บ้านบางแคงัดแผน ‘น้ำสูง 1 เมตร’ ย้ายคนชราไป จ.กาญจนบุรี
พื้นที่บริเวณถนนเพชรเกษมที่แห้งสนิทอยู่ในขณะนี้ มีการคาดการณ์ว่ามวลน้ำจะเดินทางมาถึงภายใน 2-3 วันนี้
พื้นที่บริเวณถนนเพชรเกษมที่แห้งสนิทอยู่ในขณะนี้ มีการคาดการณ์ว่ามวลน้ำจะเดินทางมาถึงภายใน 2-3 วันนี้
โดย เบญจมาศ เลิศไพบูลย์
พื้นที่บริเวณถนนเพชรเกษมที่แห้งสนิทอยู่ในขณะนี้ มีการคาดการณ์ว่ามวลน้ำจะเดินทางมาถึงภายใน 2-3 วันนี้ เนื่องจากเส้นพุทธมณฑลอีกฟากฝั่งน้ำได้ท่วมแล้ว ขณะที่บริเวณโดยรอบถนนเพชรเกษมก็มีชุมชน ตลาด และร้านค้าจำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักคนชราบางแคที่มีผู้สูงอายุอยู่รวมกว่า 280 ราย
พฤฒินันท์ เหลืองไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดแผนหากมวลน้ำเดินทางมาถึงบ้านพักคนชราบางแคในระดับ 50 เซนติเมตร จะยังไม่มีการอพยพ แต่หากระดับน้ำสูงเกินกว่า 1 เมตร ก็จะมีการประสานงานไปยังเขตภาษีเจริญเพื่อขอรถขนย้ายคนชราไปยังสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อลำไยอุปถัมภ์) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
สำหรับสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี สามารถรองรับได้ 300 คน แต่ขณะนี้มีผู้พักพิงไม่ถึง 100 คน ส่วนสถานการณ์น้ำว่าจะเดินทางมาถึงเมื่อไรนั้น ได้มีการพูดคุยกับเขตภาษีเจริญเป็นระยะเพื่อประเมินสถานการณ์ได้ทัน
ขณะที่การเตรียมการภายใน ขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้สูงอายุทั้งหมดแล้วว่า ให้เก็บของใส่ถุงพลาสติกหากต้องมีการอพยพไปอยู่บนชั้น 2 ในอาคารอื่นที่มีอยู่ภายในบ้านพักคนชรา เนื่องจากที่นี่มีบางอาคารที่เป็นพื้นต่ำ และคนสูงอายุพักอยู่ในชั้นล่าง
“ตอนนี้เขตภาษีเจริญคาดว่าน้ำจะมาอีก 2 วัน ซึ่งในปี 2538 น้ำเคยท่วมระดับ 50 เซนติเมตร ขณะนั้นบ้านพักคนชราบางแคยังไม่ได้ถมที่ แต่ตอนนี้ถมที่แล้ว ถ้าน้ำสูง 60 เซนติเมตร ทุกคนก็ยังอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องอพยพ” พฤฒินันท์ กล่าว
จากการสำรวจโดยรอบบริเวณบ้านพักคนชราบางแค พบว่าจากหน้าถนนเพชรเกษมเข้ามายังตัวบ้านที่ผู้สูงอายุพักอาศัยระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยบริเวณหน้าประตูติดถนนได้มีการเตรียมกระสอบทรายไว้พร้อม แต่ในบริเวณโดยรอบภายในจะมีท่อน้ำอยู่จำนวนมาก อย่างไรก็ดีขณะนี้มีผู้บริจาคเรือดัดแปลงจากเหล็กแล้ว 4 ลำ ซึ่งก็อาจเสี่ยงต่อการถูกไฟดูดได้อีก ทำให้บ้านพักยังขาดเรือยางและยังมีความต้องการแพมเพิร์สสำหรับผู้ใหญ่ และถุงดำ อีกจำนวนมากเผื่อกรณีที่ผู้สูงอายุต้องใช้ทิ้งแพมเพิร์สที่ใช้แล้ว
ขณะที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่นว่าน้ำจะท่วมไม่มาก และมั่นใจความปลอดภัยในบ้านพัก เนื่องจากมีความผูกพันกับที่นี่ รวมทั้งผู้อำนวยการศูนย์ได้สั่งให้เตรียมพร้อมก่อนหน้านี้แล้ว
