30 ปีแห่งความขำ ต่าย ขายหัวเราะ
.....อินทรชัย พาณิชกุล
คงไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืดอะไรกันอีกแล้ว กับชื่อเสียงเรียงนามของนักเขียนการ์ตูนระดับตำนานคนหนึ่งของเมืองไทย
“
ต่าย ขายหัวเราะ”เพราะตลอด 30 ปีบนเส้นทางของความขำ ผ่านลายเส้นจำง่ายอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมด้วยมุขตลกหลากหลายที่ทำให้คนอ่านทุกรุ่นทุกวัยหัวเราะกันไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนกับผลงานการ์ตูนแก๊ก การ์ตูนเรื่องสั้น และอื่นๆ โดยเฉพาะงานมาสเตอร์พีซอย่าง
“ไอ้ตัวเล็ก” ที่สร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืมมาจนถึงวันนี้แต่ถึงอย่างนั้น แทบจะนับครั้งได้ที่เราจะได้รู้จักตัวตนจริงของเขา นักเขียนคนนี้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อมาโดยตลอด เขาให้เหตุผลสั้นๆ น้ำเสียงถ่อมตนว่า
“อาย” จนครบ 30 ปีทั้งที ต่าย ขายหัวเราะ จึงพร้อมแล้วที่จะมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตอย่างหมดเปลือก ในฐานะนักเขียนการ์ตูนขวัญใจชาวไทย ผ่านหนังสือของตัวเองที่ชื่อว่า “All About ต่าย ขายหัวเราะ” สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์“
ผมเริ่มเขียนการ์ตูนตั้งแต่จำความได้ ใช้ฝาบ้านนี่แหละเขียนการ์ตูนล้อพ่อตัวเอง แล้วเรียกพี่น้องมาดูมาแอบหัวเราะกัน” ภักดี แสนทวีสุข หรือที่คนทั้งประเทศรู้จักในชื่อ “ต่าย ขายหัวเราะ” ปัดฝุ่นความทรงจำเก่าๆ แล้วยกขึ้นมาเล่าอีกครั้งจากนั้น ต่ายบอกว่าเคยทำหนังสือการ์ตูนขำๆ ทำมือมาให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง ฝึกหัดวาดรูปทุกวันจนฝีมือจัดจ้านขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งในตอนที่เข้าสู่วัยเด็กหนุ่ม เขาก็ได้พบกับฮีโร่ที่จะเป็นพระเอกในดวงใจของเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือ
“จุ๋มจิ๋ม” นักเขียนการ์ตูนอาวุโสเจ้าของผลงานแก๊กสุดฮาในเบบี้หนูจ๋ายุคแรกๆ“
ไม่เคยอ่านการ์ตูนไทยมาก่อนเลย เมื่อก่อนคนมักมองว่าการ์ตูนไร้สาระ แม้แต่ผมเองก็ยังไม่เห็นว่าจะเป็นอาชีพอะไรขึ้นมาได้ จนได้มาเห็นหนูจ๋า และเจอกับอาจุ๋มจิ๋ม จากนั้นมาก็ติดเลย ถึงขนาดตัดหนังสือพิมพ์มาเก็บไว้ ศึกษาลายเส้นของแก ยกให้เป็นครูคนแรกที่สอนเราเลยก็ได้ จากนั้นว่าความฝันของผมที่ตั้งเป้าไว้ก็คืออยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูน”ต่ายเรียนไปด้วย เขียนการ์ตูนไปด้วย จากการ์ตูนเล่มละบาทมาจนถึงการ์ตูนตลก เมื่อเรียนจบโลดแล่นอยู่ในวงการโฆษณา เขาก็ได้มีโอกาสได้ส่งผลงานเขาไปให้พิจารณากับบก.วิธิต อุตสาหจิต คนดังแห่งขายหัวเราะมหาสนุก ปรากฏว่าได้ตีพิมพ์และแจ้งเกิดในตอนนั้นเอง
“
ตอนนั้นทำงานโฆษณาอยู่ แต่ใจเรารู้สึกว่าชอบเขียนการ์ตูนมากกว่า พอดี บก.วิธิต อยากได้ผู้ช่วยมาทำงานที่สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ผมก็ตัดสินใจออกมาเขียนการ์ตูนเป็นงานประจำ” ต่าย ขายหัวเราะ ในวัย 50 ยิ้มเขินๆ“
