ชีวิตรื่นรมย์ของ ชนาทิพย์ จันทรุเบกษา

“จบนิเทศจุฬาฯ อินเตอร์ค่ะ แต่ตอนนี้เตรียมจะไปเป็นทหารแล้ว” ชนาทิพย์ จันทรุเบกษา

โดย..วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

“จบนิเทศจุฬาฯ อินเตอร์ค่ะ แต่ตอนนี้เตรียมจะไปเป็นทหารแล้ว” ชนาทิพย์ จันทรุเบกษา หรือน้องทิพย์ สาวน้อย Debutante ปี 2010 เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสดใส

เพราะคิดว่าตัวเองภาษาอังกฤษไม่ดี ไม่ค่อยกล้าพูดภาษาอังกฤษ คุณพ่อ พล.อ.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา อดีตทูตทหารที่สิงคโปร์ก็เลยส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็ได้ผลเพราะปัจจุบันมั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเองมาก ช่วงนั้นไปเรียนโรงเรียนประจำเซนต์แอนโทนี ที่ลูว์แอสตัน น้องสาว “หมูแดง” ชนินทิดา ก็ตามไปเรียนหนังสืออยู่ด้วย ผลพลอยได้จากการนี้ คือทิพย์ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองและดูแลน้อง อยู่ที่อังกฤษจนจบไฮสกูล จึงกลับมาสอบเข้านิเทศศาสตร์ ที่จุฬาฯ (อินเตอร์เนชันแนล)

 

“คุณแม่เป็นห่วง ก็เลยเอาตัวกลับมาก่อน” น้องทิพย์เล่า กลับมาใหม่ๆ อ้วน! แผนแรกเลยต้องควบคุมน้ำหนักเป็นจ้าละหวั่น แผนสองคือ ต้องสอบเข้าจุฬาฯ แผนสามตามมาเมื่อสอบได้ นั่นคือการปรับตัว (อย่างมาก) กับคุณครูคนไทย ทิพย์เล่าว่า ครูไทยดุและทิพย์ก็ไม่ชินกับสำเนียงอังกฤษที่พูดๆ กัน โชคดีที่เจอเพื่อนสมัยเด็กตั้งแต่เรียนอยู่เซนต์จอห์น ซึ่งมาเจอกันอีกที่นี่และกลายเป็นเพื่อนรักกันไปเลย จากนั้นกลุ่มเพื่อนก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นๆ การเรียนปีหนึ่งกลายเป็นเรื่องสนุก เพื่อนเยอะมากและสนุกกันมาก

“เปรียบเทียบกันแล้ว เป็นวัยรุ่นเมืองไทยสนุกกว่าเป็นวัยรุ่นอังกฤษ เพราะสบายกว่า อยู่ที่อังกฤษทำอะไรก็ไม่ได้ อยู่เมืองไทยขับรถไปไหนมาไหนเอง บ้านก็บ้านของเรา” ทิพย์เล่า เกรดหล่นจาก 3.5 เหลือ 2.7 แม้จะลดลง แต่เธอฉลาดที่ไม่กดดันตัวเอง สนุกกับชีวิตดีกว่า อีกอย่างที่จุฬาฯ ก็แข่งขันกันสูงมาก ปัจจุบันเธอเรียนปริญญาโทเอ็มบีเอ ที่เกษตรศาสตร์ควบคู่ไปด้วย

สำหรับการเป็นลูกทหาร ทิพย์บอกว่า มีทั้งข้อดีและข้อไม่ดี แต่ที่ดีนั้น ดีมากจนกลบข้อที่ไม่ดีไป หนึ่งในนั้นคือวินัย เป็นลูกทหารต้องมีวินัย สำหรับเธอแล้ววินัยคือทุกอย่างในชีวิต เป็นรายละเอียดและส่วนผสมในชีวิตที่ต้องมีต้องเป็น ต้องตรงเวลา สำคัญคือต้องตั้งใจทำในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของตัวเอง อย่างไรก็ตามแม้จะมีกรอบที่วางไว้ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนให้เธอเป็นตัวของตัวเอง จะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องมีพ่อและแม่ที่มั่นใจในตัวของลูกก่อน โดยเฉพาะคุณพ่อที่บอกเลยว่า ถ้าทิพย์เรียนไม่ดี ทิพย์ก็ต้องรับผลนั้นไว้เอง ที่สุดของที่สุดแล้วคือความภาคภูมิใจที่ผ่านมาได้ ทั้งเรื่องการเรียนและความไว้วางใจที่ได้รับ

