จารุพจน์ ณีศะนันท์ ร่วมคืนออกซิเจนให้ท่าจีน

โดย... วรธาร

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาผักตบชวาได้แพร่ระบาดอย่างรุนแรงในแถบที่ลุ่มภาคกลาง โดยเฉพาะในที่ลุ่มแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเกิดมลภาวะจากการเกษตรกรรม น้ำเสียจากชุมชน และการทำอุตสาหกรรม ตลอดจนน้ำเสียจากบ่อปลาและฟาร์มสุกร ทำให้น้ำมีธาตุอาหารพืชสูง ส่งผลให้ผักตบชวาเติบโตและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และจากการแพร่พันธุ์จำนวนมากของผักตบชวาทำให้น้ำในแม่น้ำขาดออกซิเจน รวมถึงกีดขวางเส้นทางคมนาคมทางน้ำด้วย

สำหรับแม่น้ำท่าจีนช่วงที่ผ่าน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นจุดหนึ่งที่หนาแน่นไปด้วยมวลผักตบชวา ทำให้ “จารุพจน์ ณีศะนันท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันปรุงอาหาร “องุ่น” ต้องผุดโครงการ “องุ่นรักษ์ท่าจีน” ซึ่งเป็นกิจกรรมกำจัดผักตบชวาร่วมกับชุมชนริมแม่น้ำท่าจีน และทาง อ.นครชัยศรี ขึ้นมา เพื่อรักษาและคงทัศนียภาพของแม่น้ำท่าจีนเอาไว้

จารุพจน์ บอกเล่าที่มาของโครงการ ว่า บริษัท น้ำมันพืชไทย เองเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวของชาวนครชัยศรี เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในเขต อ.นครชัยศรี และใช้แม่น้ำท่าจีนเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักในการขนส่งสินค้า เมื่อวันหนึ่งแม่น้ำสายหลักเกิดปัญหาขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่นิ่งนอนใจไม่ได้ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมาโดยร่วมกับชาวบ้านและภาครัฐในเขต อ.นครชัยศรี กำจัดผักตบชวา ซึ่งเป็นตัวการทำให้การจราจรทางน้ำไม่สะดวก และแม่น้ำเกิดเน่าเสียเป็นที่สะสมของเศษขยะ

“โครงการนี้ผมเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 โดยพนักงานของเราร่วมกับชาวบ้านและทาง อ.นครชัยศรี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเราจัดไปเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่โครงการอยู่ ณ บริเวณสะพานรวมเมฆ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แต่ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้พยายามกำจัดผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง เพราะในการขนส่งสินค้าแต่ละครั้งเราได้ใช้เรือขนส่งสินค้าเป็นเรือในการผลักดันผักตบชวาเหล่านี้ออกสู่ทะเลไปด้วย เรียกว่าทุกครั้งที่มีการขนส่งสินค้าของทางบริษัทเราก็ได้กำจัดผักตบชวาไปในตัว” จารุพจน์ กล่าว

จารุพจน์ กล่าวต่อว่า ปัญหาหลักที่พบเจอในขณะนี้ก็คือ มีผักตบชวาติดบริเวณตอม่อสะพานรวมเมฆ อ.นครชัยศรี ส่งผลให้ผักตบชวาจับกันเป็นแพใหญ่และหนาแน่นมาก จนเป็นแหล่งสะสมเศษขยะที่ลอยมาตามน้ำ ทำให้น้ำไหลลงสู่ทะเลไม่สะดวก แม่น้ำขาดออกซิเจน และเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียตามมา

“การที่ผักตบชวาติดมากๆ บริเวณคอสะพานเป็นผลเสียหายมหาศาล สัตว์น้ำไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ รวมถึงอุทกภัยที่ผ่านมาเราไม่สามารถผลักดันน้ำออกสู่ทะเลได้ทันท่วงที เพราะปัญหาของผักตบชวาหนาแน่นจนน้ำไม่สามารถไหลได้ เกิดการเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรเสียหาย ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ในขณะนี้คือตัดผักตบชวาทิ้ง หรือทำให้แพของผักตบชวาเล็กลง แล้วผลักดันด้วยเรือขนส่งสินค้าของบริษัท น้ำมันพืชไทย ให้ลอยออกสู่ทะเล และเมื่อผักตบชวาเจอกับน้ำเค็มก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้และตายไปในที่สุด”

ทั้งนี้ ในส่วนของทาง อ.นครชัยศรี ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนายอำเภอที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านออกมาช่วยกันจำนวนมาก ทั้งช่วยดึงผักตบชวาขึ้นมาจากน้ำ หรือทำให้แพของผักตบชวามีขนาดเล็กลง เพื่อความสะดวกในการผลักลงสู่ทะเลและไม่ติดตอม่อสะพาน

กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชไทย กล่าวต่อว่า ในการกำจัดผักตบชวาแต่ละครั้งด้วยความร่วมแรงของคนงานบริษัทและชาวบ้านสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่หวังมากกว่านั้นคือการให้ความรู้กับชาวบ้านในการดูแลแม่น้ำ เมื่อกำจัดได้ทีละน้อยก็ไม่ควรที่จะสร้างให้เพิ่มขึ้นอีก เช่น การทิ้งขยะ ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ บางบ้านทิ้งทุกอย่างลงแม่น้ำ ทั้งที่นอน หมอน มุ้ง ซึ่งนั่นคือตัวการสำคัญที่ทำให้ผักตบชวาและขยะรวมตัวกันหนาแน่นขึ้น

เขาทิ้งท้ายว่า โครงการรักษ์ท่าจีนนี้มีระยะเวลาในการทำกิจกรรม 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 25551 ธ.ค. 2556 ซึ่งในปี 2556 มีการวางแผนการจัดกิจกรรมไว้แล้ว แต่รูปแบบจะเป็นอย่างไร ช่วงไหน คงต้องขอเวลาสรุปอีกครั้ง แต่มีแน่นอนและต้องทำกิจกรรมนี้กับชาวบ้านริมแม่น้ำท่าจีน ตลอดจนคนในชุมชน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาแม่น้ำได้อย่างยั่งยืนที่สุด และเป็นการคืนออกซิเจนให้กับแม่น้ำด้วย