posttoday

ถอดรหัสสมองจากลายผิว

21 พฤษภาคม 2555

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

ความพยายามที่จะค้นหาตัวเองและศักยภาพ เป็นเรื่องดิ้นรนของมนุษย์มานานนับ ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา หรือ PPAC (Panyatara Potential Analysis Centre) ในกลุ่มบริษัท ซีพี ออลล์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 จากแนวคิดของ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ ที่เห็นความสำคัญของการวิเคราะห์และพัฒนาศักยภาพบุคคล นำนวัตกรรมใหม่ในการศึกษาความเชื่อมโยงของการทำงานของสมองและลายผิวมาใช้ เพื่อค้นหาและพัฒนาศักยภาพ บุคลิกลักษณะความเป็นตัวตนของมนุษย์

เราคือเรา...พัฒนาคนให้ตรงกับตัวตน

ก่อศักดิ์ เล่าว่า ลายผิววิทยา (Dermatoglyphics) เป็นการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ และลายฝ่าเท้า โดยเป็นการศึกษาความเชื่อมโยงของลายผิวกับการทำงานของสมอง ระบบประสาท จิตวิทยา พันธุกรรมศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ โดยมีการศึกษาค้นคว้าทางการแพทย์มานานกว่า 200 ปี ผลวิเคราะห์สามารถวิเคราะห์ความเป็นตัวตน อุปนิสัย แรงจูงใจ และวิธีที่ใช้ในการทำงานได้แม่นยำมากกว่า 90%

ถอดรหัสสมองจากลายผิว

 

ลายผิวของแต่ละบุคคลมีลักษณะเฉพาะมาก รูปแบบลายผิวนิ้วมือแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ลายมัดหวาย มี 65% ของคนทั้งหมด ลายก้นหอย มีประมาณ 30% และลายกระโจม มีประมาณ 5% โดยผลการวิเคราะห์ลายผิวนิ้วมือของทุกคนจะแสดงให้เห็นใน 9 ด้าน คือ 1.ความเป็นตัวตนที่แท้จริง 2.ลักษณะภาพรวมของบุคคล 3.กลุ่มงานที่เหมาะสม 4.ศักยภาพที่ติดตัวมาแต่กำเนิด 5.การสร้างและพัฒนาศักยภาพ 6.สายอาชีพที่เหมาะสม 7.รูปแบบการเรียนรู้ 8.ความไวต่อการรับรู้ 9.การทำงานของสมอง

“สิ่งที่ได้จากโปรแกรมนี้ คือ เป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ตรงกับสิ่งที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ” ก่อศักดิ์ กล่าว

ในบางครั้งที่แวบหนึ่งของความรู้สึก เราถามตัวเองว่าเรามีความสุขกับงานที่ทำอยู่จริงหรือ เราชอบหรือไม่ชอบอะไรกันแน่ ทำยังไงจึงจะค้นพบตัวเอง นี่คือเครื่องมือที่จะบอกเราได้ถึงคำตอบ สำหรับขั้นตอนการวิเคราะห์ศักยภาพ จะทำการสแกนปลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว และพิมพ์ฝ่ามือ ในกรณีที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ก็จะมีการพิมพ์ฝ่าเท้าด้วย จากนั้นจะส่งลายผิวไปสถาบันต้นตำรับที่ไต้หวันเพื่อทำการวิเคราะห์ ผลวิเคราะห์ก็ให้ผู้เข้ารับการวิเคราะห์เก็บเป็นข้อมูลต่อไป

สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ประโยชน์ของการเข้าใจตัวเอง ทำให้เราไม่ยึดติดกับตัวตนมากเกินไป สามารถเปิดใจยอมรับผู้อื่นมากขึ้น และยังวางแผนชีวิตตนเองได้ดี ขณะที่ผู้ปกครองก็จะได้รู้วิธีดูแลบุตรหลาน กระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการได้เหมาะสมถูกต้อง การรู้จักตัวเองทำให้เราไม่ไขว้เขวไปตามสภาพแวดล้อม มีสมาธิอยู่กับทิศทางที่ชัดเจน ทั้งนี้มีการเปรียบเทียบลักษณะบุคลิกภาพและพฤติกรรมหลักของมนุษย์ โดยใช้ลักษณะของนก 5 ชนิดเป็นตัวแทนบุคลิกหลัก บุคลิกภาพรอง และบุคลิกภาพเสริม

