posttoday

ดอกไม้ปลายปืน

24 พฤษภาคม 2555

ถ้าไม่นับพิธีเปิด-ปิดที่ทุ่มทุนสร้างอย่างอลังการ ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ ปี 2008

โดย...โจ เกียรติอาจิณ 

ถ้าไม่นับพิธีเปิด-ปิดที่ทุ่มทุนสร้างอย่างอลังการ ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ ปี 2008 จนเป็นที่โจษขานความแซบเวอร์งานด้านโปรดักชัน ดูเหมือนผลงานเรื่องเดียวของผู้กำกับจีนแผ่นดินใหญ่ “จางอี้โหมว” ที่ยังติดตา (แต่เราไม่ติดใจนะจ๊ะ) เหล่าสาวกคนไทย เห็นจะไม่พ้นหนังพีเรียดรวมดาวเอเชีย Curse of the Golden Flower ปี 2006 นี่แหละ

The Flowers of War ที่เพิ่งผ่านตาเราไปหมาดๆ ในโรงสกาลา (ฉายเฉพาะที่นี่ที่เดียวจ้า) จึงถือเป็นหนังเรื่องล่าสุดของเขาและเป็นตัวแทนจีนแผ่นดินใหญ่ชิงออสการ์+ลูกโลกทองคำ โดยก่อนหน้าจางอี้โหมวก็มีหนังอีกตั้ง 2 เรื่องออกฉาย (แต่คนไทยไม่มีโอกาสได้ดูอ่ะ) เรื่องแรกเป็นหนังรักรสเข้ม Under the Hawthorn Tree อีกเรื่องเป็นหนังตลกเสียดสี A Simple Noodle Story

ดัดแปลงมาจากนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ (ประพันธ์โดย เหยียนเกอหลิง เวอร์ชันต้นฉบับชื่อ The Thirteen Flowers of War) พูดถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง ปี 1937 โดยจางอี้โหมวนำมาตีความใหม่ ให้ตัวละคร “ชู” เด็กสาวในโบสถ์คริสต์เป็นคนเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักๆ 3 กลุ่ม หนึ่งคือโสเภณีชาวเมืองนานกิง สองคือชายพเนจรชาวอเมริกัน สามคือเด็กสาวในโบสถ์คริสต์ ซึ่งทั้งหมดคือคนธรรมดาที่เผชิญหน้ากับสงครามและกำลังหนีเอาชีวิตรอดจากด้วยวิถีทางตัวเอง

ดอกไม้ปลายปืน

เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ถูกตีแผ่เป็นหนัง ส่วนใหญ่หนังมักจะจัดวางโทนและบรรยากาศชวนให้รู้สึกสะท้อนใจกับวิธีปฏิบัติของทหารญี่ปุ่นที่มีต่อชาวนานกิง ไม่ก็มุ่งจะนำเสนอฉากแอ็กชันมันระเบิดระเบ้อ หรือบางทีก็เน้นประวัติศาสตร์ขึงขังซีเรียสจนกลายเป็นบทเรียนไปซะงั้น

เมื่อมาอยู่ในหนังจางอี้โหมว การตีความก็เลยค่อนข้างจะเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นความรู้ประวัติศาสตร์มาก่อนก็สามารถเดินทางสู่ประตูสงครามแห่งความโกรธกริ้วได้ไม่ยาก โดยเขายังได้เพิ่มอรรถรสความบันเทิงใส่เข้าไปแบบไม่ยั้ง บีบคั้นหัวใจคนดูด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ พีกขึ้นๆ ก่อนจะถึงขั้นแตกหักและคลี่คลายลง แล้วก็ทิ้งความหม่นเศร้าเคล้าน้ำตาให้เห็น (ฟูมฟายบ้างเล็กน้อย)

แง่มุมหนึ่งที่จางอี้โหมวนำมาร้อยเรียงเรื่องราวแสนโหดร้ายที่นานกิง เพื่อให้เกิดเป็นความซาบซึ้งใจ คือสองตัวละคร โสเภณี “อวี๋โม่” กับ “จอห์น มิลเลอร์” ชาวพเนจร ที่ทั้งคู่มีจุดหมายในชีวิตต่างกัน สิ่งที่เธออยากได้คือหนีจากสมรภูมิรบ สิ่งที่เขาขอก็คือเงินกับเมรัย การปะทะคารมและอารมณ์ของทั้งคู่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าตัวเธอ ตัวเขา และเหล่าผองเพื่อนโสเภณี กระทั่งเด็กสาวในโบสถ์คริสต์ ล้วนได้รับผลกระทบถ้วนหน้าจากคนทั้งคู่

