posttoday

นี่ก็...พาล

22 มกราคม 2555

การตรัสมงคล 38 ข้อ ว่าด้วยเรื่อง “การไม่คบคนพาล”

การตรัสมงคล 38 ข้อ ว่าด้วยเรื่อง “การไม่คบคนพาล”

โดย..อ.ตุ้ย วรธรรม

เป็นมงคลแรกของพระพุทธเจ้า เสมือนการเตือนภัยขั้นสูงสุดเลยก็ว่าได้

ว่า “คนพาล” เป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยภัย อันตราย อุปสรรค อุปัทวะ และเป็นบุคคลที่พึงระวังอย่างยิ่งยวดสำหรับทุกคนที่ยังมีลมหายใจ

การคบหาคนพาล หมายถึง การคบค้าไปมาหาสู่ ตีสนิท เป็นเพื่อนร่วมกินร่วมอยู่ เลื่อมใสนับถือ คบคิดหรือสมคบคิด และร่วมกระทำการด้วย

จงอย่าไปแสดงพฤติกรรมแบบที่กล่าวมากับเหล่าคนพาล และหากคนพาลมาแสดง พฤติกรรมแบบนี้ด้วย ก็อย่ายินดีหรือเปิดทางให้เป็นอันขาด

ถ้าคนพาลเข้าใกล้เพื่อพูดคุยหรือตีสนิทล่ะ?!

ที่ควรทำในวินาทีนั้น คือ พยายามหลีกเลี่ยงอย่างมีชั้นเชิง ยิ่งไกลยิ่งดี ถ้าเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องคุยด้วย ให้คุยแต่น้อย แล้วหาทางผละออกมาทันทีที่มีโอกาส

เพราะอาจตกเป็นเหยื่อคนพาลโดยไม่รู้ตัว

และอย่าได้เผลอสบตาด้วย ถ้าคุยก็อย่าได้เผลอใจไปกับคำหวาน หรืออย่าไปชื่นชมพฤติกรรมของคนพาล เพราะภาพที่แสดงออกภายนอกของคนพาลคือ ภาพลวงตา

คนพาลทำอะไรให้หรือ ถึงต้องสังวรระวังทุกลมหายใจ เพราะ

คนพาลจะทำให้คนคบพลอยแปดเปื้อนเป็นมลทินทั้งจะติดความเป็นพาลไปด้วย คนพาลทำให้ถูกติเตียน ถูกมองในแง่ร้าย และไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนทั่วไป แม้กระทั่งญาติของตน คนพาลชอบทำลายประโยชน์และสร้างความหายนะให้เสมอ คนพาลเป็นอัปมงคล อยู่ที่ไหนก็รังแต่นำภยันตรายและเรื่องเดือดร้อนมาให้ คนพาลทำให้คนคบเอาตัวไม่รอด คุ้มตัวเองไม่ได้และขาดอิสรภาพ อีกอย่างการคบคนพาลอย่าได้หวังสุคติภูมิ จะมีก็แต่อบายภูมิในเบื้องหน้าเท่านั้น

ถ้าจะสังเกตคนพาล หลักๆ สามารถสังเกตได้ 3 ทาง หนึ่งคิดชั่วเป็นปกติ คือ คิด (จะทำ) แต่ในทางไม่ดี เรื่องผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย และประเพณีที่ดีงามอยู่ตลอด

สองพูดชั่วเป็นปกติ เช่น ยุให้คนแตกคอกัน ชอบให้ร้ายคน หรือชอบโกหกทำลายคนอื่นเพื่อให้ตนได้ประโยชน์ที่ต้องการ เป็นต้น

สามทำชั่วเป็นปกติ ตัวอย่างที่เห็นชัดในปัจจุบัน เช่น คนที่ติดคุกซ้ำซากเพราะคดีเดิมๆ แทนที่ออกจากคุกมาแล้วจะกลับตัวเป็นคนดีก็มาก่อคดีแบบนั้นอีก

ผมเห็นชายคนหนึ่งที่สภาพการแต่งตัวเสื้อผ้าไม่ค่อยสะอาดไม่ต่างจากหน้าตาเท่าไรนัก นั่งบนรถสองแถวที่วิ่งระหว่างวัดดอกไม้ถนนจันทน์วัดสุทธิวราราม แล้วแสดง “กิริยากักขฬะ” (หยาบช้า) ต่อผู้หญิงที่หน้าตาและรูปร่างดีคนหนึ่ง

กิริยากักขฬะของชายคนนั้น คือ ทันทีที่ขึ้นรถแล้วนั่งที่นั่งฝั่งเดียวกันกับหญิงสาวคนนั้น ซึ่งนั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน แต่ผู้ชายผู้นี้ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ จนชิดติดผู้หญิงคนนั้น

หญิงสาวคนนั้นเธอก็รู้ว่าถูกคุกคามจากผู้ชายคนนั้น แล้วเธอก็ขยับถอยออกห่างจากผู้นั้นเป็นคืบ แต่เจ้าคนนี้ที่สายตาสอดส่ายไปทางอื่น แต่ก็เขยิบเข่าเข้าหาหญิงสาวนั้นอีกครั้ง

การกระทำอันลามกของผู้ชายคนนั้นอยู่ในสายตาของผมตลอด และก็คิดว่าคงอยู่ในสายตาของหญิงแม่ลูกอ่อนคนหนึ่งที่นั่งมาในรถด้วย

เมื่อผมเห็นว่าไม่น่าไว้วางใจและเกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จึงตัดสินใจนั่งรถไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะเลยจุดที่ต้องลงก็ตาม ปรากฏว่าเธอลงก่อน ซึ่งนั่นอาจเป็นด้วยเธอถึงที่หมายแล้ว หรือไม่ก็มั่นใจว่าเจ้าคนนี้ลามกเกินกว่าที่จะนั่งรถต่อไปได้

นี่ก็หนึ่งกิริยาหยาบช้าในจำนวนที่นับไม่ได้ของ “คนพาล” ซึ่งน่ากลัวมาก โบราณจึงสอนว่า ผ่านสุนัขให้ห่างศอก ผ่านวอกให้ห่างวา ผ่านพาลาให้ห่างร้อยโยชน์หมื่นโยชน์ 
 

 

ข่าวล่าสุด

เลิกวนลูป! ส่อง 3 เป้าหมายยอดนิยมที่คนไทยตั้งไว้ทุกต้นปี เป็นจริงได้อย่างไร?