40 ยังจี๊ด และดูดี!
ไม่ใช่เรื่องแปลก! หากผู้หญิงวัย 40 ในศตวรรษที่ 21 จะดูดี ผิวพรรณเต่งตึงและสวยสมวัย!
ไม่ใช่เรื่องแปลก! หากผู้หญิงวัย 40 ในศตวรรษที่ 21 จะดูดี ผิวพรรณเต่งตึงและสวยสมวัย!
โดย..วราภรณ์
ไม่ใช่เรื่องแปลก! หากผู้หญิงวัย 40 ในศตวรรษที่ 21 จะดูดี ผิวพรรณเต่งตึงและสวยสมวัย! ดูอย่างนักแสดงและนางแบบไทยที่แม้วัย 40 แล้วก็ยังสวย เช่น สาวสังคมและนักธุรกิจสาว นวลพรรณ ล่ำซำ หรือฮอลลี่ อัมระนันท์ ฯลฯ ก็หุ่นเปรี้ยะหน้าเป๊ะ จนสาวๆ วัย 30 บางคนยังอาย!
เพราะเหตุใดผู้หญิงทุกวันนี้จึงดูสวยและงามกว่าวัย ดร.สุนิดา ยุทธโยธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณให้ทัศนคติว่า ผู้หญิงในวัย 40 ปี มักประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หลายคนเป็นผู้นำ ดังนั้น จึงมีทุนทรัพย์และมีรายได้ในการปรนนิบัติตัวเอง เพื่อรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีอ่อนเยาว์กว่าวัย ซึ่งนับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นผู้นำ
“ผู้หญิงทุกวันนี้ใช้ร่างกายหนักและทำงานหนักกว่าผู้หญิงยุคก่อน เมื่อใช้ร่างกายมากและพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลารับประทานอาหารที่ดี เปรียบร่างกายมนุษย์ก็เหมือนเครื่องยนต์ไม่ได้บำรุงรักษาซะบ้าง ร่างกายก็จะเสื่อมสภาพโดยเฉพาะผิว ดังนั้น นวัตกรรมด้านความงามจึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูแลตัวเองได้ดีขึ้น”
ต่อไปนี้ 2 ตัวแทนสาววัย 40 ดร.สุนิดา ยุทธโยธิน และ ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ จะมาเผยเคล็ดลับ ทำอย่างไรให้ดูดีและสวยสมวัย!
ผิวพรรณอ่อนเยาว์เทรนด์ฮิตผู้หญิงยุคใหม่
“ความงามสมวัยเป็นความมั่นใจ ส่วนตัวดิฉันไม่กลัวศัลยกรรม แต่ไม่กล้าดึงหน้ารอให้แกจริงๆ แต่ถ้าหากดูแลบำรุงขั้นพื้นฐานได้ ให้ดูแลของามตามวัย แก่ได้ แต่ให้ดูดี หากวัย 50 แล้ว ให้มีริ้วรอยได้นิดหน่อย ไม่ต้องตึงแป๊ะ ชะลอได้หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ทำไปเถอะ” หมอแอ้ดร.สุนิดา ยุทธโยธิน ผู้อำนวยการสถาบันนิดา คลีนิกซ์ แอนด์ เลเซอร์ อินสติติวท์ วัย 41 บอก
เคล็ดลับการดูดีคือต้องมีระเบียบวินัยทั้งออกกำลังกายและการบำรุงผิวพรรณตั้งแต่อายุ 30 หมอแอ้นิยมตื่นเช้าๆ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูลูกๆ 2 คน ฝึกโยคะ ว่ายน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนไปทำงานทุกวัน “ตอนเช้าออกกำลังกายดีกว่าตอนเย็น เพราะช่วงเย็นร่างกายคนเราต้องการพักผ่อนแล้ว แต่ออกกำลังกายตอนเช้าร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและกระชุ่มกระชวยตลอดทั้งวันทำงาน”
