ย่ำถนนแบรสต์ ยลโรงภาษีเก่า เสน่ห์ล้ำเจริญกรุง 36

หนีห่างจากความวุ่นวายรีบเร่ง แล้วเข้าสู่โหมดอารมณ์ติสต์ (นิดๆ) ยามสายของวันหยุดแสนสบาย

โดย...วิชช์ญะ ยุติ

หนีห่างจากความวุ่นวายรีบเร่ง แล้วเข้าสู่โหมดอารมณ์ติสต์ (นิดๆ) ยามสายของวันหยุดแสนสบาย แทนที่จะแวะห้างหรู เดินตากแอร์ ช็อปปิ้งจนกระเป๋าแห้ง เรากลับพาหัวใจลอยละล่องมาสิงสถิต ซอยเจริญกรุง 36 เพื่อสัมผัสกลิ่นอายความใหม่และความเก่า ซึ่งอบอวลไปทั่วทุกอณูอยู่ ณ ซอยประวัติศาสตร์แห่งนี้

แบรสต์…ถนนสายมิตรไมตรี

ต้นตำรับถนนแบรสต์ หรือ รู เดอ แบรสต์ (Rue De Brest) อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นถนนเก่าแก่ในหน้าประวัติศาสตร์ เปรียบเสมือนเส้นเลือดในการสัญจรของชาวเมืองแบรสต์ แคว้นเบรอตาญ

ทว่า ครานี้ถนนแบรสต์ได้ถูกยกมาไว้ในซอยเจริญกรุง 36 โดยสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ที่ถือฤกษ์งามเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เจิมเปิดป้ายถนน เพื่อกระชับความสัมพันธ์สองประเทศให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

สำคัญกว่านั้น การเปิดถนนแบรสต์ในประเทศไทย ยังเป็นการย้อนรำลึกหา รู เดอ สยาม (Rue De Siam) หรือถนนสยาม ที่ได้รับการขนานนามตั้งแต่ พ.ศ. 2229 คราวที่คณะราชทูตสยามเดินทางถึงฝรั่งเศส เพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยคณะได้ขึ้นฝั่งที่เมืองแบรสต์ ผ่านถนนแซงต์ปิแอร์ ซึ่งต่อมาชาวเมืองจึงเรียกชื่ออย่างเป็นทางการ ถนนสยาม จวบจนปัจจุบัน

วันงานได้รับเกียรติจากนายกเทศมนตรีเมืองแบรสต์ “ฟรองซัวส์ กุยยองดร์” ตัดริบบิ้นร่วมกับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย “ตีแยรี วีโต” ทั้งยังเนรมิตถนนสายมิตรไมตรี ด้วยการแสดงด้านวัฒนธรรม เต้นระบำพื้นเมืองแบบฉบับชาวเมืองแบรสต์ ขาดไม่ได้ เมนูรสเลิศส่งตรงจากแคว้นเบรอตาญ อิ่มท้องอิ่มตาอิ่มใจกันถ้วนหน้า

แบรสต์ที่ประเทศแม่มีอายุมายาวนาน มีเสน่ห์น่าตื่นตา ในฐานะถนนสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่องร้านรวงนั้นเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ว่ากันว่าความงดงามของงานสถาปัตยกรรมที่นี่โดดเด่นมากๆ ถอดแบบมาจากงานสถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ 16 อันมีรายละเอียดและลูกเล่นตรงที่สีสัน ส่วนโค้งเว้า ระเบียง ประตู ตลอดจนสีสันสะดุดตา

เช่นเดียวกัน แบรสต์ในซอยเจริงกรุง 36 ก็มีงานสถาปัตยกรรมให้ได้ดูชม ทักทายด้วยความเป็นความเก่าและใหม่ ผสมผสานกันแบบมีความขัดแย้งในตัว แต่ก็นับว่าน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย ยิ่งเฉพาะชุมชนที่อยู่คนละฟากถนน บ้านเก่าหลังใหญ่ อาคารพาณิชย์ สถานที่ราชการสุดโอ่อ่า ศาสนสถาน ร้านอาหารเก๋ๆ และช็อปปิ้งเพลสไฮเอนด์

