posttoday

30 ปีแห่งความขำ ต่าย ขายหัวเราะ

07 เมษายน 2553

.....อินทรชัย พาณิชกุล

คงไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืดอะไรกันอีกแล้ว กับชื่อเสียงเรียงนามของนักเขียนการ์ตูนระดับตำนานคนหนึ่งของเมืองไทย

ต่าย ขายหัวเราะ

เพราะตลอด 30 ปีบนเส้นทางของความขำ ผ่านลายเส้นจำง่ายอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมด้วยมุขตลกหลากหลายที่ทำให้คนอ่านทุกรุ่นทุกวัยหัวเราะกันไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนกับผลงานการ์ตูนแก๊ก การ์ตูนเรื่องสั้น และอื่นๆ โดยเฉพาะงานมาสเตอร์พีซอย่าง ไอ้ตัวเล็กที่สร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืมมาจนถึงวันนี้

แต่ถึงอย่างนั้น แทบจะนับครั้งได้ที่เราจะได้รู้จักตัวตนจริงของเขา นักเขียนคนนี้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อมาโดยตลอด เขาให้เหตุผลสั้นๆ น้ำเสียงถ่อมตนว่า อายจนครบ 30 ปีทั้งที ต่าย ขายหัวเราะ จึงพร้อมแล้วที่จะมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตอย่างหมดเปลือก ในฐานะนักเขียนการ์ตูนขวัญใจชาวไทย ผ่านหนังสือของตัวเองที่ชื่อว่า “All About ต่าย ขายหัวเราะสำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์

ผมเริ่มเขียนการ์ตูนตั้งแต่จำความได้ ใช้ฝาบ้านนี่แหละเขียนการ์ตูนล้อพ่อตัวเอง แล้วเรียกพี่น้องมาดูมาแอบหัวเราะกันภักดี แสนทวีสุข หรือที่คนทั้งประเทศรู้จักในชื่อ ต่าย ขายหัวเราะปัดฝุ่นความทรงจำเก่าๆ แล้วยกขึ้นมาเล่าอีกครั้ง

จากนั้น ต่ายบอกว่าเคยทำหนังสือการ์ตูนขำๆ ทำมือมาให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง ฝึกหัดวาดรูปทุกวันจนฝีมือจัดจ้านขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งในตอนที่เข้าสู่วัยเด็กหนุ่ม เขาก็ได้พบกับฮีโร่ที่จะเป็นพระเอกในดวงใจของเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือ จุ๋มจิ๋มนักเขียนการ์ตูนอาวุโสเจ้าของผลงานแก๊กสุดฮาในเบบี้หนูจ๋ายุคแรกๆ

ไม่เคยอ่านการ์ตูนไทยมาก่อนเลย เมื่อก่อนคนมักมองว่าการ์ตูนไร้สาระ แม้แต่ผมเองก็ยังไม่เห็นว่าจะเป็นอาชีพอะไรขึ้นมาได้ จนได้มาเห็นหนูจ๋า และเจอกับอาจุ๋มจิ๋ม จากนั้นมาก็ติดเลย ถึงขนาดตัดหนังสือพิมพ์มาเก็บไว้ ศึกษาลายเส้นของแก ยกให้เป็นครูคนแรกที่สอนเราเลยก็ได้ จากนั้นว่าความฝันของผมที่ตั้งเป้าไว้ก็คืออยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูน

ต่ายเรียนไปด้วย เขียนการ์ตูนไปด้วย จากการ์ตูนเล่มละบาทมาจนถึงการ์ตูนตลก เมื่อเรียนจบโลดแล่นอยู่ในวงการโฆษณา เขาก็ได้มีโอกาสได้ส่งผลงานเขาไปให้พิจารณากับบก.วิธิต อุตสาหจิต คนดังแห่งขายหัวเราะมหาสนุก ปรากฏว่าได้ตีพิมพ์และแจ้งเกิดในตอนนั้นเอง