ด้านผิวพรรณ หมอแอ้บอกว่าผู้หญิงเราควรเริ่มบำรุงผิวเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี สังเกตคนที่ดูแลตัวเองเร็วจะดูแกช้ากว่าคนที่ไม่ดูแลตัวเองเลย “การดูแลผิวหมอดูแลตั้งแต่อายุ 30 ต้นๆ ไม่ใช่รอให้ผิวพรรณล่วงเลยไปแล้ว หากเราดูแลผิวสม่ำเสมอจะเห็นผลชัดเมื่ออายุเข้าเลข 4 ตอนนี้เป็นเทรนด์เลยคือ อยากเด็ก อยากดูอ่อนเยาว์ หมออยากแนะนำว่า ผิวพรรณที่ดีและอ่อนเยาว์มาจากการมีสุขภาพที่แข็งแรง หมอเข้าวัย 30 เคร่งครัดเรื่องการดูแลการรับประทานมาตลอด ต้องออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อน รับประทานอาหารที่ดี เราก็จะได้รูปร่างที่ดี หมอไม่เคยอดข้าวเลย รับประทาน 3 มื้อครบ แต่เราต้องรู้จักเลือก เมื่อก่อนรับประทานได้ทุกอย่างไม่อ้วน แต่พอเข้าเลข 4 ระบบเผาผลาญไม่เหมือนเดิม วัย 40 หมอเน้นรับประทานผักผลไม้ เนื้อสัตว์ปลา ดื่มน้ำเยอะๆ เมื่อก่อนทำงานหนักวันๆ ไม่ดื่มน้ำเลย แต่พอเลข 40 รู้เลยว่าทำงานมากๆ แล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม สังเกตสีหน้า ผิวพรรณ ล้าง่าย ร่วงโรยได้ง่ายกว่า จากนั้นหมอพยายามรับประทานผักผลไม้ และดื่มน้ำแร่วันละลิตรครึ่งผสมชาเขียวผงๆ เพราะชาเขียวจะมีสารแอนติออกซิเดนช่วยระบบไหลเวียนของเลือด ต้านอนุมูลอิสระ ตื่นเช้ามาหมอต้องดื่มน้ำอุ่นผสมชา 1 แก้ว ออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง รับประทนอาหารเช้าแล้วก็ไปทำงาน”
ด้วยทำงานต้องแข่งกับเวลาไม่มีเวลาเลือกรับประทาน เธอจึงหาตัวช่วยคือ รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ ฟิช คอลลาเจน และสารสกัดจากรกข้าวญี่ปุ่น เห็นเขาว่ากันว่าจะช่วยระบบร่างกายภายในทำให้รู้สึกระชับกระเฉง นอนหลับดีขึ้น โดยเพื่อนหมอที่ญี่ปุ่นเป็นคนแนะนำเรื่องความดูเยาว์กว่าวัย ด้านจิตที่ไม่เครียดก็มีส่วนสำคัญ “หมอเข้าวัดฟังเทศน์และทำบุญตั้งแต่เด็ก อีกทั้งเป็นคนตรงๆ ไม่เก็บไม่พอใจอะไรจะบ่น ก็เหมือนกับได้ระบายไปแล้ว การฝึกสมาธิจะช่วยทำให้ใจนิ่งมีอะไรมากระทบก็สามารถทำใจและยอดรับได้เร็ว ที่สำคัญควรมองโลกในแง่ดี ทำดีและปรารถนาดีต่อผู้อื่น เราจะมีเครื่องยืดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้เราสบายใจเวลามีอุปสรรคอะไรก็แล้วแต่ในเรื่องการงาน”
เป็นสาวยุคใหม่ ความงามตามธรรมชาติอย่างเดียวไม่พอ ก็ต้องได้ตัวช่วยบ้าง
