posttoday

บางเสี้ยวของชีวิต เพียงคำ ประดับความ

03 มีนาคม 2553

...,มัลลิกา นามสง่า

ทันทีที่บอกเธอว่า เรื่องราวในหนังสือ เธอจากไปแล้วจากหัวใจฉันนั้นแสนเศร้า หลายเรื่องราวจบลงด้วยความรู้สึกหดหู่ต่อชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์ เพียงคำ ประดับความผู้สรรค์สร้างทั้ง 11 เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ ได้ตอบคำถามจนคนถามต้องย้อนถามตัวเอง

คิดว่ามันคงตอบได้ด้วยเรื่องราวที่เล่ามาแล้วในหนังสือ หรือพูดแบบที่พวกนักเขียนชอบพูดกันก็คือ เพราะเรามีความเศร้าเป็นของตัวเอง และหากคนอ่านอ่านแล้วรู้สึกว่ามันเศร้า หดหู่ รันทด นั่นคงเพราะคุณมีความเศร้าเป็นของตัวเองเช่นกัน

เพียงคำ ประดับความคือนามปากกาของ ตองนวล แก้วเกลี้ยงศิษย์เก่าภาควิชาภาษา (และวรรณคดี) ไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเอ็นจีโอ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ผู้ลี้ภัยชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ ชาวศรีลังกา ปากีสถาน อิรัก คองโก เวียดนาม กัมพูชา และชาวม้งลาว

จึงไม่แปลกที่ฉากหลังในเรื่องสั้นจะเป็นเรื่องราวของผู้คน พื้นที่ที่เธอสัมผัสมาจริงๆ ในเรื่องจริงมีเรื่องแต่ง ในเรื่องแต่งก็มีนัยของความจริงซ่อนอยู่ไม่น้อย ดังคำที่เธอเล่า บางทีชีวิตจริงกับงานเขียนก็เป็นเรื่องเดียวกัน เรื่องที่เอามาเขียนก็เอามาจากชีวิตจริงของเรา ในเล่มนี้มีอยู่เรื่องเดียวที่เป็นคนละเรื่องกับชีวิตจริง คือ เสื้อโชว์เครื่องในนอกนั้นเป็นเรื่องแต่งที่จริงหมด แต่จะจริงกี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นั่นคืองานเขียนกับชีวิตจริงเป็นเรื่องเดียวกัน ตัวละครตัวเดียวกัน ฉากเดียวกัน ตอนจบก็จบเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคือความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น เวลามันเป็นเรื่องแต่ง ไม่ว่าจะทุกข์เศร้าขมขื่นแค่ไหน เรายอมรับมันได้ง่ายกว่าเวลาที่มันเกิดกับชีวิตจริงคงเพราะมันเป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว คนเราเวลาผ่านอะไรที่หนักหนาสาหัสมาได้ก็มักให้คุณค่ากับความอดทนหรือแข็งแกร่งของตัวเองเสมอ

เพียงคำเริ่มต้นเขียนหนังสือหลังจากประสบอุบัติเหตุขับขี่มอเตอร์ไซค์ตกถนน อาการของเธอครานั้นเรียกว่าหนักจนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเกมที่ใกล้จะโอเวอร์เต็มที แต่การลุกขึ้นมาเขียนหนังสือก็กลายเป็นยาขนานเอกที่ช่วยรักษาเยียวยาจิตใจ ตอนนั้นแขนซ้ายยังบวมเหมือนงวงช้าง แต่มือยังพอกระดิกได้ก็พยายามประคองมันพิมพ์งาน จริงๆ การเขียนหนังสือเป็นสิ่งที่อยู่ในใจตลอด แต่เวลาเริ่มมันมาไม่ถึงสักที จนเมื่อต้องมานอนอยู่เฉยๆ เลยได้ลงมือ พอเขียนเสร็จก็ลองส่งไปตีพิมพ์ ระหว่างรอการตอบรับก็ลงมือเขียนเรื่องใหม่ไปด้วย มันเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรให้ทำ เริ่มมีอะไรให้รอคอย เอาเวลาว่างที่มีเยอะแยะมาเขียนหนังสือ ยึดเป็นที่พึ่งทางใจ ก็พอจะทำให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้

เรื่องสั้นในหนังสือ เธอจากไปแล้วจากหัวใจฉันเขียนช่วงหลังประสบอุบัติเหตุ เรื่องราวส่วนใหญ่จึงเล่าวนอยู่กับปัญหาใกล้ตัว ไม่ค่อยได้ขยายออกแตะปัญหาเชิงโครงสร้างเลย หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องของตัวเอง จนเกรงใจคนอ่านว่าทำไมต้องเอาเรื่องราวไปยัดใส่สมองคนอื่น

ก่อนจะมีผลงานรวมเล่มเรื่องนี้ เพียงคำมีผลงานนวนิยายเรื่อง บริษัทขายฝัน (ไม่จำกัด)” (นามปากกา หญ้าดอกขาว”) และเรื่อง ไอ้เกล็ดทองซึ่งได้รับรางวัลชมเชยพานแว่นฟ้า ปี 2549 ตอนนี้ เพียงคำ หันมาเขียนแต่เรื่องสั้น บทกวีเพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองลงพิมพ์ตามเว็บไซต์ต่างๆ เธอบอกว่า ที่ผ่านมาหมกมุ่นเขียนเรื่องตัวเองซ้ำๆ ซากๆ จนทบทวนตัวเองว่ากำลังเขียนอะไรให้คนในสังคมอ่าน

เหมือนเป็นช่วงที่เราถูกรื้อถอนทั้งโดยตัวเองและคนอื่น มุมมองในชีวิตเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน กิจกรรมที่ทำในชีวิตเปลี่ยน เรียกได้ว่าเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การลงมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมีผลมากต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราเริ่มไม่เชื่อว่าสิ่งที่เราเชื่อมาตลอดชีวิตมันถูกต้อง เริ่มไม่เชื่อแม้แต่ตัวเราเอง

เราต้องถามตัวเองว่า เรากำลังเขียนอะไรให้คนในสังคมนี้อ่าน ถ้าเราผลิตบนฐานของสิ่งที่ผิด บนฐานที่เรายังไม่เข้าใจมันดีพอ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วเรารับผิดชอบมันไหวไหมเพียงคำ ทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’