ผู้อ่านอยากลองค้นหาตัวเองผ่านแนวโน้มการแสดงออกเชิงพฤติกรรมหรือไม่ ลองวิเคราะห์บุคลิกภาพตัวเอง โดยใช้สัญลักษณ์ของนก 5 ชนิด ดังนี้

1.เหยี่ยว เน้นผลลัพธ์ ควบคุมเป้าหมาย ต้องการความชัดเจนตรงประเด็น

2.ห่านป่า เน้นการทำตามมาตรฐาน มีความระมัดระวัง เคารพกติกา ใส่ใจในคุณภาพและรายละเอียด

3.นกยูง เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ชอบแบ่งปัน ใส่ใจในภาพลักษณ์ มีชีวิตชีวา ชอบให้ความร่วมมือ

4.นกกระจอกเทศ เน้นการทำงานด้วยความอดทน ไม่ชอบบรรยากาศความขัดแย้ง มีความกลมเกลียว อ่อนโยน ให้ความร่วมมือกับทีม

ถอดรหัสสมองจากลายผิว

 

5.นกแก้ว เน้นการปรับตัวและการบูรณาการข้อมูล ชอบการเปลี่ยนแปลง หลีกเลี่ยงการตัดสินใจในทันที

นกทั้ง 5 ชนิด เป็นสัญลักษณ์แนวโน้มในการแสดงออกเชิงพฤติกรรม แบ่งเป็นการกำหนดเป้าหมาย จุดยืน และคุณค่าของตัวตน วิธีการทำงาน การวางแผน การตัดสินใจ และการผูกสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น นกยูง มักเป็นผู้ริเริ่มเข้าไปแนะนำตัวเอง นกกระจอกเทศ จะหลบมุมในงานเลี้ยง หรือนกแก้ว จะสนุกสนาน อารมณ์ดี ฯลฯ คนส่วนใหญ่จะมีนกตัวหลักเป็นบุคลิกหลัก และมีนกตัวรองเป็นบุคลิกรองและบุคลิกเสริม ซึ่งเป็นองค์ประกอบความซับซ้อนทางบุคลิกภาพของมนุษย์ทุกคน

ไม่มีนกตัวไหนเหนือกว่านกตัวไหน เหยี่ยวไม่ได้เหนือกว่าห่าน เช่น หัวหน้างานคนหนึ่งเป็นเหยี่ยวที่มีห่านป่าเป็นตัวรอง วิธีการทำงานของเขาจะมีจุดเด่นของเหยี่ยว คือ มุ่งเป้าหมาย และมีจุดเด่นของห่านที่เน้นคุณภาพขั้นตอนรายละเอียด หัวหน้าแบบนี้ต้องการผลลัพธ์มีคุณภาพ ชอบติดตามความคืบหน้าของงานทุกชิ้นทุกขั้นตอนรายละเอียด มอบหมายงานแรกแล้วมักมีงานที่สองรออยู่ทันที ไม่ว่าลูกน้องจะทำงานแรกเสร็จแล้วหรือไม่ การรับมือกับหัวหน้าประเภทนี้มีทางเดียว คือ ต้องรวดเร็วฉับไว รีบส่งมอบงานให้เสร็จไว้ก่อน

กรณีมีห่านป่าเป็นตัว (บุคลิก) หลัก มีเหยี่ยวเป็นตัว (บุคลิก) รอง คนนี้มุ่งผลลัพธ์ ลงรายละเอียด ติดตามงานเหมือนคนแรก แต่ต่างกันตรงที่จะเน้นเรื่องขั้นตอนเป็นพิเศษ ถ้ามีหัวหน้าแบบนี้ ขอให้คิดและปฏิบัติอย่างมีระบบ หรือในกรณีที่มีนกกระจอกเทศเป็นตัวหลัก ก็จะโดดเด่นเรื่องความอดทน ทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย สนุกสนานกับปาร์ตี้อย่างเงียบๆ ส่วนนกแก้ว จะให้ความสนใจกับสิ่งใหม่ๆ ชอบการเปลี่ยนแปลง สนุกสนานกับทุกสิ่งแวดล้อม เข้าไหนเข้าได้ แม้เพิ่งเข้ากลุ่มเป็นครั้งแรก

สำหรับผู้สนใจศึกษาวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง สอบถามที่ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา โทร. 02-648-2999 หรือ www.ppac.com

ข่าวล่าสุด

จบศึก AGM การบินไทย! ผู้ถือหุ้นไฟเขียวบอร์ด 15 คน คลังคุมเกมเกือบทั้งกระดาน