“ตอนหมออายุ 30 ต้นๆ นิยมทำเลเซอร์บูตคอลลาเจน เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิวเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันเกิดริ้วรอย แต่พอเลข 4 หมอเป็นคนมีแก้มรู้สึกว่าแก้มตกๆ เพราะเรามีไขมันที่แก้มเยอะ ซึ่งจะทำให้เราดูแก่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคนเอเชีย แต่สาวเอเชียโชคดีกว่ายุโรปที่เรามีคอลลาเจนมากกว่าสาวยุโรปถึง 30% ทำให้เราผิวพรรณแก่ช้ากว่า ตอนนี้ดิฉันจึงอาศัยยิงเลเซอร์เพื่อใบหน้าวีเชฟที่เขานิยมทำกันยุคนี้ เพื่อช่วยสลายไขมันที่แก้ม หมอคิดว่าตอนนี้พอวัย 40 คิดว่าวัยไปเร็วมาก เมื่อก่อนคิดว่าคนเราจะอะไรกันหนักหนาเรื่องศัลยกรรม แต่พอมาปีนี้เรารู้ว่า แนวโน้มมาแรงมาก เรื่องรูปร่างและผิวพรรณจากคนไม่กังวลก็กังวล กระแสนี้ฮิตไปทั่วโลกทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีมาแรงมาก ผู้หญิงโซนเอเชียมีความคิดว่าต้องสวยสมบูรณ์แบบ ยิ่งคนวัย 40 มีทุนทรัพย์ มีเสถียรภาพ มั่นคง และทำงานหนัก ก็มีเงินที่จะดูแลตัวเองยิ่งขึ้น ทำให้ผู้หญิงวัย 40 ดูแก่ช้าลง”
‘ความงาม’ ชีวิตต้องมีระเบียบวินัย
“เรื่องความงาม ถ้าชะลอได้ดิฉันก็ทำ อย่างคุณแม่ของดิฉันยังไปดึงหน้าตอนอายุ 50 เลย ในกรณีตัวเอง ถ้า 50 แล้ว จำเป็นต้องไปดึงหน้าเป็นจุดๆ ก็น่าสนใจ ไม่แอนตี้ ทำแล้วเรารู้สึกดีกับตัวเองก็ทำไป แต่อย่าเสพติดกับมัน” นักวิชาการ พิธีกร และสาวสังคม ดร.อ้อกฤษติกา คงสมพงษ์ ในวัย 46 บอก
แม้วัยจะก้าวเข้าสู่เลข 4 เกือบปลายแล้ว แต่รูปร่างและผิวพรรณของ ดร.กฤษติกา ที่เธอยังรักษาให้ดูดีและสวยสมวัย เพราะเธอมีเคล็บลับคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกใช้เทคโนโลยีบ้างตามความเหมาะสม
“ดิฉันจะตื่นขึ้นมาตอน 6 โมงเช้าและออกกำลังกายด้วยเครื่อง ทำคาร์ดิโอ 45 นาที เพื่อกระตุ้นให้หัวใจฉูบฉีดเลือดหมุนเวียนในร่างกายอีก 15 นาที ยกดัมเบลเพาะกล้ามเนื้อที่แขนให้กระชับ ถ้าแขนแข็งแรงใส่เสื้อผ้าจะได้ดูดี ดิฉันออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อกระชับมาตั้งแต่อายุ 30 เพราะช่วงนั้นมีปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขาพับด้านใน พอออกกำลังกายแล้วปัญหานั้นหายไป จึงออกกำลังกายมาเรื่อยๆ ผลดีของการออกกำลังกายตอนเช้า ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน ระบบขับถ่ายก็ดี ออกกำลังกายเสร็จ รับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ เมื่อระบบขับถ่ายดีก็ทำให้เราไม่มีไขมันสะสม ออกกำลังกายแบบนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ร่างกายจะอยู่ตัว ส่วนเรื่องรับประทานอาหาร ดิฉันรับประทานปกติ มื้อเช้าซีเรียล ผลไม้กับนมพร่องไขมัน มื้อกลางวันรับประทานปกติ ถ้ามีปาร์ตี้หรือรับประทานข้าวมื้อเย็นกับครอบครัว ซึ่งนานๆ ครั้งก็จะรับประทานเต็มที่เพราะถือว่าเป็นวาระพิเศษ แต่หากอยู่บ้านคนเดียวมื้อเย็นจะรับประทานน้อยมาก เช่น แฮม 1 ชิ้น และดิฉันนิยมดื่มไวน์แดงวันละหนึ่งแก้ว ในไวน์แดงเคยอ่านพบว่า มีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ”