ดอกไม้ปลายปืน

ในความโหดร้ายมักมีแสงสว่างโผล่มาเสมอ หนังทำให้เราเชื่ออย่างนั้น แม้แต่คนที่หัวใจหยาบกระด้าง “จอห์น มิลเลอร์” ก็ยังเปลี่ยนมาเป็นคนทำหน้าที่ปลุกไฟฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างก้าวเดินไป

เช่นกัน หญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นโสเภณีเริงเมือง “อวี๋โม่” ก็พร้อมสละกายเข้าแลกเพียงเพื่อจะช่วยต่อลมหายใจของเด็กสาวให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อกองทัพญี่ปุ่น

เป็นเรื่องราวที่หลากอารมณ์ ขัดแย้ง สับสน โหดเหี้ยม หดหู่ สะเทือนใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลหนังยังฉายภาพความงดงามอย่างกลมกล่อม ยามที่ชีวิตย่ำแย่ที่สุด ยามที่ชีวิตผกผันที่สุด ยามที่ความทุกข์เข้าครอบครองพื้นที่หัวใจจนไม่เหลือไว้ซึ่งความสุขเลย ก็อาจมีเรื่องดีๆ มุมงามๆ เกิดขึ้นให้ได้สัมผัสแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของหนัง คือ การใช้ประโยชน์จากงานถ่ายภาพที่สื่อความคิดของตัวละครได้ดี มุมกล้องที่เป็นเสมือนดวงตาของ “ชู” สอดส่ายไปตามช่องกระจกสีด้านหน้าตัวโบสถ์คริสต์ ทำให้เราได้เห็นอารมณ์ที่ตัวละครรู้สึก รวมทั้งหนังยังสร้างบรรยากาศจากเสียงดนตรีที่มีท่วงทำนองอ้อยอิ่งฟังแล้วเหงาจับใจ ยิ่งเฉพาะในยามความหวาดกลัวกำลังคืบคลานเข้ามาสู่สถานที่ที่เรียกว่าปลอดภัยที่สุด

ดอกไม้ปลายปืน

นักแสดงทุกคนยอดเยี่ยมมากๆ มืออาชีพระดับออสการ์ “คริสเตียน เบล” ก็ทิ้งมาดไอ้มนุษย์ค้างคาวจนแทบจำไม่ได้ หนังแข็งแรงได้ก็เพราะมีเขาคอยขับเคลื่อนในบท “จอห์น มิลเลอร์” หลายฉากผู้ชายแมนๆ อย่างเขาก็ไม่เกรงใจที่จะหลั่งน้ำตาร่ำไห้

ส่วนที่ดีที่สุดของหนังต้องยกให้ “หนีนิ” นักแสดงสาวเลือดใหม่ของวงการหนังจีน เป็นเรื่องแรกที่เธอสอบผ่านบท “อวี๋โม่” ได้ชนิดไม่ต้องติดค้างใจว่าเธอใช้เส้นผู้กำกับ (หรือเปล่า?) ที่สำคัญ น้ำเสียงภาษาอังกฤษชวนฟังกว่านักแสดงรุ่นพี่ (กงลี่+จางจื๋ออี๋) ต้องจับตาให้ดีว่าหมวยสวยเจ้าเสน่ห์รายนี้จะไปไกลแค่ไหน (ชนะนักแสดงหน้าใหม่ เอเชียน ฟิล์ม อวอร์ด ปีนี้)

ขณะที่บท “ชู” ก็ได้นักแสดงใหม่ถอดด้ามอายุ 13 ปีมาถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติ เหมาะเจาะลงตัวกับคาแรกเตอร์ นอกจากนั้นในหนังยังมีนักแสดงตัวประกอบ (ที่ไม่เคยแสดงหนังมาก่อนเลย) อีกหลายคนโดดเด้ง ขโมยซีนแจ้งเกิดได้สบายๆ เชียวละ


 

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"