‘บี-บอย’ เต้นเปลี่ยนชีวิต...ของ โจ้ & เบิร์ด
ใครหลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า “บีบอย” บ้างไม่มากก็น้อย หรืออาจจะเห็นการเต้นบีบอยบ้างตามสถานที่ต่างๆ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจที่มาที่ไปของการเต้นบีบอยมากนัก
ใครหลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า “บี-บอย” บ้างไม่มากก็น้อย หรืออาจจะเห็นการเต้นบีบอยบ้างตามสถานที่ต่างๆ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจที่มาที่ไปของการเต้นบีบอยมากนัก
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
ใครหลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า “บี-บอย” บ้างไม่มากก็น้อย หรืออาจจะเห็นการเต้นบีบอยบ้างตามสถานที่ต่างๆ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจที่มาที่ไปของการเต้นบีบอยมากนัก
บี-บอย คืออะไร? บี-บอย คือคนที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมฮิปฮอปของกลุ่มวัยรุ่นคนดำและละตินอเมริกา ในเซาท์บรองซ์ ซึ่งเต้นทั้งในแนวเพลงฮิปฮอป ฟังก์ และแนวเพลงอื่นๆ ที่มักเป็นดนตรีรีมิกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเต้นเบรกแดนซ์ ที่มี 4 องค์ประกอบพื้นฐาน คือ 1 ท็อปร็อก องค์ประกอบที่ 2 คือ ดาวน์ร็อก หรือฟุตเวิร์ก องค์ประกอบที่ 3 คือ ฟรีซ และองค์ประกอบสุดท้าย คือ พาวเวอร์
บ่ายวันอังคารวันหนึ่ง ผมมีนัดกับสองหนุ่มนักเต้น “บี-บอย” ที่อยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน 7-10 ปี และทั้งคู่ก็มีรางวัลชนะเลิศระดับประเทศอย่าง “Soda Singha Battle of the Year Thailand” เป็นตัวการันตีถึงฝีไม้ลายมือ เขาคือ “โจ้-คีรีรัฐ งานดี” อายุ 19 ปี เรียนอยู่ปี 1 คณะคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แอนด์ มัลติมีเดีย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคภาษาอังกฤษ เป็นนักเต้นบีบอยในทีม “99 flava” และ “เบิร์ด-พงษ์ศักดิ์ บุญถนอม” อายุ 25 ปี เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะวิทยาศาสตร์ เป็นนักเต้นบีบอยในทีม “Beat Heroes”
สำหรับจุดเริ่มต้นของการเป็นนักเต้นบี-บอย คีรีรัฐ เริ่มต้นจากเห็นเพื่อนเต้นแล้วเกิดคำถามว่า นี่คืออะไร ทำไมช่างน่าสนใจอย่างนี้
“ตอน ม.1 ผมเห็นเพื่อนเต้นแล้วตกใจมากว่ามันคืออะไร น่าสนใจดี พอเลิกเรียนและกลับไปถึงบ้านรีบไปค้นหาคำว่าบีบอยในกูเกิลใหญ่เลยว่ามันคืออะไร มีโรงเรียนสอนเต้นบีบอยมั้ย สุดท้ายก็หาเจอ เป็นโรงเรียนไม่ใหญ่มาก ชื่อ สตรีท บอย คนสอนชื่อพี่ติ๊ก ซึ่งปัจจุบันผมก็อยู่ทีมเดียวกับเขา นั่นคือ ทีม 99 flava”
ในส่วนของ พงษ์ศักดิ์ เขาเริ่มต้นด้วยการดูมิวสิกวิดีโอเพลงที่มีการเต้นบี-บอยอยู่ในนั้น ทางช่องเอ็มทีวีแล้วเกิดความสนใจจนฝึกเต้นตาม
“ในเอ็มวีเพลง ผมเห็นเขาทำท่าประหลาดๆ ก็ชอบ เลยฝึกตาม จนมีพี่อ้นที่เป็นหัวหน้าทีม Beat Heroes เขายกทีมมาซ้อมแถวบ้าน พอเราเห็น เราก็เลยขอเข้าไปเรียนเต้นกับเขาด้วย”
เมื่อทั้งคู่ได้เจอเพื่อนที่ชื่นชอบในการเต้นบีบอยเหมือนกัน เขาทั้งคู่จึงใช้เวลาว่างจากการเรียนทุ่มเทเพื่อการซ้อมบีบอยอย่างตั้งตกตั้งใจ
“ตอนเรียนมัธยม พักทานข้าว ผมจะรีบกิน และรีบไปซ้อม หลังเลิกเรียนผมก็แบกหมวกกันน็อกไปซ้อม” คีรีรัฐ ย้อนทวนภาพสมัยที่เขายังเป็นเด็กนักเรียนขาสั้น ซึ่งไม่แตกต่างจาก พงษ์ศักดิ์ ที่เขาบอกว่าชีวิตในช่วงนั้นมีแค่เรียนกับเต้น
“ผมบอกได้เลยว่าตอนนั้นชีวิตมีแค่เรียนกับเต้นจริงๆ เต้นเสร็จก็นอน ตื่นเช้าไปเรียน แล้วก็ซ้อม เวลาว่างก็ให้กับบีบอยอย่างเดียวเลย”