นอกจากการออกกำลังกายและเลือกรับประทานแล้ว การทำจิตใจให้ไม่เครียดก็เป็นอีกเคล็ดลับของความงามสมวัย
“ดิฉันไม่ดูข่าวแต่ฟังนิดๆ พอรับรู้ เสพข่าวเกินไปทำให้เครียด หากทำอะไรไม่ได้ก็ต้องปล่อยว่าง ดิฉันใส่ใจเรื่องความงามสมวัยที่ดูดี ไม่อยากกระชากวัย ดิฉันเข้าสังคมปกติ แต่ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ค่ำก็กลับบ้าน เข้านอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน เข้านอน 4 ทุ่ม ตื่นหกโมงเช้า เพราะนาฬิกาชีวิตของเราจะหลั่งโกลสฮอร์โมนช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตีหนึ่ง นอนเร็วจะทำให้เราหลับสบาย โกลสฮอร์โมนจะหลั่งตอนเราหลับสนิท ร่างกายก็ได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ดิฉันรับประทานวิตามินรวมและวิตามินซีบ้าง ดิฉันค่อนข้างมีระเบียบวินัยกับตัวเอง นี่ละมั่งอาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้เราดูงามสมวัย อีกทั้งดิฉันไม่สูบบุหรี่ สังเกตผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะดูแก่เร็วกว่าคนที่ไม่ได้สูบ”
สำหรับตัวช่วยด้านนวัตกรรมที่ทำให้ผู้หญิงช่วยชะลอวัยได้ ดร.กฤษติกา ก็สนใจและศึกษาอยู่เสมอๆ
“ถ้านวัตกรรมอย่างเลเซอร์ต่างๆ จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวเราก็ทำ ดิฉันก็ใช้นวัตกรรม เช่น เลเซอร์ยกกระชับหน้า นับว่าเป็นแพทย์ทางเลือกอายุ 50 สามารถมีรอยได้บ้าง แต่ดิฉันคิดว่าถ้าเราไม่ทำตัวให้เดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวผอม ผิวพรรณก็จะไม่หย่อนคล้อย ผิวก็จะเต่งตึงเพราะกล้ามเนื้อเรากระชับ ยุคนี้ศตวรรษไหนแล้ว เราต้องมีตัวช่วย ตัวช่วยไหนดีก็ทำ แต่อย่ากระชากวัยเกินไปก็ไม่งาม ดิฉันจะทำดีทอกซ์ร่างกายปีละ 1 คอร์ส เท่ากับ 5 ครั้ง ดิฉันก็ทำเพราะจะช่วยกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย ดิฉันจริงจังเรื่องงามสมวัย ถึงแม้จะอยู่บ้านดิฉันก็แต่งหน้า ทำผม ใส่เสื้อผ้าสวยๆ อยู่บ้าน ดิฉันไม่เคยทำให้ตัวเองดูโทรมเป็นอันขาด เราจะสวยแต่ตอนออกไปข้างนอกอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องสวยตลอดเวลา แต่อย่าลืมจิตใจก็ต้องสงบอย่าเครียดด้วย เราต้องสวยจากข้างในสู่ภายนอก เช่น ชื่นชมคนอื่นเวลาที่เขาได้ดี อาชีพครูเป็นอาชีพที่ต้องชื่นชมคน อย่าไปรู้สึกอิจฉาใคร ถ้าอยากได้ดีแบบเขา เราก็ต้องผลักดันตัวเอง”