จากทั้งพ่อและแม่

ทิพย์บอกว่า เหมือนจะมีคนเคยได้ยินทิพย์ที่พูดไว้ตั้งแต่เกิด (ฮา) ว่า อยากเป็นนักบิน ทิพย์อยากเป็นนักบินเพราะชอบเฮลิคอปเตอร์ ตอนเป็นเด็กจำได้ว่าได้เล่นซนแบบผู้ชายเลย อย่างเตะฟุตบอลก็เตะกับลูกทหารในบ้านอย่างสนุก โตขึ้นมาติดทีมฟุตบอลหญิงนะ เป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก ไปแข่งชนะระดับอินเตอร์อีกต่างหาก ถึงวันนี้ความชอบมีในอีกหลายเรื่อง ตั้งแต่การทำอาหาร ที่ใครชิมใครชม ฝีมือถึงขนาดที่ว่า ทำขายไม่ทันมาแล้วก็แล้วกัน อีกอย่างก็คือแฟชั่นที่สาวน้อยนิยม โดยส่วนตัวแล้วเธอชอบใส่กระโปรงมากกว่ากางเกง ส่วนใหญ่เป็นเดรสน่ารักๆ ที่ใส่ไปได้ในทุกงาน

ล่าสุดนอกจากจะกำลังเตรียมตัวเตรียมใจกับตำแหน่งในกรมข่าว กองทัพอากาศ ทำงานประสานงานข่าวกับต่างประเทศ ก็เตรียมจะทำธุรกิจเล็กๆ ร่วมกับน้องสาว โดยจะเปิดเว็บไซต์แฟชั่นขายเสื้อผ้าออนไลน์ ในการนี้ก็จะมีทิพย์ที่รับหน้าที่ดูแลด้านการตลาด ส่วนน้องสาวหมูแดง ซึ่งมีหัวด้านออกแบบดีไซน์ ก็จะดีไซน์เสื้อผ้าคอลเลกชันเก๋ๆ ดีไซน์เยอะๆ ทำคอลเลกชันเป็นเซ็ตๆ ละ 12 แบบ แบบละประมาณ 50 ตัว เปิดตัวเมื่อไหร่แล้วจะบอก

5 บุคคลต้นแบบ(ลูกสาว)ทหาร

1.พล.อ.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา

พ่อเป็นคนที่เหมือนจะดุ แต่ไม่ดุ เมื่อไหร่ที่พ่อดุ นั่นเป็นเพราะพ่อคิดแล้วว่าต้องดุ (ลูกจะจ๋อย) พ่อดุเรื่องที่จะต้องดุ ไม่บ่นไม่จู้จี้ แต่พ่อจะใช้คำแบบมีคีย์เวิร์ดสำคัญ คำที่ทำให้เราคิดได้ทันทีเดี๋ยวนั้น พ่อไม่ได้ดุอย่างเดียว มีมุมที่พ่อน่ารักและสอนให้ลูกได้คิด อย่างบางทีพ่อก็บอกว่า “ลูกลองทำอะไรเองมั่งสิ พ่อจะนัดให้ก็ได้ แต่ลองนัดเองดูซิ ผู้ใหญ่จะได้เอ็นดู”

2.ช่อฉัตร จันทรุเบกษา

แม่ชอบพูดว่า ถ้าแม่ไม่ได้แต่งงานกับพ่อ แม่คงเป็นวัยรุ่นกว่านี้ (ฮา) แม่ชอบทำตัวขรึม ทั้งที่จริงแล้วแม่เป็นคนสนุกและตลกมาก แม่สังคมเก่ง ทุกวันศุกร์จะมีปาร์ตี้กับแก๊งเพื่อนแก๊งญาติ

3.มาร์ธา สตวร์ท

เพราะเป็นคนชอบทำอาหารมาก โดยเฉพาะขนม อย่างบราวนี แมคคารูนหรือพาย ก็เลยชอบหนังสือของมาร์ธาที่สอนทำเค้ก ทำคัพเค้กสนุกๆ มาร์ธายังเป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่พัฒนาตัวเอง และพัฒนาผู้หญิงอย่างสร้างสรรค์

4.เจ้าหญิงไดอานา

ชอบความมั่นใจในตัวเองของเจ้าหญิงไดอานา ชอบความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่ฝ่าวงล้อมของราชวงศ์อังกฤษ โดยมีแรงเชียร์และคะแนนความเห็นอกเห็นใจจนท่วมท้นจากผู้คนทั่วโลก

5.แม่ชีเทเรซา

ต้นแบบของผู้ให้อย่างแท้จริง จากการเริ่มต้นที่มูลนิธิเล็กๆ มาเทอร์ทำงานอย่างหนักเพื่อคนจนที่ยากลำบาก ชีวิตของท่านสอนให้เราได้ตระหนักถึงความมีประโยชน์ของตัวเราที่มีต่อผู้อื่น ทำได้ถ้าต้องการจะทำ