จักกวัตติธรรม หลักธรรมนำสังคมสู่สันติ (ตอน ๕)
ตามที่มีการเจริญพระพุทธมนต์ สวดพระปริตร อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส
ปุจฉา : กราบเรียน พระอาจารย์อารยะวังโส...
ตามที่มีการเจริญพระพุทธมนต์ สวดพระปริตร อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๓๒ เมื่อวันที่ ๒ ต.ค. ๒๕๕๔ ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา มีสาธุชนมาร่วมงาน ประกอบศาสนกิจกันมากมาย ด้วยความศรัทธายิ่ง
ในงานครั้งนี้ พระอาจารย์ได้แสดงธรรมที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมไทยมาก โดยเฉพาะผู้ปกครองบ้านเมือง นักการเมือง และรัฐบาล ควรจะได้มีส่วนรับฟังเพื่อเป็นอนุสติในการดำเนินชีวิต บริหารจัดการปกครองสังคมเพื่อประโยชน์และความสุขของสังคม...
จึงใคร่ขอความกรุณาช่วยสรุปธรรมเรื่องดังกล่าวที่ชื่อว่า “จักกวัตติธรรม” ลงตีพิมพ์ใน “ธรรมส่องโลก” จะเป็นประโยชน์กับสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาจะได้เรียนรู้ในหลักธรรมดังกล่าว เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตที่ต้องสัมพันธ์กับภาคสังคมโดยรวม...
กราบเรียนมาด้วยความเคารพ
คณะศรัทธาวัดพระแก้วฯ
รจนา วานิช
วิสัชนา : ต่อมา เมื่อทรงทราบว่าจักรแก้วได้เคลื่อนที่ไปจากที่ประดิษฐานคู่บารมี... พระองค์ก็ออกผนวชเป็นราชฤๅษี ประพฤติพรหมจรรย์ มอบสมบัติให้กับพระราชาองค์ใหม่ คือ ราชบุตรองค์โต โดยเมื่อทรงออกผนวชไปแล้วนั้น ขุมทรัพย์แห่งรัตนะทั้ง ๗ ก็สูญสิ้นไปตามบารมี ราชาองค์ใหม่ทรงเสียพระราชหฤทัย และเข้าเฝ้าราชฤๅษีผู้เป็นบิดา เล่าให้ฟังว่าจักรแก้วได้หายไปแล้ว ราชฤๅษีจึงทรงแนะนำให้พระราชารักษาอุโบสถในวัน ๑๕ ค่ำ และตั้งตนอยู่ในวัตรอันประเสริฐ เพื่อบำเพ็ญเพียรสร้างบารมีตาม หลักจักกวัตติธรรม จะได้ถึงซึ่งฐานะพระมหาจักรพรรดิอันประเสริฐ คู่ควรแก่การมีรัตนะทั้ง ๗ ดังจักรแก้ว เป็นต้น ซึ่งเป็นไปเฉพาะตน ไม่สามารถส่งสืบทอดมารดาหรือมอบให้กันได้...
วัตรอันประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นอย่างไร กล่าวโดยสรุปได้ว่า วัตรอันประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดินั้น (๑) จงอาศัยธรรมะ (๒) ให้ความสักการะเคารพนับถือธรรมะ (๓) ให้ความคุ้มครองอันเป็นธรรมแก่มนุษย์สัตว์ทั้งหลาย (๔) ไม่ยอมให้ผู้กระทำอธรรมทั้งหลายเป็นไปได้ในแว่นแคว้น คือ ไม่ยอมให้คนชั่วในแว่นแคว้นมีฐานะบทบาทเพื่อทำลายคนดี และที่สำคัญต้องมิให้มีคนชั่วสืบพฤติกรรมอกุศล รุกราน ทำลายบุคคล สังคม และประเทศชาติ (๕) จัดสรรแบ่งทรัพย์ให้ผู้ไม่มีทรัพย์ และ (๖) รู้จักเข้าหาสมณพราหมณ์ผู้ซึ่งตั้งมั่นอยู่ในพรหมจรรย์ มีขันติ ความอดทน... โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม เข้าหาทำไม ก็เพื่อฟังธรรมจะได้รู้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดไม่เป็นประโยชน์ สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ
นี่คือวัตรของพระเจ้าจักรพรรดิที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อสมบัติอันเป็นรัตนะ ๗ ประการ ที่เรียกว่า “จักกวัตติธรรม” ซึ่งจะต้องมีการรักษาศีลอย่างเป็นปกติ และรู้จักรักษาอุโบสถศีล ขอสาธุชนพึงพิจารณาว่า ในการรักษาอุโบสถในวัน ๑๕ ค่ำ ซึ่งชาวพุทธเราในอดีตที่ปฏิบัติกันมาอย่างดียิ่ง... เราจะเห็นชาวพุทธในอดีตรักษาอุโบสถ รับศีล ๘ ในทุกวันพระ... อุโบสถ ก็คือ ที่พักกายพักจิต อยู่ในเขตวัดอาราม ว่างเว้นการเกี่ยวข้องกับบ้านเรือน รุ่งอรุณแล้วจึงจะกลับไปทำไร่ทำนา ประพฤติโดยอาศัยธรรมะ มีธรรมะอยู่เป็นเครื่องพึ่งทางจิตใจ จึงมีหิริโอตตัปปะคุ้มครองจิตใจให้มีความสะดุ้งเกรงกลัวต่อบาป เพราะเชื่อในบาป เชื่อในบุญ ไม่วิจิกิจฉา หรือ ลังเลสงสัยในกฎแห่งกรรม “กรรมนิยาม” จึงประพฤติตนโดยยึดหลักพึ่งธรรม พึ่งตน ทำความดี ให้ความเคารพนับถือธรรม ให้ความคุ้มครองอันเป็นธรรมแก่ผู้อื่นด้วย แม้สัตว์ทั้งหลาย และไม่ยอมให้คนชั่วกระทำความไม่ดีให้สังคมสูญเสียดุลยภาพแห่งธรรม จนเกิดความร้าวฉาน ทะเลาะเบาะแว้ง เบียดเบียนทำร้ายทำลายซึ่งกันและกัน ให้อยู่ร่วมกันอย่างไร้ความสงบสุข มีแต่ความเดือดร้อน ทุกข์กาย-ใจ
สาธุชนชาวไทยจึงพึงควรพิจารณาเรื่องดังกล่าวนี้ให้มากๆ ตรงนี้สำคัญมาก สังคมจะสงบร่มเย็น คนดีต้องมีกำลัง และกำลังความดีนั้น ต้องถึงพร้อมด้วยอำนาจพลังธรรมที่สามารถปกป้องตนและสังคมให้รอดพ้นจากภัยพาลได้
อำนาจพลังธรรมจากการบำเพ็ญเพียรที่ยึดหลักศีลธรรม จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ดังจะเห็นได้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิที่อยู่ในสมบัติทั้งปวงได้นั้นจะต้องเข้าถึงธรรมะ และอ้างอิงอาศัยธรรมะในการดำเนินชีวิตตามแบบศีลธรรมที่กล่าวมา ซึ่งปรากฏอยู่ในคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาทุกประการ เพื่อนำไปสู่การประพฤติตนตรงตามธรรมะ ขวนขวายอยู่ในเส้นทางแห่งธรรมะอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ถึงที่สุดแห่งสมบัติความเป็นมนุษย์ ก็คือ ความเป็นมหาจักรพรรดิอันอุบัติเกิดรัตนะ ๗ ประการคู่บารมีที่ยากจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งจะต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอย่างเป็นปกติ โดยรู้ถึงสภาพธรรมในโลกที่เคลื่อนคล้อยไป ไม่เที่ยงแท้คงทน รู้เบื้องหน้าว่ามีมรณะ คือการแตกหักผุพังเป็นธรรมดา จึงออกทำความดี ไม่ประมาทในกาล ในวัย ในสังขาร
วัตรอันประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เป็นหลักธรรมที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในวิถีแห่งพระพุทธศาสนา ยกขึ้นมาอ้างอิงหลักธรรมนี้เพื่อเป็นข้อประพฤติข้อปฏิบัติ เพื่อความประเสริฐในฐานะของความเป็นบุรุษอันเลิศ เพื่อความร่มเย็นของแผ่นดิน และเพื่อความสุขของมหาชนมหาสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งผู้นำทั้งหลายในสังคม กษัตริย์ราชาทั้งปวงในแต่ละยุคแต่ละสมัยที่มุ่งมั่นสร้างบารมีไปสู่ความสิ้นทุกข์ มุ่งมั่นสร้างคุณความดี จะไม่ทอดทิ้งการศึกษาหลักธรรมข้อวัตรอันประเสริฐแห่งความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้


