ทดแทนไม้ด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

สิ่งทั้งหลายในโลกคือธรรมชาติ แวดล้อมรอบตัวเราคือประโยชน์ถ้ารู้จักดู รู้จักใช้ บทความต่อไปนี้คือเรื่องราวของธรรมชาติและสรรพชีวิต ที่เล่าผ่านแผ่นปาร์ติเกิลบอร์ดรีไซเคิล เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของบริษัท โคโค่บอร์ด ที่หากรู้จักมอง รู้จักคิด ก็สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นกำลังใจของคนทำงานเพื่อมอบสิ่งดีๆ ให้แก่โลก

โคโค่บอร์ดคือ...

โคโค่บอร์ด เป็นการรวมกลุ่มบุคคลที่ใส่ใจต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสีเขียวของต้นไม้ให้ยืนหยัดอยู่คู่โลก ด้วยการประกอบธุรกิจไม้อัดจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ได้แก่ ฟางข้าว ขุยใยมะพร้าว หญ้าคา หญ้าแฝก และอื่นๆ นับได้ว่าเป็นการใช้ทรัพยากรที่หลงเหลือหลังการเพาะปลูกอย่างสร้างสรรค์ เต็มศักยภาพ และคุ้มค่าที่สุด

อรพินท์ สินอมรเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคโค่บอร์ด เล่าว่า จุดเริ่มต้นคือแรงบันดาลใจจากมะพร้าวและชาวสวนมะพร้าวที่เกาะห่างไกล ผลกระทบจากราคามะพร้าวที่ตกต่ำอย่างหนักในเวลานั้น ทำให้ชาวสวนมะพร้าวเดือดร้อนอย่างหนัก ปัญหาคือราคา และทางแก้ก็คือการเพิ่มมูลค่ามะพร้าว

 

จากการศึกษาค้นคว้า ทำให้ได้รู้จักกับหน่วยงานกลุ่มงานพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ที่สำคัญได้พบกับ วรธรรม อุ่นจิตติชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างผลักดันโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ไม้สวนป่า : วัสดุทดแทนไม้จากเศษไม้ ปลายไม้เหลือทิ้ง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ที่โรงปฏิบัติการวัสดุทดแทนไม้และกาวติดไม้ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ โครงการแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง นำมาซึ่งการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคโค่บอร์ด ปาร์ติเกิลไม้อัดจากเศษวัสดุ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผลงานการวิจัยของคนไทย ใช้วัตถุดิบหลักในประเทศ ใช้เครื่องจักรที่คนไทยผลิตเอง (มีเพียงกาวอัดไม้ที่ไม่มีส่วนผสมของฟอร์มัลดีไฮด์เท่านั้น ที่ยังต้องนำเข้า)

“ผลิตภัณฑ์ของเรายังประโยชน์กลับสู่รากหญ้า เพิ่มรายได้แก่ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวนจากการขายวัสดุทางการเกษตร เป็นการลดมลพิษทางอากาศ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการเผาทำลายเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ก็สามารถขายเป็นรายได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการแปรรูปต่อไป ที่สำคัญเป็นการลดปัญหาตัดไม้ทำลายป่า ภาวะโลกร้อนที่ลุกลามเป็นปัญหาระดับโลกในปัจจุบัน”อรพินท์ กล่าว

คุณสมบัติและความแตกต่าง

โคโค่บอร์ดมุ่งพัฒนาวิจัยวัสดุทดแทนไม้ เน้นการเพิ่มคุณค่าแก่วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิจัยแผ่นโคโค่บอร์ดจากฟางข้าว (แผ่นไม้อัดฟางข้าว) ที่มีคุณสมบัติที่ดีในด้านต่างๆ ได้แก่ การลามไฟ ทนความชื้นดี ทนปลวก ที่สำคัญคือปราศจากการปล่อยสารก่อมะเร็งฟอร์มัลดีไฮด์ นอกจากนี้ก็ประสบความสำเร็จจากพัฒนาไม้อัดขุยมะพร้าว แกลบ หญ้าแฝก เปลือกถั่ว และดอกทานตะวันด้วย