พริ้ง เนียมนุช ผู้สูงอายุ 72 ปี พักในบ้านพักคนชราบางแค เชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท่วมสูงมาก ซึ่งในปี 2526 ได้ผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาแล้ว แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน เพราะบ้านพักได้ถมขึ้นมาสูง
“อยู่ที่นี่สบายใจ เป็นสิ่งที่ผมผูกพัน สบายมากเมื่ออยู่ที่นี่ ผู้อำนวยการที่นี่ใจดี ผมมาอยู่กับแฟน ส่วนลูก 1 คนบวชเป็นพระ อีก 2 คน บ้านน้ำยังไม่ท่วม แต่โทรศัพท์ติดต่อกันทุกวัน ลูกก็แวะมาหา เพราะขายของแถวนี้ ตอนนี้ผมเตรียมเก็บของใส่ถุงไว้แล้ว ถ้าน้ำมาก็ขึ้นไปอยู่ชั้นบนอย่างที่ผู้อำนวยการบอก” พริ้ง กล่าว
นอกจากที่นี่จะดูแลผู้สูงอายุแล้ว ขณะนี้ก็ได้รับผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมทั้งคนชราและครอบครัวมารวมอยู่ 28 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 6 คน ซึ่งย้ายมาจากศูนย์พักพิงดอนเมือง หลังจากที่นั่นน้ำเข้าท่วม
ประจวบ รอดไฟ อายุ 57 ปี ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ได้พาแม่และพ่อที่เป็นผู้สูงอายุเข้ามาพักอาศัยกับบ้านพักคนชราบางแคชั่วคราว เนื่องจากพ่อไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้อยู่ที่ศูนย์ผู้ประสบภัยไม่สะดวก เจ้าหน้าที่จากดอนเมืองจึงเป็นผู้ประสานให้เข้ามาอยู่ที่นี่
“ที่นี่ดีมาก ผู้อำนวยการก็ดี ถามตลอดมีอะไรขาดเหลือให้บอก ที่มามีเรา น้องสาว พ่อแม่ และหลานสาวอายุ 3 ขวบ ดีกว่าอยู่ศูนย์ผู้ประสบภัย ทำให้เราไม่อยากย้ายไปไหน” ประจวบ กล่าว
ผู้ประสบภัยรายนี้ยอมรับว่า ยังมีความเครียด บ้านน้ำท่วมทั้งหลัง รู้สึกตัน ไม่มีเงิน ลูกก็ไม่ได้ทำงาน แต่อย่างน้อยก็ถือว่าโชคดีที่ได้มาอยู่ที่นี่จึงทำให้ความเครียดคลายลงบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนใส่ใจให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ด้าน สุรสิทธิ์ แซ่ตั้ง ผู้ประสบภัยอีกรายอายุ 46 ปี 1 ในผู้ประสบภัยซึ่งพักที่ศูนย์ดอนเมืองก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงประสานไปยังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้ติดต่อสถานที่ให้ และได้มาอยู่ที่นี่
“ผมมากันทั้งครอบครัว 9 คน อยู่ที่นี่ดีกว่าที่ศูนย์ผู้ประสบภัยมาก ตอนนี้เป็นห่วงแม่คนเดียว อายุ 74 ปีแล้ว เป็นมะเร็งที่มดลูก ซึ่งที่นี่ดูแลทุกคนดีจริงๆ อย่างน้อยแม่ก็ไม่แออัด ตัวผมกับพี่น้องอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้” สุรสิทธิ์ กล่าว
ตอนนี้ทุกคนที่นี่จึงได้แต่ภาวนาขอให้น้ำไม่เข้าท่วมบ้านพักคนชรา หรือหากมาก็ขอให้ท่วมไม่มาก ไม่เช่นนั้นก็เป็นเรื่องลำบากในการโยกย้ายคนชรา ซึ่งเคลื่อนตัวได้ช้ากว่าคนทั่วไป


