ใส่ใจอยากให้ตัวเองดูดีแบบ วสินธ์ ศิริรัตน์
ในวัย 36 ปี วสินธ์ ศิริรัตน์ เป็นเจ้าของ “ดีเอ็นเอ คลินิก” ให้บริการร้อยไหมทองคำชะลอวัยระดับพรีเมียม
โดย...วราภรณ์ / ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
ในวัย 36 ปี วสินธ์ ศิริรัตน์ เป็นเจ้าของ “ดีเอ็นเอ คลินิก” ให้บริการร้อยไหมทองคำชะลอวัยระดับพรีเมียม
จากประสบการณ์การทำงานบริหารเงินให้เศรษฐีเพื่อให้เงินงอกเงยที่สุด และจำหน่ายรถลักชัวรีคาร์ ทำให้เขาคุ้นเคยกับผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว คนกลุ่มนี้มองหารางวัลให้กับตัวเอง ประกอบกับธุรกิจด้านความงามที่สหรัฐอเมริกาบูมมาก มีส่วนแบ่งในตลาดความงามถึงหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตลาดเมืองไทยเทรนด์ความงามกำลังมาแรง เพราะผู้หญิงและผู้ชายยุคนี้ห่วงเรื่องความดูดีมีบุคลิกภาพ เวลาออกงานสังคมหรือพบปะเพื่อนฝูงก็จะเกิดความมั่นใจในตัวเอง จึงคิดเปิดคลินิกเป็นแห่งที่ 3 ที่ จ.อุดรธานี หลังจากเปิดแล้ว 2 แห่ง ที่สยามสแควร์ และเอกมัย
“สิ่งที่ทำให้ผมสนใจการร้อยไหมมีที่มาคือ เมื่อผมมีประสบการณ์บริหารงานในหลายๆ ธุรกิจ ซึ่งเป็นการให้บริการระดับลักชัวรีทั้งนั้น รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันพูดว่า คนเราไม่ว่าจะมีหรือไม่มี ต้องดูแลตัวเอง เพราะคนเมื่อถึงจุดหนึ่งโดยเฉพาะผู้หญิงต้องขอสวยไว้ก่อน ส่วนผู้ชายขอมีรถดีๆ และนาฬิกาสวยๆ ใส่สักเรือน เหมือนเป็นรางวัลสำหรับชีวิต เมื่อเขาทำงานประสบความสำเร็จ ณ จุดจุดหนึ่ง
แต่ประชากรส่วนใหญ่ของโลกนี้คือผู้หญิง อย่างไรผู้หญิงดูแลตัวเอง ผู้หญิงเรื่องผิวสวยกับสุขภาพดี เขาใส่ใจเรื่องมีผิวที่สวยก่อน ผมจึงมองว่ามันเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ”
ปัจจุบันตลาดความงามของไทยโตมากขึ้นอยู่ที่หลักหมื่นล้านบาท เขาจึงคิดว่าธุรกิจด้านความงามเติบโตได้อีก ในฐานะจับกลุ่มลูกค้าลักชัวรีมาก่อน เขารู้ดีว่าสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการคือความจริงใจและได้ผล และใช้หลักไม่ทุ่มให้งบโฆษณา แต่ใช้วิธีการตลาดแบบ “ปากต่อปาก”
“การร้อยทองที่เมืองนอกได้รับความนิยมมาก เมื่อนำมาให้บริการที่เมืองไทย จะมีคนมาเช้า กลับบ่าย แต่เสียค่าบริการเป็นแสนถึงแสนห้าต่อคนต่อครั้ง ก็คิดว่าถ้าเราเปิดแล้วใครจะมาหาเรา เพราะคลินิกมีเป็นร้อยแห่งในเมืองไทย
แต่เมื่อเรามีโอกาส ก็คิดต่อว่าทำอย่างไรจะเปิดได้ แล้วประสบความสำเร็จ การทำการตลาดของผมเริ่มจากจุดเล็กๆ คือ ให้คนมาลองใช้บริการดู จากเชิญมาก่อน ผมไม่สร้างลูกค้าจำนวนมากและเปิดเป็นร้อยๆ สาขา แต่ผมคิดทำเล็กๆ เปิด 2 สาขา สยามกับเอกมัย เปิดให้แข็งแรง เดือนแรกๆ ทำอย่างไรให้เราเป็นตัวแรกที่เขาจะมาทำหน้ากับเรา ทั้งเลเซอร์ นวดหน้าทั่วไป หรือใช้บริการร้อยไหมทอง
ช่วงแรกๆ ทำงานเหนื่อยแบบสาหัส หลักง่ายๆ คือ เราต้องเอาความจริงไปพูด วิธีสร้างฐานลูกค้าของผม คือ หากเราคิดว่าคนไหนคือลูกค้าของเรา ต้องให้เขามาลองใช้ด้วยการให้ทำฟรี แทนที่เราจะเอาเงินไปโฆษณา เมื่อเขาทำแล้วดีเขาจะบอกต่อ และเขาจะบอกด้วยใจ วิธีนี้ได้ผล เราเปิดผ่านไป 6 เดือน ไม่มีใครมาทำกับเราเลย พอเดือนที่ 7 มีคนมาหาเรา และทำรายได้วันละ 18 ล้านบาท”
กลุ่มลูกค้าที่ห่วงใยด้านความงาม มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 95% แต่ระยะหลังกลุ่มลูกค้าชายเริ่มมากขึ้นถึง 30% กลุ่มลูกค้าสนใจร้อยทองมีเกือบ 600 คน อายุต่ำสุด 17 ปี มากสุด 86 ปี เมื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม ทำให้ วสินธ์ รู้ว่าแนวโน้มของตลาด คือ ผู้หญิงไทยเรื่องความงามต้องมาเป็นที่หนึ่ง
“คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจะผ่านอะไรมาเยอะ เช่น การทำงานหนัก ดังนั้นการที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วหน้าดูดี ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เขาอยากทำกิจกรรมต่างๆ ออกสังคมแล้วเกิดความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพให้ตัวเองได้ เพื่อนๆ มาทักว่าสาวขึ้น ดูดีขึ้น ผิวดี หน้าดูเด็กลง เมื่อลองถูกทักบ่อยๆ เขาจะรู้สึกดี แต่ถ้าลองโดนทักว่าทำไมวันนี้หน้าหมอง เราจะหมดความมั่นใจไปเกินครึ่งเลย”
เมื่อทำงานเกี่ยวกับความดูดี วสินธ์ ค่อนข้างพิถีพิถันในการใส่ใจดูแลตัวเอง แต่ไม่ถึงขั้นหนุ่มเจ้าสำอาง ชอบลุยทำกิจกรรม เช่น ต่อยมวย เตะฟุตบอล
“ผมค่อนข้างดูแลตัวเอง ใส่ใจเรื่องจะกินอะไร หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรดูแลตัวเอง ผมกินวิตามินรวมทั้งอาหารเสริม เช่น แอนติออกซิแดนต์ที่ส่งผลต่อผิวเปล่งปลั่ง วิตามินบำรุงระบบการทำงานอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย สารสกัดจากองุ่น วิตามินซี บีรวม เพราะผมใช้สมองเยอะ แต่จะไม่เสียเงินไปกับการซื้อผลิตภัณฑ์แพงๆ
เดือนหนึ่งผมทำหน้าไม่เกิน 2 ครั้ง แต่ทุกวันผมอาศัยกินวิตามิน เพราะมันคืออาหารเสริม และผมเลือกกิน อย่างผมใกล้ 40 ปี ผมพยายามกินเนื้อหมูน้อยลง เพราะร่างกายขจัดยาก ผมเลือดกรุ๊ปโอย่อยเนื้อหมูได้ไม่ดี หยุดไปปีหนึ่งส่งผลต่อร่างกาย ไขมันส่วนเกินแทบจะไม่มี ตอนนี้ผมหันไปกินปลาแทน
ตอนผมอายุ 30 กินไม่ระวัง ดึกๆ ก็กิน ชอบกินเครื่องในสัตว์ ปรากฏว่าไขมันบริเวณหน้าท้องมีหนามาก รู้สึกไม่มั่นใจ แต่พอโตขึ้นเห็นรุ่นพี่แม้เขาอายุมากๆ แต่เขายังดูดี เช่น เคลลี่ ธนะพัฒน์ เขาดูเด็กตลอด ผิวก็ดี หุ่นก็เฟิร์ม พอดูว่าคนอื่นทำไมดูดี แล้วเราทำอะไรได้บ้างในสิ่งที่เรามีความสุข”
เรียกว่าหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายไว้ จิตใจก็ผ่องใส หุ่นก็ดูดี เกิดความมั่นใจ เมื่ออายุมากขึ้นจะได้ไม่ลำบากในการดูแลตัวเอง และรับมือกับอาการเจ็บป่วยเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่เป็นภาระผู้อื่น เป็นเรื่องดีที่สุด
ส่วนเรื่องดูดี ผิวสวยเป็นเรื่องรองลงมา “จริงๆ ผมไม่อยากดูดี แต่ผมอยากดูสะอาดสะอ้าน มีผิวพรรณที่ดี ลุคโดยรวมโอเคก็พอ ผมใส่ใจกับการออกกำลังกายมาก มีเทรนเนอร์ส่วนตัว ไปต่อยมวย เตะฟุตบอล ผมอยากมีร่างกายที่ฟิตเฟิร์ม ไม่ถึงขนาดต้องมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่ไม่มีไขมันส่วนเกินก็พอ จากผลการดูแลบุคลิกตัวเองหุ่นผมเฟิร์มกว่าหนุ่มๆ กว่านี้มาก”
ชื่อ วสินธ์ ศิริรัตน์
วัย 36 ปี
ตำแหน่ง : กรรมการผู้จัดการบริษัท ดีเอ็นเอ คลินิกเวชกรรม
ประวัติการศึกษา : 2541 ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี
2542 ศึกษา MBA ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
2544 Transfer หน่วยกิจมาศึกษาต่อด้านการจัดการ ประเทศอังกฤษ และศึกษาจบปริญญาโทเกียรตินิยม สาขาการจัดการ
ชีวิตการทำงาน : 2547 ผู้อำนวยการอาวุโสบริหารงานขาย บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต
2551 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริหารงานขาย บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต พอร์ตลูกค้าเงินฝาก 200 ล้านบาท
อาจารย์รับเชิญพิเศษ ระดับปริญญาโท คณะวิชาบริหารธุรกิจ MBA มหาวิทยาลัยนอร์ท เชียงใหม่
2552ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง Managing Director : DNA Clinic คลินิกที่ทำการร้อยทอง (Gold Thread Lift) แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย
ทำธุรกิจของครอบครัว Mary and I Auto (ในเครือ VS รถสวย) เชียงใหม่ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
KMP Property ดูแลหมู่บ้านในเครือ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ปี 2551–2553
อาจารย์รับเชิญบรรยายพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
คติประจำใจในการทำงาน : ทำดีย่อมได้ดี