ตอนนั้นทำงานโฆษณาอยู่ แต่ใจเรารู้สึกว่าชอบเขียนการ์ตูนมากกว่า พอดี บก.วิธิต อยากได้ผู้ช่วยมาทำงานที่สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ผมก็ตัดสินใจออกมาเขียนการ์ตูนเป็นงานประจำต่าย ขายหัวเราะ ในวัย 50 ยิ้มเขินๆ

ผมมองว่าการเขียนการ์ตูนก็เหมือนกับการทำโฆษณาขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ต้องทันสมัย มีอิมแพกต์กระทบใจคน อีกทั้งการนำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองผ่านการ์ตูนตลก ก็สามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงนั้นๆ ได้นะนี่คือบางทัศนะที่สั่งสมมาจากการทำงานเขียนการ์ตูนมายาวนาน

คนไทยรู้จักคุ้นเคยผลงานของต่าย ขายหัวเราะ ทั้งการ์ตูนแก๊กทั่วไป เรื่องสั้นอย่าง สองเกลอ” “ไอ้แมลงสาบ” “บอกอทะลุโลกก่อนจะแจ้งเกิดกลายเป็นนักเขียนที่มีคนรู้จักไปทั้งเมืองจากเรื่อง ไอ้ตัวเล็กที่มีตัวละครเอก ปังปอนด์ และนินจา เบบี๋จอมซน จนถูกซื้อนำไปทำเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในเวลาต่อมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่นักเขียนคนนี้บอกว่าภูมิใจที่สุดในชีวิต

ผมเชื่อว่าการวาดการ์ตูนมันอยู่ในชีวิตเรา เรียนรู้เอง ฝึกเอง ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ตลก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมอง ทุกเรื่องมีความฮาของมันอยู่ แค่เราพลิกมันกลับก็กลายเป็นเรื่องสนุกได้

แม้จะมีนักเขียนการ์ตูนรุ่นหลังเดินเท้าตบแถวเข้าฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ แต่นายภักดีคนนี้ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองดีพอขนาดจะเป็นไอดอลของใครได้ แต่เขาก็ฝากขอบคุณ แล้วก็บอกว่ารู้สึกดีมากที่ได้สร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้อื่น

หนังสือ “All About ต่าย ขายหัวเราะจะทำให้ทุกคนได้รู้ทุกซอกทุกมุมของนักเขียนการ์ตูนคนนี้ รวบรวมเรื่องราวประวัติชีวิตและผลงานออกมาในรูปแบบการ์ตูน อ่านง่าย สนุก และได้สาระ นอกจากนี้ยังมีมุมที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แฟนๆ ที่ได้อ่านคงหลงรักต่าย ขายหัวเราะ มากขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องเวอร์นัก

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนการ์ตูนและฉลอง 30 ปีแห่งความขำ กับประสบการณ์ของความฮา ชีวิตมหาสนุกที่ไม่เคยหมดของภักดี แสนทวีสุข

อยากจะให้การ์ตูนของเราเป็นอย่างวอลท์ ดิสนีย์ ถึงตอนนี้ปังปอนด์เป็นแอนิเมชัน เป็นหนัง กลายเป็นข้าวของเครื่องใช้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นแค่ความฝัน ส่วนปลายยอดสุดของผมคือการไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ หามุมมองใหม่ๆ สร้างแก๊กใหม่ๆ ให้ผลลัพธ์ออกมาสดอยู่เสมอ

วันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป ผมก็ยังพอใจที่นั่งเงียบๆ เขียนการ์ตูนอยู่แบบนี้แหละ

ถ้อยคำง่ายๆ และจริงใจที่ต่าย ขายหัวเราะ อยากจะบอกแฟนๆ อีกสักครั้งให้มั่นใจว่าจะไม่มีวันหายไปไหนแน่นอน

ข่าวล่าสุด

“สีหศักดิ์” เตรียมประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่มาเลเซีย ถกปมกัมพูชา 22 ธ.ค.นี้