อัญมณี...หินสีอันมีค่า
เมื่อกล่าวถึงอัญมณี หรือตั้งคำถามให้กับคนโดยทั่วไปว่า “อัญมณีคืออะไร” คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า และมักคิดไปเองว่า อัญมณี คือเพชร
โดย...สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
เมื่อกล่าวถึงอัญมณี หรือตั้งคำถามให้กับคนโดยทั่วไปว่า “อัญมณีคืออะไร” คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า และมักคิดไปเองว่า อัญมณี คือเพชร หรือทับทิม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อัญมณีมีมากมายหลากหลายชนิด และหากถามว่ามนุษย์เรารู้จักอัญมณีมานานแค่ไหน สิ่งที่จะพอบอกได้ก็คือการขุดค้นพบสร้อยคอที่ทำมาจากกระดูกสัตว์และเปลือกหอยที่ค้นพบจากแหล่งขุดค้นทางประวัติศาสตร์ในถ้ำหลายแห่งในประเทศโมรอกโค และสามารถพิสูจน์อายุได้ว่ามีอายุประมาณ 20,000 ปี การค้นพบสร้อยคอที่ทำจากลูกปัดหินสีต่างๆ ในแหล่งขุดค้นหลายแห่งซึ่งเชื่อกันว่าเป็นชุมชนของชาว สุเมเรียน ชาวอียิปต์ และชาวจีน คาดว่าสร้อยเหล่านั้นมีอายุประมาณ 4,500 ปี
นอกจากนี้ยังมีการบันทึกถึงการนำอัญมณีมาทำเป็นเครื่องประดับ หรือแม้แต่กระทั่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของมุนษย์ หรือบูชาแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5,000 ปีเลยทีเดียวซึ่งการค้นพบสิ่งของต่างๆ เหล่านี้เป็นหลักฐานที่บอกให้เรารู้ว่ามนุษย์เรานั้นรู้จักการนำเอาวัสดุที่ได้จากธรรมชาติมาใช้ประดับร่างกาย โดยผ่านการเรียนรู้ลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วนมาหลายชั่วอายุคน
การใช้อัญมณีของคนในยุคโบราณก็คือการนำเอาหินสีสวยๆ มาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ตามต้องการเพื่อความสวยงาม แต่จุดประสงค์สำคัญที่สุดก็คือ เป็นเครื่องรางในการป้องกันภัย และขจัดสิ่งเลวร้าย ภูตผีปิศาจ ในขณะที่เปลือกหอย งาช้าง หรือกระดูกสัตว์ต่างๆ ก็ยังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ (มณีขจิต, 2548, หน้า 17 – 21)
ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้อัญมณีเป็นที่ต้องการของมนุษยชาติ ก็คือ การมีคุณค่าต่อด้านอารมณ์และความรู้สึก รวมทั้งความเชื่อของมนุษญ์ โดยอัญมณีที่มนุษย์รู้จักเป็นชนิดแรกๆ นั้น ได้แก่ แอเมทิสต์ เขี้ยวหนุมาน อำดัน โกเมน หยก กัลปังหา ไข่มุก มรกต (อภิสมัย พยัคฆาภรณ์ และจิรยุทธ วจนะถาวรชัย, 2550, หน้า 15)
และเมื่อศึกษา และค้นคว้าคำว่า “Gemstone” และคำว่า “อัญมณี” นั้นมีผู้ที่ให้ความหมายเอาไว้หลายมากมาย แต่ในขณะที่ศัพท์บัญญัติของคำว่าอัญมณีในภาษาไทยนั้นให้ความหมายว่า
อัญมณี หรือรัตนชาติ หมายถึง แร่ หินบางชนิด หรืออินทรียวัตถุ ที่ใช้ตกแต่งเป็นเครื่องประดับได้ โดยมีสมบัติสำคัญ 3 ประการ คือ สวยงาม หายาก และคงทน โดยจะเจียระไน (Cutting) หรือแกะสลัก (Carving and Engraving) หรือไม่ก็ได้
แร่ หิน หรืออินทรีย์วัตถุที่ถือเป็นอัญมณี ต้องมีคุณสมบัติ...
