ลุงเอี่ยมผู้ไม่ประมาท

การถวายเงิน 999,999 บาท ให้กับวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ของ “ลุงเอี่ยม คัมภิรานนท์” ขอทานพิการเงินล้าน ถูกกล่าวขานสรรเสริญกันทั่วบ้านทั่วเมือง และเรื่องนี้ “พระอธิการเขื่อง” กับ “เณรจ่อย” ก็ไม่พลาด...

“โอ้โฮ...โยมเอี่ยมเนี่ยดังใหญ่เลยนะหลวงพ่อ เป็นขอทานร่างกายพิการแขนขาเป็นโปลิโอ เดินไม่ถนัด พูดไม่ชัด หูก็ไม่ค่อยได้ยิน แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นขอทานใจบุญขนาดนี้ ถวายเงินเป็นล้านให้วัด” เณรจ่อย ชวนเจ้าอาวาสคุยเรื่องขอทานใจบุญ

“อย่างนี้เขาเรียก--ดังดี”

“ยังไงครับ”

“ก็โยมเอี่ยมแกคิดดี ทำดี เลยดังดีไง”

“จริงครับ ถือว่าโยมเอี่ยมเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ก่อนนี้ผมเห็นข่าวขอทานผัวเมียทะเลาะกันเพราะจัดสรรเงินไม่ลงตัว ขอทานบางคนได้เงินมาก็เอาไปเที่ยวผับบาร์ บางคนบ้านใหญ่โตกว่าคนทำงานเสียอีก แต่น้อยทั้งน้อยที่จะคิดทำอะไรเหมือนโยมเอี่ยม คือ ได้มาแล้วคิดถึงการให้ต่อไป ทำให้คนที่เคยให้เงินแกรู้สึกอิ่มใจไปด้วย

โยมเอี่ยมทำให้ใครต่อใครที่เคยให้เงิน "ได้บุญสองต่อ" คือ นอกจากได้บุญจากการที่ให้เงินเป็นทานแก่โยมเอี่ยมแล้ว ก็ยังได้บุญจากการอนุโมทนาบุญกับโยมเอี่ยมที่แบ่งเงินส่วนหนึ่งถวายวัด”

“ใช่เณร...โยมเอี่ยมนอกจากทำให้คนที่เคยให้เงินมีความสุขไปด้วยแล้ว เรายังได้เห็นคุณธรรมอย่างหนึ่งของโยมเอี่ยมที่คนสมัยนี้หลายคนไม่มี นั่นคือความกตัญญูกตเวที”

“กรุณาขยายความด้วยครับ”

“เท่าที่ทราบ วัดไร่ขิงไม่อนุญาตให้ขอทานมานั่งขอทานในวัด แต่โยมเอี่ยมเป็นคนเดียวที่ได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาสรูปก่อนที่อนุญาตให้วัดเป็นที่พักกาย โยมเอี่ยมแม้จะถูกเรียกว่าเป็นขอทาน แต่ก็ไม่เคยสร้างภาพลักษณ์เสียหายแก่วัด แกไม่มีภาชนะขอทานเหมือนขอทานทั่วไป แกไม่เคยยกมือขอเงินจากคนที่มาทำบุญที่วัด เพียงแต่คนอื่นเห็นความพิการน่าสงสารของแกจึงให้เงินเท่านั้น ดังนั้นการที่แกถวายเงินให้วัดไร่ขิงจึงถือเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูที่มีต่อเจ้าอาวาสรูปก่อนและต่อวัดไร่ขิง นอกจากนี้ยังมีความกตัญญูต่อผู้มีคุณด้วย เช่น ทุกครั้งที่เดินทางกลับไปบ้านเกิดที่ จ.สระบุรี จะทำบุญให้พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วเสมอ” อธิการเขื่อง อธิบาย

“แกยังเป็นแบบอย่างของการบริหารเงินที่ดีด้วยครับ” เณรจ่อย เสริม

“ยังไงรึ” เจ้าอาวาสถามต่อ

“ก็เงินที่คนให้มานั้น ส่วนหนึ่งแกเก็บไว้โดยการฝากธนาคาร ส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่ากิน และอื่นๆ ซึ่งจะเห็นว่าบางครั้งแกก็เอาเงินไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ อย่างงวด 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ถูกรางวัลได้เงินเป็นล้าน และอีกส่วนคือเอาไว้ทำบุญอย่างที่เราเห็นกันอยู่” เณรจ่อย อธิบาย

“หลายคนทำไม่ได้อย่างแกด้วยนะ บางคนถูกลอตเตอรี่ใช้เงินสบายได้ไม่กี่เดือน ชีวิตก็กลับมาลำบากอีหรอบเดิม จำได้ไหมเมื่อหลายปีมาแล้ว คนถีบสามล้อถูกรางวัลที่ 1 ไม่ทันไรก็มาถีบสามล้อตามเคย” อธิการเขื่อง เสริม

“แล้วหลวงพ่อว่าเกิดชาติหน้าโยมเอี่ยมจะมีร่างกายที่อวัยวะครบ 32 สมบูรณ์ ทุกอย่าง ไม่พิการเหมือนชาตินี้ตามที่แกตั้งความปรารถนาไว้ไหม”

“สัพพะกามะทะทะบุญให้สมบัติอันน่าปรารถนาทุกอย่าง เณรเคยได้ยินไหม หลวงพ่อไม่ได้มีญาณวิเศษอย่างพระพุทธเจ้าที่จะบอกได้ บอกได้เพียงว่า ไม่ว่าจะทำบาปหรือทำบุญย่อมได้รับผลแห่งการกระทำเสมอ ทำบุญย่อมได้รับผลดี ทำบาปก็เป็นอันหวังผลชั่ว”

“แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ โยมเอี่ยมนอกจากมีไม้เท้านำทางแล้ว ก็ยังมีบุญนำทางอีกด้วยนะครับหลวงพ่อ” เณรจ่อย เสริมท้าย