ทั้งหมดมีให้สัมผัสกันอย่างเต็มตาที่นี่ ถนนสายมิตรไมตรี

โรงภาษีเก่า... กรุ่นกลิ่นความงามแบบเก่าๆ

ยิ่งเก่า ก็ยิ่งเก๋า ยิ่งเก่า ก็ยิ่งดูขลัง ที่นี่แหละ โรงภาษีเก่า

ก้าวแรกที่สัมผัสบริเวณโรงภาษีเก่า รู้สึกได้ถึงความงามสง่าของงานสถาปัตยกรรม ขนแขนพากันลุกซู่โดยมิได้นัดหมาย ตื่นเต้นและตื่นตาจริงๆ เพราะไม่เคยมาเยือน เคยแต่ได้ยินคนเขาว่าสวยยังงั้น ขลังยังงี้ พอมาสัมผัสด้วยตาและให้หัวใจย่ำไปอย่างเนิบช้า ก็แทบไม่ผิดหวังกับเสียงร่ำลือ

เสียอยู่อย่างคือโรงภาษีเก่าวันนี้แลดูทรุดโทรม ตามกาลเวลาอายุ แถมบางส่วนบางมุมก็ดูไม่งามตาสักเท่าไหร่ ด้วยมีเสื้อผ้า หมอนมุ้ง และอื่นๆ อีกมากของพี่ๆ ชาวตำรวจดับเพลิงบางรัก ที่เข้าผู้อยู่อาศัย ตากแขวนริมหน้าต่างอย่างไม่เป็นระเบียบ ขัดตาและขัดแย้งเกินจะบรรยาย

หากมีเวลาจมจ่อมกับงานสถาปัตยกรรม เชื่อว่าคุณจะอินกับทุกๆ รายละเอียดที่ปรากฏ ตั้งแต่หลังคาปั้นหยา ซุ้มหน้าต่าง ช่องประตู ลวดลายกระเบื้องจีนและกระเบื้องกาบกล้วย ขอบระเบียงที่เป็นลูกมะหวดปูนปั้น จะเป็นเสาอิง หรือเสาหลอก รวมทั้งหน้าบันจั่วที่ติดตั้งนาฬิกาทรงกลมขนาดบิ๊ก และเหนือหน้าบันขึ้นไป ก็คือปูนปั้นรูปพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ในรัชกาลที่ 5 ทุกสิ่งอย่างล้วนน่าศึกษา

สำหรับโรงภาษีเก่านั้น เรียกอีกชื่อว่า ศุลกสถาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2431 ใช้เป็นสถานที่จัดเก็บภาษีสินค้าขาเข้า หรือภาษีร้อยชักสาม ออกแบบโดยนายช่างชาวอิตาเลียน “โยคิม กราซี”

ตัวอาคารประกอบด้วยอาคารที่ทำการ 3 หลังรูปตัวไอ หันหน้าออกทางทิศตะวันตกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา อาคารหลังกลางมี 3 ชั้น ขณะที่ที่เหลือเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ซ้ายขวา สามารถเชื่อมต่อกับอาคารหลังกลางด้วยทางเดินไม้ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง

เรามีโอกาสเดินเข้าไปชั้นล่างของอาคารหลังกลาง เจอจังๆ กับประตูทางเข้าขนาดใหญ่ โถงห้องที่ดูอู้ฟู่ สมัยนั้นคงใช้ประโยชน์อะไรได้คุ้มค่า แต่สมัยนี้ก็ปล่อยโล่งน่าเสียดาย สิ่งที่สะดุดตาเป็นไหนๆ คือบันไดหลักของอาคาร ราวบันไดสวยมาก ยังคงสภาพดี สีเข้มขรึมน่าเกรงขาม ส่วนชั้นบนเราไม่กล้าถือวิสาสะเดินขึ้นไป ด้วยเป็นพื้นที่สงวนลิขสิทธิ์เฉพาะเจ้าหน้าที่และครอบครัวนักผจญเพลิง

ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้ม ที่ได้มายลสถานที่ประวัติศาสตร์ แม้จะมีบางมุมดูทรุดโทรมกว่าความคาดหวัง แต่ที่นี่ก็ให้ความรู้สึกงดงามแบบเก่าๆ ได้ไม่เสื่อมคลาย ก็ไม่แปลกที่หลายคนจะเลือกมาหามุมถ่ายภาพส่งอาจารย์ หรือใช้เป็นโลเกชันสวยๆ ในภาพยนตร์แนวพีเรียด

&<2288;