คุณสมบัติของผู้นำที่ดี
โดย...วรธาร ทัดแก้ว
โดย...วรธาร ทัดแก้ว
องค์กรทั้งหลายไม่ว่าองค์กรของรัฐหรือบริษัทเอกชนจะเจริญก้าวหน้าและมีความยั่งยืนได้ก็ต้องอาศัยบุคลากรในองค์กรเป็นกำลังการขับเคลื่อนนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายคือ ความสำเร็จ โดยเฉพาะผู้นำองค์กรหรือผู้บริหารทุกระดับต้องถือว่ามีบทบาทสำคัญยิ่ง เพราะถ้าองค์กรใดได้ผู้นำที่ดีและมีความสามารถเข้ามาบริหารองค์กรนั้นก็เป็นอันหวังความเจริญก้าวหน้าได้ แต่หากได้ผู้นำไม่ดี บกพร่องด้านคุณธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ย่อมนำพาองค์กรไปสู่ความเสื่อมได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นในสังคมไทย
ผู้นำที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติหรือมีความเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมหลายๆ อย่างอยู่ในตัว โดยคุณธรรมของผู้นำหากยกหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาก็ได้รับการจัดสรรไว้พร้อมสรรพ อยู่ที่การเลือกสรรนำมาใช้ให้เหมาะกับกาลเทศะ บุคคล และสถานการณ์ ดังนี้
ทศพิธราชธรรม 10
บางคนมีความเข้าใจว่า ทศพิธราชธรรม เป็นหลักธรรมหรือคุณธรรมของคนที่เป็นพระราชาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคนทั่วไป ความจริงแล้วทศพิธราชธรรมเป็นหลักธรรมของคนที่เป็นผู้นำต้องมีทั้งหลายและพระราชาก็ทรงเป็นผู้นำคนหนึ่ง
ทศพิธราชธรรม หรือราชธรรม 10 ถ้ามีในผู้ใด ผู้นั้นย่อมเป็นที่รัก เคารพ นับถือ เป็นที่เชิดชูของประชาชน ลูกน้อง และบริวาร มี 10 ประการ ดังนี้
1.ทาน การให้ปัน ผู้นำที่ไม่รู้จักให้ หรือให้ไม่เป็น ไม่เคยยื่นมือให้ความช่วยเหลือลูกน้อง พนักงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา รับลูกเดียว ไม่มีให้ หรือน้ำใจแห้ง ไม่รู้จักให้อภัย ตระหนี่ความรู้ หวงวิชา อย่าได้หวังความยอมรับนับถือจากลูกน้อง
2.ศีล ความประพฤติดี ได้แก่ การสำรวมกาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย สะอาดดีงาม ไม่ประพฤติผิดหรือความเสื่อมเสียทางกาย วาจา
3.ปริจจาคะ การรู้จักเสียสละ เช่น เสียสละประโยชน์ตน เพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ได้
4.อาชชวะ มีใจซื่อตรง ยึดมั่นในสุจริตธรรม ปราศจากอคติทั้งปวง มีความตรงไปตรงมา ไม่โลเลเหลาะแหละ
5.มัททวะ มีอัธยาศัยดีงาม ละมุนละไม อ่อนโยน สุภาพ ไม่กระด้างหยาบคาย
6.ตบะ คอยกำจัดและระวังไม่ให้อกุศลธรรม เช่น โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นในใจ
7.อักโกธะ ระงับหรือขจัดได้ซึ่งความโกรธ ได้แก่ เวลาโกรธต้องรู้จักระงับยับยั้ง ไม่ให้อำนาจความโกรธเข้าครอบงำ อย่าลืมว่าผู้นำเจ้าอารมณ์ไม่มีลูกน้องคนไหนอยากอยู่ด้วย
8.อวิหิงสา ผู้นำที่ดีต้องไม่ใช้อำนาจในการเบียดเบียน รังแก ข่มเหงคนอื่น หรือลูกน้องของตน แต่ต้องใช้อำนาจในทางที่ดีและเป็นธรรมอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ
9.ขันติ มีความอดทนอดกลั้นสูงกว่าลูกน้องหลายเท่า ซึ่งความอดทนอดกลั้นนี้ถือเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้ผู้นำมีความงดงามในตัว