แต่ถึงแม้เขาทั้งคู่จะเอาจริงเอาจังกับการเต้นบี-บอย แต่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำของผู้ปกครอง ซึ่งเขาทั้งคู่บอกว่า “เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็น เพื่อให้เขายอมรับ”
“ช่วงแรกๆ ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เราทำ เขาจะคอยถามว่าออกจากบ้านไปทำอะไร ไปซ้อมทำไม กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แต่พอเรามุ่งมั่นในสิ่งที่เราทำ จนไปประกวดแล้วได้แชมป์ ผู้ใหญ่เลยเข้าใจและยอมรับ”
พงษ์ศักดิ์ เองก็ไม่ต่างจากคีรีรัฐ เขาบอกว่า นอกจากทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ เรายังต้องถ่ายรูปในขณะที่ซ้อม หรือทุกโมเมนต์ของชีวิตนักเต้นบี-บอยให้ผู้ใหญ่เห็นเสมอๆ
“สังคมไทยไม่ใช่สังคมตะวันตก เขาต้องคิดว่าเราไปทำไม่ดีแน่ๆ ไปกินเหล้าหรือเล่นยาแน่ๆ แต่พอเราทำให้เขาเห็นผลงานของเรา ประกวดแล้วได้เงิน เขาก็เข้าใจ ผมเชื่อว่าทุกคนมีปัญหาเรื่องตรงนี้ แต่ถ้าเราซ้อมแล้วมีผลงาน หรือแค่ถ่ายรูปให้เขาเห็นว่าเราซ้อมจริงๆ เขาก็จะเข้าใจและยอมรับเราได้ในที่สุด”
สำหรับสถานที่ซ้อม คีรีรัฐจะซ้อมกับเพื่อนๆ ในทีมที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 87 ซึ่งมีฟิตเนสที่คนไม่ค่อยเข้ามาเล่น ส่วนพงษ์ศักดิ์กับเพื่อนๆ ในทีมจะฝึกซ้อมกันที่ข้างโลตัส พระราม 4
“สำหรับการซ้อมก็แล้วแต่คนเลย ไม่มีใครมากำหนดให้วุ่นวาย แต่ถ้าซ้อมเพื่อแข่ง ก็จะมีการกำหนดเวลา กำหนดตารางการซ้อม เราก็จะซ้อมตามตารางที่วางเอาไว้” คีรีรัฐ กล่าว
“ส่วนใหญ่นักเต้นบีบอยจะซ้อมกันเต็มที่ประมาณสามชั่วโมง แต่ก็เป็นการซ้อมแบบสบายๆ สลับกันซ้อม สลับกันพัก ถ้ามีเวลาว่างเราก็ไป ถ้าติดเรียนหรือติดงานเราก็โทรบอกเพื่อน” พงษ์ศักดิ์ กล่าวเสริม
นับจากวันเริ่มต้นเข้าสู่วงการบี-บอย คีรีรัฐใช้เวลา 7 ปีแล้ว ในขณะที่พงษ์ศักดิ์ ใช้เวลาถึง 10 ปีเต็ม ทั้งคู่เดินทางมาไกลจนได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ ได้เป็นแชมป์ และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันยังต่างประเทศ ซึ่งทั้งคู่บอกว่านี่คือโอกาสที่ดีและเป็นสิ่งผลักดันที่ทำให้เขาทั้งคู่มุ่งมั่นก้าวไปบนเส้นทางนี้ให้ไกลที่สุด
“ถ้าถามผมว่าเสน่ห์ของการเต้นบี-บอยอยู่ที่ตรงไหน เสน่ห์ของมันคือ การเต้นที่ต้องเต้นมาจากข้างใน มาจากอารมณ์ความรู้สึกที่สนุกไปกับมัน ไม่ใช่แต่เต้นท่าแปลกๆ หรือท่ายากๆ” คีรีรัฐ บอกเล่าให้เราเข้าใจในหัวใจสำคัญของการเต้นบีบอย
“สำหรับผม การเต้นบี-บอยคืองานศิลปะที่สื่อผ่านทางร่างกายและการเต้น มันเป็นงานสร้างสรรค์ท่าทางที่สื่อออกไปโดยผสมกับความรู้สึก มันลุ่มลึก มันมีปรัชญาในตัวมันเอง มันมีนิยามของมันที่เราเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ อีกทั้งยังสอนชีวิตเรา ทำให้เรามีแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีเป้าหมาย รู้จักแบ่งเวลา แล้วเราก็จะไม่ไปนอกลู่นอกทางโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้มันบังคับเลนชีวิตให้เรา เราก็แค่เดินตามเส้นทางนี้ บี-บอยเหมือนเข้ามาจัดการชีวิตเรา” พงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป
ก่อนจาก ทั้งคู่ก็ได้ฝากข้อคิดสำหรับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่หรือคนที่สนใจการเต้นบีบอยไว้ว่า ถ้าชอบ ก็ให้ลงมือทำ ทำแล้วต้องทำจริง เรียนรู้หลักการที่ถูกต้องจริงๆ และที่สำคัญที่สุด อย่าทำเพียงเพื่อต้องการเป็นแชมป์ แต่จงทำเพราะรักและสนุกที่จะทำ เท่านั้นพอ