ผมมองว่าการเขียนการ์ตูนก็เหมือนกับการทำโฆษณาขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ต้องทันสมัย มีอิมแพกต์กระทบใจคน อีกทั้งการนำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองผ่านการ์ตูนตลก ก็สามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงนั้นๆ ได้นะ” นี่คือบางทัศนะที่สั่งสมมาจากการทำงานเขียนการ์ตูนมายาวนานคนไทยรู้จักคุ้นเคยผลงานของต่าย ขายหัวเราะ ทั้งการ์ตูนแก๊กทั่วไป เรื่องสั้นอย่าง
“สองเกลอ” “ไอ้แมลงสาบ” “บอกอทะลุโลก” ก่อนจะแจ้งเกิดกลายเป็นนักเขียนที่มีคนรู้จักไปทั้งเมืองจากเรื่อง “ไอ้ตัวเล็ก” ที่มีตัวละครเอก ปังปอนด์ และนินจา เบบี๋จอมซน จนถูกซื้อนำไปทำเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในเวลาต่อมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่นักเขียนคนนี้บอกว่าภูมิใจที่สุดในชีวิต“
ผมเชื่อว่าการวาดการ์ตูนมันอยู่ในชีวิตเรา เรียนรู้เอง ฝึกเอง ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ตลก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมอง ทุกเรื่องมีความฮาของมันอยู่ แค่เราพลิกมันกลับก็กลายเป็นเรื่องสนุกได้”แม้จะมีนักเขียนการ์ตูนรุ่นหลังเดินเท้าตบแถวเข้าฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ แต่นายภักดีคนนี้ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองดีพอขนาดจะเป็นไอดอลของใครได้ แต่เขาก็ฝากขอบคุณ แล้วก็บอกว่ารู้สึกดีมากที่ได้สร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้อื่น
หนังสือ
“All About ต่าย ขายหัวเราะ” จะทำให้ทุกคนได้รู้ทุกซอกทุกมุมของนักเขียนการ์ตูนคนนี้ รวบรวมเรื่องราวประวัติชีวิตและผลงานออกมาในรูปแบบการ์ตูน อ่านง่าย สนุก และได้สาระ นอกจากนี้ยังมีมุมที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แฟนๆ ที่ได้อ่านคงหลงรักต่าย ขายหัวเราะ มากขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องเวอร์นักทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนการ์ตูนและฉลอง 30 ปีแห่งความขำ กับประสบการณ์ของความฮา ชีวิตมหาสนุกที่ไม่เคยหมดของภักดี แสนทวีสุข
“
อยากจะให้การ์ตูนของเราเป็นอย่างวอลท์ ดิสนีย์ ถึงตอนนี้ปังปอนด์เป็นแอนิเมชัน เป็นหนัง กลายเป็นข้าวของเครื่องใช้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นแค่ความฝัน ส่วนปลายยอดสุดของผมคือการไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ หามุมมองใหม่ๆ สร้างแก๊กใหม่ๆ ให้ผลลัพธ์ออกมาสดอยู่เสมอ“
วันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป ผมก็ยังพอใจที่นั่งเงียบๆ เขียนการ์ตูนอยู่แบบนี้แหละ”ถ้อยคำง่ายๆ และจริงใจที่ต่าย ขายหัวเราะ อยากจะบอกแฟนๆ อีกสักครั้งให้มั่นใจว่าจะไม่มีวันหายไปไหนแน่นอน


