กระดาษเยื่อกล้วยเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าที่คิด
เราคนไทยจะอยู่อย่างไรหากขาดต้นกล้วย เพียงแค่คิดจินตนาการก็ดูเลวร้ายพอๆ
เราคนไทยจะอยู่อย่างไรหากขาดต้นกล้วย เพียงแค่คิดจินตนาการก็ดูเลวร้ายพอๆ ความคิดที่ประเทศไทยจะปลูกข้าวอีกต่อไป ทุกวันนี้ต้นกล้วยกลับไม่ได้รับความนิยมปลูกเป็นพืชสวนครัวไว้รับประทานภายในบ้าน เพราะไม่ใช่ต้นไม้สวยงามที่เหมาะแก่การแต่งสวน ทั้งที่จริงแล้วหากเรารู้จักใช้ความคิดต้นกล้วยก็ยังพอปลูกในพื้นที่บ้านได้อย่างลงตัว เน้นและย้ำว่าต้องรู้จักคิดของที่ดูไร้ค่าจะกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลขึ้นมาทันที อย่างเช่นไอเดียของ ศรัณย์ อยู่คงดี ที่เปลี่ยนกล้วยมาเป็นกระดาษและนำมาสร้างเป็นของตกแต่งบ้านที่เต็มไปด้วยดีไซน์ จนเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
กล้วยเป็นกระดาษได้อย่างไร
โดยปกติแล้วการทำกระดาษจะต้องใช้ต้นไม้หรือพืชที่มีกากใยสูงมาทำเป็นกระดาษ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ถึงจะนำมาทำกระดาษได้ดี ในโลกนี้ยังมีพืชโตเร็วอีกมากมายที่สามารถนำมาทำเป็นกระดาษได้ เพียงแต่กระดาษนั้นอาจจะไม่ใช่กระดาษที่ดีพอสำหรับงานพิมพ์ แต่ดีพอสำหรับการนำมาทำเป็นของประดิษฐ์ เช่น กระดาษสา เป็นต้น และต้นกล้วยเองก็มีคุณสมบัติที่ดีพอสำหรับการนำไปทำกระดาษที่มีคุณสมบัติเหมือนกระดาษสา
การทำกระดาษจากต้นกล้วยนั้นเริ่มจากต้นกล้วยที่มีอายุประมาณ 3 เดือน ตัดเครือกล้วยออก แล้วสับต้นกล้วยเป็นท่อนๆ ขนาดประมาณ 25 นิ้ว ใช้เฉพาะกาบกล้วย นำกาบกล้วยที่สับแล้วนี้ใส่ในถังต้ม เติมน้ำ 1 ใน 3 ของถัง ใส่โซดาไฟ ใช้เวลาต้มประมาณ 3 ชั่วโมง ตักเยื่อออกมาล้างให้สะอาด นำเยื่อกล้วยที่ต้มแล้วใส่ถุงตาข่าย ใช้เท้าเหยียบให้เนื้อเยื่อแตกออกจากกัน โดยเหยียบในพื้นที่สะอาดก่อนนำออกจากถุงบนพื้นสะอาด เราจะได้เยื่อกล้วยมาใช้ปั้นเป็นก้อนใส่ตะกร้า แล้วกระจายเนื้อเยื่อในน้ำในแบบแม่พิมพ์แผ่กระดาษเกลี่ยให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณขอบ เพื่อไม่ให้ขอบกระดาษบางและขาดง่าย ตากจนแห้ง เท่านี้ก็จะได้กระดาษเยื่อกล้วยมาใช้งานกันแล้ว
สินค้าจากเยื่อกล้วยดีอย่างไร
ศรัณย์ อธิบายถึงข้อดีของกระดาษเยื่อกล้วยนี้ว่า เป็นกระดาษที่มีต้นทุนต่ำ หาง่ายปลูกได้ง่ายในบ้านเรา ต้นกล้วยสามารถนำมาทำเป็นกระดาษและยางกล้วยเองก็มีคุณสมบัติทาลงบนกระดาษเยื่อกล้วยเพื่อช่วยกันน้ำได้อีกด้วย โดยผลงานการออกแบบที่สร้างชื่อเสียงจนคว้ารางวัลในระดับประเทศมาแล้วมากมายก็คือ งานม่านจากกระดาษเยื่อกล้วย MaLee ซึ่งได้ไอเดียมาจากศิลปะวัดพระแก้วที่ประดับประดาด้วยลวดลายไทย เช่น ลายประจำยาม จากนั้นเขาจึงใช้เทคนิคการจับมือแบบข้าวต้มมัด ในการร้อยเรียงโมบายกระดาษแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน และยังดัดแปลงเป็นฉากกั้นห้องได้อีกด้วย
จากลำต้นกล้วยราคาไม่กี่สิบบาทอัพเกรดขายเป็นม่านราคาตารางเมตรละพันกว่าบาท ฟังแล้วยังทึ่งใช่ไหมละครับ เราบอกแล้วว่าอะไรก็ตามที่ใช้ไอเดียเข้าไปจับจะอัพมูลค่าได้มากมายมหาศาลกว่าที่คิด
นอกจากนี้ กระดาษเยื่อกล้วยยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความร้อนจากแสงแดด กลิ่นควันบุหรี่และกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ หรือสามารถนำไปตกแต่งห้องเพิ่มความสวยงามเช่นเดียวกับกระดาษสาที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
จุดที่แตกต่างอีกอย่างหนึ่งในการผลิตและออกแบบสินค้าของศรัณย์ ก็คือ ความใส่ใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มขั้น เริ่มจากนำชิ้นส่วนของกล้วยมาหมักให้ยุ่ยด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ และเร่งกระบวนการด้วยการเติมเปลือกมะนาวและมะกรูดซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด แทนที่การใช้โซดาไฟตามแบบวิธีการของชาวบ้าน และนำมาผลิตเป็นกระดาษในที่สุด
ผลงานการออกแบบสินค้าจากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของเขาก็คว้ารางวัลในการประกวดมาแล้วหลายเวที เช่น รางวัลชนะเลิศประเภทผลิตภัณฑ์เชิงนิเวศเศรษฐกิจแห่งประเทศไทย หรืออีโคดีไซน์ 2010 ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ, รางวัลการออกแบบดี Good Design Awards (GMark) กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ของสมาคมส่งเสริมด้านการออกแบบของสินค้า ภายใต้การจัดการโดยสมาคมส่งเสริมการออกแบบของอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (Jidpo) และยังส่งสินค้าจากเยื่อกล้วยไทยไปอวดโฉมชาวต่างชาติอีกหลายประเทศ เห็นอย่างนี้แล้วเกิดอาการอยากปลูกต้นกล้วยในบ้าน หรือลองตัดต้นกล้วยหลังบ้านมาทำเป็นสินค้าราคาหลายพันบาทกันบ้างแล้วใช่ไหมครับ


