วิจัยแดนผู้ดีชี้อยู่ก่อนแต่งช่วยคู่รักหย่าร้างน้อยลง

ยังคงเป็นโจทย์ปัญหาที่แก้ได้ยากจริงๆ สำหรับประเด็นที่ว่าอยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่

แบบไหนจะดีกว่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่งานวิจัยที่ผ่านมาพบว่า คู่รักที่อยู่ก่อนแต่งมีสิทธิแยกทางสูงกว่าคู่รักที่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันหลังผ่านพิธีวิวาห์

ทว่า ยุคสมัยเปลี่ยน อะไรๆ ก็ย่อมเปลี่ยน เพราะการศึกษาสำรวจของมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตันในอังกฤษ พบว่าหนุ่มสาวที่ตกลงปลงใจอยู่กินฉันสามีภรรยาก่อนแต่งงานมีแนวโน้มสวมคอนเวิร์สทางใครทางมันน้อยกว่าคู่รักที่จูงมือสาบานกันในโบสถ์เสียอีก

การศึกษาพบว่าจำนวนคู่รักที่เข้าพิธีแต่งงานในปัจจุบันนานเกิน 5 ปี มีอัตราการหย่าร้างลดลง

ขณะเดียวกัน จำนวนคู่รักหนุ่มสาวที่อยู่กินก่อนแต่งงานมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 80% และมากกว่าครึ่งพร้อมใจกันเข้าพิธีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่ออยู่ด้วยกันครบ 10 ปี แถมมีเพียง 4 ใน 10 คู่ เท่านั้นที่แยกทางห่างกันไป

ทั้งนี้ บรรดานักวิจัยเห็นตรงกันว่า การอยู่ก่อนแต่งทำให้คู่รักมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมั่นคงมากยิ่งขึ้น ประมาณว่าได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจกันและกันอย่างถ่องแท้ มากกว่าที่จะมองเรื่องความใคร่ร้อนแรงแต่เพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2547-2550 61% ของชายหนุ่ม อายุระหว่าง 25-44 ปี และ 64% ของผู้หญิงในวัยเดียวกันยอมรับว่า เคยมีประสบการณ์ที่อยู่กินกันแบบไม่ได้แต่งงาน ขณะที่ 38% ของชาย และ 35% ของหญิง อายุระหว่าง 45-49 ปี เคยมีประสบการณ์ดังกล่าว

โดยเฉลี่ยแล้วคู่รักใช้เวลาอยู่กินก่อนแต่ง 5 ปี ก่อนที่จะจูงมือเข้าพิธีจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย

รายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า หากพิจารณาตัวเลขการแต่งงานและการที่อยู่กินกันแบบไม่ได้แต่งงานร่วมกันจะพบว่า ประชากรที่เพิ่งจะย่างเข้าวัย 40 ปี ในขณะนี้เคยมีประสบการณ์แบบคู่สามีภรรยาเสมือนแต่งงานจริงๆ โดยเป็นจำนวนใกล้เคียงกับคู่แต่งงานในช่วงศตวรรษที่ 20

พูดให้ง่ายเข้าก็คือ ชายและหญิงยังคงสนใจที่จะแสวงหาความรักมาให้หัวใจกระชุ่มกระชวย เพียงแต่ไม่อยากตกล่องปล่องชิ้นกันอย่างจริงจังเหมือนกับคนรุ่นก่อนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รายงานการศึกษาในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มสูงมากขึ้นที่หนุ่มสาวจะแต่งงานหรืออยู่กันแบบสามีภรรยาโดยไม่แต่งงานน้อยลง หรือค่อนข้างหวงชีวิตโสด

สาเหตุหลักๆ ก็เพราะคนรุ่นใหม่ใช้เวลาในการตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตคู่กับใครอื่นนานขึ้น และการจบความสัมพันธ์ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น

รู้แบบนี้แล้วก็คงต้องยอมโสดกันต่อไป