ความสวยงาม (Beauty) ขึ้นอยู่กับสายตาของผู้พิจารณา และยากต่อการกำหนดเฉพาะเจาะจงตายตัว เนื่องจากความความสวยงามของแต่ละบุคคลนั้นย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะมองความสวยงามของอัญมณีอยู่ที่ความโปร่งใส ประกายแวววาว หรือบางคนอาจจะพิจารณาที่สี
โดยทั่วไปแล้วความสวยงามของอัญมณีจะเป็นผลมาจากคุณสมบัติหลายๆ อย่างรวมกัน แต่สำหรับกฎความสวยงามของอัญมณีโดยทั่วไปนั้นดูจาก สี ความแวววาว ความโปร่งใส รวมทั้งประกายของอัญมณีเม็ดนั้นๆ
ความหายาก (Rarity) เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาและคุณค่าของอัญมณี ถ้าอัญมณีชนิดใดมีปริมาณจำกัดในตลาดการค้า จะมีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าของอัญมณีนั้นๆ ได้ แต่คนที่ต้องการมีมาก และถ้าอัญมณีชนิดนั้นอาจหาได้ยาก อาจจะเนื่องมาจากขนาดสีที่สวย ความโปร่งใส หรือคุณสมบัติทางแสงที่พิเศษ ก็ทำให้อัญมณีมีคุณค่าและมีราคาสูงตามไปด้วย แต่อันที่จริงแล้วความหายากไม่ได้เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวภายในของอัญมณี แต่เป็นสิ่งที่ขึ้นกับกาลเวลา อารมณ์ ความต้องการ และความนิยมของมนุษย์ในช่วงเวลานั้นๆ รวมทั้งปัจจัยการตลาดที่กระตุ้นให้อัญมณีเม็ดนั้นๆ มีราคาขึ้นมา
ความคงทน (Durability) ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางกายภาพ 3 ประการ คือ ความแข็ง ความเหนียว และความมีเสถียรภาพทางเคมี
สรุปได้ว่า อัญมณี หรือรัตนชาติ (Gem/Gemstone) คือ แร่ หิน รวมทั้งอินทรียวัตถุ/สารอินทรีย์ แล้วสิ่งใดเล่าที่จะบ่งบอกได้ว่าสิ่งนั้นคืออัญมณี เรามีคำอธิบายได้ดังต่อไปนี้
แร่ (Minerals) หมายถึง ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นของแข็งสารเนื้อเดียว มีโครงสร้างของผลึกที่คงที่ และมีส่วนประกอบทางเคมีที่แน่นอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในวงจำกัด
หิน (Rock) พื้นผิวเปลือกโลกประกอบด้วยหินที่เกิดจากการรวมกลุ่มของแร่หลายชนิด เช่น หินแกรนิต ประกอบด้วย ควอตซ์ (Quartz) และ เฟลด์สปาร์ (Feldspar) เป็นสำคัญ และยังมีแร่อื่น ๆ ปนเข้ามาอีกเล็กน้อย ดังนั้นจึงพอจะสรุปความเข้าใจในความแตกต่างของแร่และหินดังที่กล่าวมาข้างต้น
อินทรีย์วัตถุ หรือบางครั้งเราก็เรียกว่าอัญมณีอินทรีย์ (Organic Gems) อัญมณีบางชนิดที่เกิดตามธรรมชาติไม่จำเป็นต้องเกิดจากกระบวนการอนินทรีย์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นหินหรือแร่ แต่อัญมณีเหล่านี้เกิดจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งเกิดจากธรรมชาติมีความสวยงามและคงทนเพียงพอที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประดับร่างกายได้เช่นเดียวกับแร่หรือหิน เช่น อำพัน ไข่มุก ปะการัง เป็นต้น
จากเนื้อหาข้างต้นนั้น ทำให้เราได้ทราบแล้วว่า “อัญมณี” คืออะไร และสิ่งใดที่ทำให้ “หิน” ธรรมดากลายเป็น “อัญมณี” อันมีค่า มีราคาในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามอัญมณีเพียงอย่างเดียวนั้นก็ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ตกแต่งร่างกายได้หากปราศจากโลหะมีค่า และการออกแบบที่สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดเครื่องประดับชิ้นสวยที่เหมาะกับผู้สวมใส่ตามบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลในโอกาสต่างๆ
นอกจากนี้คำถามที่ตามมานั่นก็คือ แล้วหลักเกณฑ์ใดต้องนำมาใช้ในการพิจารณาสำหรับการเลือกซื้ออัญมณี และเกณฑ์การเลือกซื้ออัญมณีแต่ละชนิดนั้นเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรนั้น ผู้เขียนขอสรุปสั้น ดังนี้กฎเกณฑ์การประเมินมูลค่าหรือราคา เพื่อใช้สำหรับการเลือกซื้ออัญมณี โดยส่วนใหญ่จะใช้หลักที่เรียกกันว่า 4C’s ซึ่งพิจารณาจากหลักเกณฑ์ 4 ประการ ได้แก่ สี (Color) ความใสสะอาด (Clarity) การเจียระไน (Cut) และน้ำหนัก (Carat)
การประเมินมูลค่าและราคาตามหลักดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของผู้ซื้อขายด้วย หากผู้ที่ต้องการซื้อเครื่องประดับราคาแพง อัญมณีที่มีราคาสูงมากๆ ขอแนะนำให้ส่งอัญมณีเม็ดนั้นๆ หรือแจ้งให้ผู้ขายนำอัญมณีเม็ดๆ ให้กับสถาบันที่ทำการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อทำการตรวจสอบและระบุคุณสมบัติ เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจในการซื้อขาย ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อและผู้บริโภคที่ต้องการอัญมณีที่มีคุณภาพและสมราคา
สำหรับห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศไทยนั้น มีมากมาย ทั้งที่เป็นห้องปฏิบัติการตรวจสอบจากต่างประเทศ อย่างเช่น GIA, AIGS และปัจจุบันประเทศไทยก็มีห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่ได้รับมาตรฐานสากล สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และอยู่ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผู้ที่สนใจหรือรักในอัญมณีและเครื่องประดับก็สามารถเข้ามาใช้บริการตรวจสอบหรือขอรับคำปรึกษาได้ในวันและเวลาทำการ หรือสามารถเข้าค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (www.git.or.th)
อภิสมัย พยัคฆาภรณ์ และ จิรยุทธ วจนะถาวรชัย. (2550). นานาอัญมณี. กรุงเทพฯ: ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์.
หิรัญญา ตั้งสืบกุล. (2551). เลือกเพชร ดูพลอย. กรุงเทพฯ: บ้านพระอาทิตย์.
มณิขจิต. (2548). เปิดโลกอัญมณี. กรุงเทพฯ: มติชน.
กรมทรัพยากรธรณี. (2543). แร่. (พิมพ์ครั้งที่4). กรุงเทพฯ: ประชาชน.
&<2288;
&<2288;