10.อวิโรธนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ความถูกต้อง ไม่เอนเอียงเหมือนไม้หลักปักเลน แต่เป็นเหมือนภูเขาที่แม้จะถูกพายุ ฝน ก็ไม่มีล้ม ไม่เอนเอียง
อคติ 4
อคติ แปลว่า ความลำเอียง นั้นอันตรายมาก เพราะทำลายคนมานักต่อนัก ความน่ากลัวของคนที่มีอคติครอบงำ คือ สามารถทำลายได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะทำลายความถูกต้อง ความเที่ยงธรรม ทำลายวัฒนธรรม ประเพณี บางครั้งก็ทำลายกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย ฯลฯ ซึ่งถ้าผู้นำมีอคติ 4 อย่างนี้ จะมีแต่เสื่อมกับเสีย ไม่มีอะไรดี
1.ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรักใคร่ เช่น ลูกน้องคนโปรดจะผิดยังไงก็ไม่ว่า เห็นสองตาก็ทำเป็นไม่เห็น ส่วนลูกน้องที่ไม่โปรด เวลาผิดนิดผิดหน่อยเป็นเรื่องทันที
2.โทสาคติ ลำเอียงเพราะโกรธ ลองได้โกรธแล้วจะรู้ว่าใจได้เสียสมดุล หนักๆ คือ เสียศูนย์ หรือสูญเสียความเที่ยงธรรม เช่น เกลียดคนนั้น ฝ่ายนั้นก็มักจะมีอคติต่อคนคนนั้น ฝ่ายนั้นตลอด ไม่ว่าจะผิดหรือถูกเห็นเป็นผิดหมด
3.โมหาคติ ลำเอียงเพราะเขลา ไม่น่าเชื่อว่าการทำอะไรโง่ๆ ก็เป็นความลำเอียงได้เหมือนกัน เช่น เชื่ออะไรโง่ๆ แล้วก็ทำอะไรโง่ๆ ตามนั้นจนคนอื่นเดือดร้อน
4.ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว ต้องบอกว่ามีผู้นำหลายคนที่เสียความเที่ยงธรรมไปเพราะความกลัว เช่น ถ้าไม่ทำตามผู้มีอำนาจเหนือกว่าสั่งจะถูกย้าย หรือถูกกลั่นแกล้ง หรือจะไม่ได้รับการสนับสนุนในตำแหน่งที่สูงขึ้น
พรหมวิหาร 4
หลักธรรมนี้จะเป็นสิ่งที่ลูกน้องทั้งหลายใช้เป็นข้อศึกษาพิจารณาผู้นำของเขาว่าเป็นคนอย่างไร ซึ่งถ้าผู้นำของเขามีพรหมวิหารครบถ้วนสมบูรณ์ เขาก็เชื่อว่าภายใต้ร่มเงาที่เย็นของผู้นำคนนั้นๆ จะทำให้ชีวิตของเขามีความสุขไปด้วย มี 4 ประการ
1.เมตตา ความรัก ปรารถนาจะให้ผู้อื่นมีความสุข คือ มีความปรารถนาดีต่อลูกน้องทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ
2.กรุณา คิดช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ เช่น เวลาที่ลูกน้องมีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือก็ให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ไม่เพิกเฉย
3.มุทิตา พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข เช่น ลูกน้องประสบความสำเร็จ ก็ยินดี ภูมิใจด้วย ไม่ริษยา กลัวว่าลูกน้องจะได้ดีกว่าตน
4.อุเบกขา วางตนเป็นกลาง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เมื่อผู้อื่นถึงวิบัติ เช่น เมื่อลูกน้องทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ต้องว่าไปตามถูก ไม่เห็นผิดเป็นถูก หรือเห็นถูกเป็นผิด
นอกจาก ทศพิธราชธรรม 10 อคติ 4 และพรหมวิหาร 4 แล้วยังมีหลักธรรมของผู้นำอื่นๆ เช่น สัปปุริสธรรม 7 ราชสังคหวัตถุ 4 เป็นต้น รวมถึงสติสัมปชัญญะ และหิริโอตตัปปะที่ผู้นำจะขาดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้
ทุกวันนี้ผู้นำที่เก่งนั้นมีเยอะ แต่เก่งแล้วเป็นผู้นำที่ดีนั้นก็หายากไม่เบา


