‘พยงศ์ศรี’ ซาลอนนี้ไม่ธรรมดา

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา &<2288;

เรื่องของ “ผม” (ไม่ใช่ของเขา หรือของเธอ) ใครคิดว่าไม่สำคัญ เพราะ “ผม” ที่ว่านี้ ก็ไม่ต่างจากผักโรยบนจานอาหาร ที่ช่วยแต่งเติมให้ใบหน้าของคนเราเกิดหรือดับได้ทีเดียว

ยิ่งกว่านั้น “ผม” ยังเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ ยามที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ต้องออกงาน หรือไปงานครั้งสำคัญ แต่จะว่าไป สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ที่สามารถฝึกปรือการทำผมขั้นปรมาจารย์ผ่านเคล็ดวิชาที่ถ่ายทอดกันทางโลกออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่

แต่สำหรับท่านสุภาพสตรีที่เป็นผู้ใหญ่ มีหน้ามีตาในสังคม จะให้มาซาลอนแอ๊บแบ๊ว หรือมัดผมตึงโชว์รูปหน้าคงไม่เหมาะ งานนี้คำตอบสุดท้ายของคุณยาย คุณป้า คุณน้า คุณอา ที่อยากดูภูมิฐาน สวยเช้ง มั่นใจ เมื่อย่างก้าวออกจากร้าน จึงหนีไม่พ้น “ร้านพยงศ์ศรี” ร้านตัดผมเก่าแก่ที่ยืนยงคู่กับย่านพระราม 6 มานานถึง 27 ปี ซึ่งเขาร่ำลือกันว่า ร้านทำผมธรรมดาๆ แห่งนี้ มีลูกค้าตั้งแต่ระดับชาวบ้าน...ชาวบ้าน ไปยังท่านผู้หญิง คุณผู้หญิง หรือแม้กระทั่งนางสนองพระโอษฐ์เลยทีเดียวคะคู้ณณณ

เมื่อเดินทางมาถึงร้านตัดผมที่มีชื่อไทยๆ ว่า “พยงศ์ศรี” อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นในบ่ายๆ แก่ บอกได้คำเดียวว่าเมื่อพิจารณาจากด้านนอกของร้านแล้ว ร้านแห่งนี้ไม่ได้ดูหรูหรา ไฮโซ หรือมีอะไรบ่งบอกแม้แต่น้อยว่า นี่คือร้านทำผมที่มีแขกระดับเอกซ์คลูซีฟหมุนเวียนมาทำผมไม่ได้ขาด หากแต่ดูแล้วไม่ต่างจากร้านทำผมในซอยแถวบ้านที่เราคุ้นตา จะมีเพียงป้ายชื่อร้านที่แขวนไว้ ซึ่งสีและแบบตัวอักษรบ่งบอกถึงความเก่าแก่ของร้านเพียงอย่างเดียวที่ช่วยยืนยันว่าร้านนี้คือร้านทำผมธรรมดา...แต่ไม่ธรรมดาที่กำลังตามหา

ทว่า ความสงสัยและไม่แน่ใจทั้งหมดก็มลายหายไปหมดสิ้นในวินาทีที่ผลักประตูร้านเข้าไปในร้าน เพราะภาพที่ปรากฏคือ ภาพคุณลูกค้าราว 10 คน ที่สแกนด้วยสายตาความเร็วปานกลาง พบว่า ร้อยละ 90 เป็นวัย 60 ขึ้น หรือมากกว่านั้นกำลังคุยเล่นอย่างเพลิดเพลิน บ้างก็สวมแว่นตาอ่านแมกกาซีนฆ่าเวลา บ้างก็กำลังจ้องมองช่างผมที่ในจำนวนนี้รวมถึง ป้ายงศ์ ผ่านกระจก ขณะสองมือกำลังรัวเป็นระวิงกับการยี เป่า และฉีดสเปรย์ให้ผมทรงสวยอยู่ทรง

กว่าจะเคลียร์ลูกค้าที่ทยอยหมุนเวียนเข้ามาพอให้ ป้ายงศ์–พยงศ์ศรี ยิ้มขลิบ เจ้าของร้านใจดีวัย 73 ปี ได้นั่งพักคลายเมื่อยบ้าง ก็ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง การสนทนาจึงเริ่มต้นขึ้น...