แผ่นโคโค่บอร์ด ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเทียบเคียงแผ่นปาร์ติเกิลทั่วไป ขณะเดียวกันก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ลวดลายสีสัน มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของวัตถุดิบ สามารถใช้ประโยชน์หลากหลาย เช่น ใช้บุผนัง ฝ้า เพดาน พื้น หรืองานตกแต่งอื่นๆ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุแทนไม้ที่เหนือชั้น กล่าวคือ

1.ปราศจากการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ (NonFormaldehyde) หรือ Super E0 ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีค่าการระเหยของฟอร์มัลดีไฮด์เพียง 0.03 มก./ลิตร ปลอดภัยต่อสุขภาพ

2.ทนความชื้นสูง (Moisture Resistant)

3.กันลามไฟ (Flame Rretardant)

4.ทนต่อการทำลายของปลวก

 

สำหรับขนาดแผ่นไม้ 122x122 ซม. มีความหนาแน่น 0.8g/cm2 ส่วนความหนา มี 7 ขนาด ตั้งแต่ 0.4 มม. 2 ซม. สำหรับการใช้งานปูพื้นขึ้นอยู่กับประเภทพื้น เช่น พื้นไม้ปาร์เกต์ ต้องขัดปาร์เกต์ให้เรียบร้อย ลอกเอาสีเคลือบไม้เดิมออกให้หมด แล้วจึงใช้กาวปูปาร์เกต์ทาด้านบน จากนั้นจึงใช้โคโค่บอร์ดปูทับ แล้วใช้ตะปูเกลียวยึดเพื่อความแน่นหนา กรณีเป็นพื้นใหม่ปูใหม่ทั้งหมด ก็สามารถทำได้ โดยจะมีวิธีปูที่แตกต่างกันไป

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แผ่นวัสดุทดแทนไม้ที่ได้ ใช้งานเหมือนไม้จริง ทั้งการเลื่อย การขัดผิว การตอกตะปู การเข้าเดือย มีคุณสมบัติใกล้เคียงไม้ธรรมชาติทุกประการ และที่เหนือกว่าไม้ คือความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ

คุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน JIS A 5908 ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป และญี่ปุ่น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างระดมทุนเพื่อขยายโรงงานที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยมี ผศ.การ (สาคร) คันธโชติ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ เป็นผู้ออกแบบเครื่องจักรและสายการผลิตทั้งหมด

“อย่างน้อยที่สุด เราคือหนึ่งหน่วย ที่นำวัสดุเศษเหลือมาทำให้เกิดประโยชน์ เพิ่มมูลค่าอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี ต่อยอดองค์ความรู้ โดยพัฒนาเป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยิ่งไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เศษวัสดุทางการเกษตรต่างๆ ก็ยิ่งคือขุมทรัพย์ที่ยากจะประมาณ”ผศ.การ กล่าว

สุดท้ายอรพินท์ เล่าว่า อยากให้แผ่นไม้อัดจากเศษวัสดุธรรมชาติของไทย เป็นเหมือนต้มยำกุ้งที่รู้จักทั่วโลก ความเป็นไปได้มีสูง เนื่องจากความมีเอกลักษณ์และความหลากหลายของวัสดุทางการเกษตร ยิ่งหากมีการสนับสนุนจากภาครัฐ ขยายฐานการผลิตสู่ระดับชุมชน ก็จะยิ่งเพิ่มเสน่ห์และความหลากหลาย ส่วนการควบคุมคุณภาพต้องยกมาตรฐานให้สูงขึ้น และสร้างระบบการตลาดที่ยั่งยืน

สนใจผลิตภัณฑ์โคโค่บอร์ด เข้าไปเยี่ยมชม www.kokoboard.com หรือติดต่อ [email protected] สอบถามโทร. 089-170-0599