข้าฉาย ก็พร้อมโผล่หน้าสลอน นี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า เมืองไทยซึ่งไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่ยังหมายรวม เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และอีกมากมาย ถูกจารึกไว้ในสารบบว่าเป็นโลเกชันหนังต่างประเทศ

The Beach ผลงานของผู้กำกับออสการ์ “แดนนี บอยล์” ที่มีพระเอกเจ้าบทบาท “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” นำแสดง Bangkok Dangerous หนังแอ็กชันทริลเลอร์นำโดย “นิโคลัส เคจ” The Lady หนังชีวิตผู้นำหญิงพม่า “อองซานซูจี” Hangover II หนังแก๊งเกรียนเมาปลิ้น Mammoth หนังอินดี้สุดดรามา Teddy Bear หนังนักเพาะกายผจญรัก หรือจะเป็น The Impossible หนังสึนามิกลืนภูเก็ต

เหล่านี้คือผลผลิตของวงการหนังที่ใช้เมืองไทยเป็นโลเกชันถ่ายทำ และยังมีอีกเพียบที่เลือกเมืองไทยเป็นส่วนหนึ่งของหนัง คำถามคือว่า ไทยแลนด์คือดินแดนโลเกชันหนังเช่นนั้นเหรอ

“ส่วนตัวผมว่าประเทศไทยคือฮับสำหรับกองถ่ายหนังต่างประเทศนะ เพราะในย่านอาเซียนไม่มีใครเทียบชั้นประเทศไทยได้ แต่ประเทศไทยก็ต้องมีการปรับตัวถ้าอยากจะเป็นฮับด้านนี้ รัฐต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจังและจริงใจ ยิ่งเออีซีใกล้จะเปิด ผมว่าประเทศไทยต้องปรับอีกเยอะทีเดียว ไม่งั้นตามประเทศอื่นไม่ทัน น่ากลัวตอนนี้ผมว่าน่าจะเป็นมาเลเซีย พม่าก็น่าจับตา แต่ยังไงผมก็ยังให้ประเทศไทย ด้วยความพร้อม ด้วยศักยภาพ ด้วยความสามารถ” พอล บอก

ผู้กำกับไทย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ที่เคยร่วมงานกับกองถ่ายหนังจากสหรัฐ ในหนังแอ็กชัน Elephant White ยอมรับข้อดีของการเลือกเมืองไทยอยู่ในฉากหนังมีเยอะ แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อย หากจะทำให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางโลเกชันถ่ายหนัง รัฐต้องยกสร้างแรงจูงใจที่ดีกว่านี้

“รัฐต้องลงมาดูแลครับ ถ้าจะทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว แรงจูงใจก็ต้องมีด้วย เช่น เรื่องภาษี เงินสนับสนุน รัฐบาลประเทศอื่นดูเหมือนว่าจะมีเงินสนับสนุนด้วยนะ แต่ของบ้านเราไม่มี มาเลย์มีแล้วนะ กฎหมายก็สำคัญ อย่างตอนที่ผมทำงานกับกองต่างประเทศ เขาก็ปล่อยให้เราลุยเต็มที่ โลเกชันส่วนใหญ่ก็มาจากผม ทีมงานฝรั่งไม่ได้มายุ่งเลย อันนี้ผมมองว่าเพราะเราเป็นคนไทย มันก็เลยขออะไรได้ง่าย ถ้าสมมติว่าเป็นกองต่างประเทศทั้งทีม ก็อาจจะไม่ง่ายทุกอย่าง ผมว่าเมืองไทยมีจุดเด่นและจุดแข็งตรงที่มีสถานที่ท่องเที่ยวดังเยอะ ฝรั่งรู้จัก แล้วมันก็เหมาะที่จะใส่เข้ามาในหนัง แม้บางเรื่องอาจจะไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับเมืองไทย แต่มันก็พร้อมจะเปลี่ยนโฉมเป็นที่ไหนก็ได้”

จัดเทศกาลหนังไปเลย

เพื่อให้เป็นที่รู้จักและให้ป๊อปไปไกลกว่าเดิม ก็คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การจัดเทศกาลหนังต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทยหรอก ว่ามั้ย?

ครั้งแรกที่ได้ยิน ก็ต้องร้องหา!!! มีจริงๆ ด้วยเหรอ เทศกาลหนังต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทย หรือ Thailand International Film Destination Festival 2013 ไม่ได้อำ แล้วก็ไม่ได้โม้ เขาจัดจริงๆ

ฟังรายละเอียดคร่าวๆ จากปากผู้จัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งทีมออร์แกไนเซอร์จากกันตนา ก็พบว่างานนี้มีเฮ เพราะตั้งใจจัดเพื่อโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยแบบไม่มีลับลมคมใน ซึ่งกำหนดการของเทศกาล จัดกันตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย.

ไฮไลต์อยู่ที่ฉายหนังที่ครั้งหนึ่งเคยยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทย รวม 10 เรื่อง 10 รส แอบดูรายชื่อ เรียกว่าน่าดูทั้งหมด บางเรื่องคุ้นตา เพราะเคยเข้าฉาย บางเรื่องอินดี้มากๆ ยังไม่มีโอกาสมาเยือนบ้านเรา

แว่วว่าจะมีทัพนักแสดงชื่อดัง ผู้กำกับ ตลอดจนโปรดิวเซอร์ มาเดินพรมแดงวันที่ 10 เม.ย.นี้ด้วย ที่คอนเฟิร์มมาชัวร์ ได้แก่ นักแสดงผิวสี “ดิจิมอน ฮอนซู” นักบู๊รุ่นป๋า “ฌอง คล็อด แวนแดมม์” วีเจสาวเซ็กซี่แดนมังกร “ชูชู” และคนอื่นอีกมากมายคงทยอยคอนเฟิร์มร่วมงาน

นอกจากนั้น ยังมีการแข่งทำหนังสั้น คอนเซปต์ถ่ายหนังในเมืองไทย ใช้โลเกชันที่โดนใจ ใครทำได้จี๊ด มีรางวัล 50 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจากทั่วโลก ก็ต้องฟาดฟันกันนิด

“ผมว่าหนังมีพลังสูงมาก สำหรับผมมันคือทูตที่จะทำหน้าที่โปรโมตประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ลองนึกสิว่าเวลาที่สถานที่ในประเทศไทยขึ้นจอใหญ่ ถึงแม้คนดูจะไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นที่ไหน แต่ไม่นานหรอก คนดูก็จะรู้เองว่ามันอยู่ที่ประเทศไทย ทีนี้ละคนก็อยากจะมาสัมผัสกับสถานที่นั้นจริง ยิ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่มีความเฉพาะตัว ผมว่าร้อยทั้งร้อยก็ยังขายได้อยู่นะ แล้วผมก็เชื่อว่าโลเกชันที่มีอยู่จริง คือ ไม่ได้สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิก มันให้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่ากันเยอะเลยนะ อย่างตลาดน้ำ วัด หรือร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง มันคือเสน่ห์ที่คอมพิวเตอร์กราฟฟิกสร้างได้ แต่ไร้อารมณ์ สู้มาถ่ายของจริงไม่ได้หรอกครับ” พอล ให้ความเห็น

&<2288;

&<2288;

 

&<2288;

&<2288;

 

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;

 

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!