ป้ายงศ์ ย้อนวันวานเมื่อครั้งที่เริ่มเปิดร้านทำผมแห่งนี้ว่า เดิมคุณป้าเป็นลูกจ้างทำผมอยู่อีกร้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันนี้ ตอนนั้นคุณป้าเริ่มต้นอาชีพช่างทำผมด้วยมือเปล่า และสมองที่ว่างเปล่า เพราะยังจับกรรไกรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ เลยมีโอกาสได้ฝึกฝนช่วยงานตั้งแต่สระผม จนกระทั่งจับกรรไกร ทำผมเป็น

ป้ายงศ์ เล่าว่า ด้วยความที่เจ้าของร้านที่ป้าอยู่ด้วยค่อนข้างเข้มงวดและดุมาก ทำให้ฝีมือของป้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และเรียกได้ว่าเป็นช่างที่มีฝีมือคนหนึ่ง ผ่านไป 10 ปี ป้าจึงตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดร้านเอง โดยเริ่มแรกนั้นเริ่มจากการเช่าอาคารแถวนั้นก่อน กระทั่งต่อมาจึงย้ายมาที่ร้านปัจจุบัน ซึ่งซื้อขาดเป็นของตัวเอง

“ตอนที่แยกออกมาทำเองตอนนั้นก็กลัวนะ กลัวไปสารพัดว่าร้านจะรอดมั้ย แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ มีลูกค้าประจำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ รวมทั้งลูกค้าวีไอพีที่มีดีกรีเป็นถึงระดับคุณผู้หญิง ท่านผู้หญิง คนมีสีในสังคมตามมาทำที่ร้านไม่ได้ขาด”

ป้ายงศ์ ยืนยันว่า แม้จะมีลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ในสังคม หรือคนมีชื่อเสียงมาใช้บริการ แต่ป้ายงศ์ก็ไม่เคยแบ่งเกรดลูกค้า หรือทำให้ลูกค้าประจำคนอื่นๆ รู้สึกต่ำต้อย เพราะป้าถือว่าลูกค้าทุกคนก็คือลูกค้า ดังนั้นทางร้านจะไม่มีการจองคิวล่วงหน้า ยึดเอาว่าใครมาก่อนสวยก่อน ที่สำคัญป้ายงศ์บอกว่า เวลาต้องทำผมให้ผู้ใหญ่เหล่านี้ ทั้งที่มีชื่อเสียงก็ดี ไม่มีชื่อเสียงในสังคมก็ดี ป้าไม่เคยประหม่าหรือเกร็ง เพราะป้าถือว่าป้าทำหน้าที่ของช่างทำผม ทำให้ดีที่สุด ให้ลูกค้าพอใจ จะมีบ้างก็เพียงการเน้นอบรมเรื่องมารยาทให้กับเด็กในร้านเป็นพิเศษ เพราะด้วยความที่ร้านมีแต่ลูกค้าผู้ใหญ่

“ก่อนรับเด็กเข้ามาทำงาน ป้าต้องสอนก่อนเลยเรื่องมารยาท เช่น ก่อนจะจับผม สระผมผู้ใหญ่ ต้องยกมือไหว้ขออนุญาตก่อน ไม่ใช่นึกจะจับก็จับ และเวลาอยู่ในร้านก็ห้ามยืนคุยหรือตะโกนข้ามหัวลูกค้าเป็นอันขาด”

ส่วนจุดเด่นที่ป้าคิดว่าเป็นไฮไลต์ของป้าให้ร้านพยงศ์ศรีมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการที่ร้านมาขาดสาย ไม่เฉพาะผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่บางรายเป็นลูกค้าประจำกันมาเกือบ 10 ปี ถึงขนาดที่ป้ายงศ์ออกโปรโมชันว่า ลูกค้าที่อายุ 90 ปีขึ้นไปให้บริการฟรี แต่ยังรวมถึงเด็กวัยรุ่น ป้ายงศ์เชื่อว่าเป็นเพราะการบริการที่เป็นกันเอง ให้ความอบอุ่นเหมือนบ้าน ลูกค้าไว้ใจว่าเดินออกจากร้านไปแล้วต้องสวยกว่าตอนเดินเข้ามาในร้าน

สำหรับอนาคตของเจ้าของร้านทำผมบ้านๆ แต่ลูกค้าไฮโซนั้น ป้ายงศ์ ตอบเสียงดังฟังชัดว่า ป้าจะขอทำต่อไปจนกว่าลูกค้าจะไม่ยอมให้ทำผมให้แล้ว ที่สำคัญ ป้ายงศ์ยังบอกว่า ถึงจะเห็นว่าเป็นร้านที่รับลูกค้าระดับมีกะตังค์ แต่ราคาในการเติมสวยแต่ละครั้งก็ไม่แพงเลยสักนิด เอาเป็นว่าถูกขนาดไหนไม่ขอบอก แต่เจ้าของร้านรับประกันว่าสมเหตุสมผม เอ๊ย... สมเหตุสมผลก็แล้วกัน

งานนี้ใครที่ยังอยากท้าพิสูจน์ฝีมือการทำผมของป้ายงศ์ที่ทำผมให้ลูกค้าได้ทุกเกรด ทุกวัย แวะเวียนไปดื่มด่ำบรรยากาศแบบกันเองๆ ได้ที่ร้าน พยงศ์ศรี ใกล้ตึกทิปโก้ พระราม