ป่าฝนเขตอบอุ่นของออสเตรเรีย
กล่าวถึงป่าดิบชื้นหรือป่าฝน ซึ่งมีความรกทึบที่สุดของโลกไปสามแห่ง
กล่าวถึงป่าดิบชื้นหรือป่าฝน ซึ่งมีความรกทึบที่สุดของโลกไปสามแห่ง
คือ ในเขตลุ่มน้ำอะเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ ป่าลุ่มน้ำคองโก ในทวีปแอฟริกา และป่าฝนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว ในครั้งนี้จะต่อด้วยเรื่องป่าฝนเขตอบอุ่นของออสเตรเลีย
ป่าที่รกที่สุดของออสเตรเลียตั้งอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้และอยู่ในบริเวณที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีความหลากหลายของพืชพรรณสูงมาก เขตดังกล่าวแตกต่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลีย เพราะเขตนี้ได้รับน้ำฝนซึ่งตกลงมาในบรรยากาศของเขตอบอุ่น ดังนี้ จึงทำให้พืชพรรณต่างๆ มีความผสมผสานปะปนกันอย่างหลากหลาย รวมทั้งพันธุ์ไม้ซึ่งกระจายพันธุ์อยู่ตามแนวชายฝั่งทะเล
ป่าบริเวณดังกล่าวอุดมไปด้วยสัตว์ปีก เช่น นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่การรบกวนจากมนุษย์มีบทบาททำให้เกิดความเสียหายไม่น้อย อุตสาหกรรมทำไม้ซุงและการปลูกต้นสนสกุลไพนัส (Pinus) ในเขตป่าฝน การทำไร่และเลี้ยงสัตว์ ทำให้เกิดความแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้นศูนย์กลางเมืองใหญ่ เช่น แคนเบอราและเมลเบิร์น ก็ตั้งอยู่ในเขตนิเวศนี้เช่นกัน เขตนี้มีความกว้างขวางเท่ากับขนาดของรัฐวิสคอนซินและแอละแบมารวมกัน นั่นคือ 272,300 ตารางกิโลเมตร เขตดังกล่าวมีฝนตกสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ปริมาณเฉลี่ย 800-1,000 มม.ต่อปี ดูปริมาณจะเห็นว่าไม่มากนัก แต่ความสม่ำเสมอดูจะเป็นเรื่องสำคัญกว่าปริมาณรวมเป็นไหนๆ
พันธุ์พืช
ได้กล่าวไปแล้วว่า พันธุ์พืชในเขตดังกล่าวมีความหลากหลายที่คละเคล้าปะปนกันโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไม้ชายทะเล พันธุ์ไม้จำพวกไม้พุ่ม เตี้ยแคระ ที่พบในเขตดินเปรี้ยวของออสเตรเลีย ส่วนใหญ่เป็นพืชในวงศ์ Ericaceae (ซึ่งพืชในวงศ์นี้ที่รู้จักกันดีในเมืองไทย ได้แก่ กุหลาบพันปีหรือคำดอย) นอกจากนี้ยังพบป่าไม้ที่เรียกว่า Sclerophyll Forest และป่าไม้ยูคาลิปตัสหลากชนิด เช่น Eucalyptus Viminalis E.obliqua E.cypellocarpa และอื่นๆ พืชซึ่งพบร่วมกับป่ายูคาลิปตัส ได้แก่ พืชในวงศ์หญ้า เช่น Themeda Australis Stipa Scabra และ S.bigeniculata
ยูคาลิปตัสเป็นไม้ต้นที่มีความสำคัญและเป็นไม้ประจำชาติออสเตรเลียก็ว่าได้ พืชกลุ่มนี้สามารถปรับตัวให้เข้ายึดครองบริเวณที่ได้รับน้ำมากในออสเตรเลีย และนี่รวมถึงป่าเขตอบอุ่นภาคตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเรากล่าวถึงในตอนนี้ไว้ด้วย ออสเตรเลียมียูคาลิปตัสอยู่ประมาณ 700 ชนิด และมีเพียง 7 ชนิดเท่านั้นที่พบนอกประเทศ
ป่าเขตอบอุ่นของออสเตรเลียดังกล่าวมีดินดีปานกลาง แต่อากาศเย็นถึงหนาว และป่ายูคาลิปตัสนี้เก่าแก่โบราณ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงประวัติแห่งวิวัฒนาการอันยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับทวีปอื่น นอกจากนี้ยังพบว่ามีพืชพันธุ์อีกมากที่ตกอยู่ในบัญชีล่อแหลมถึงใกล้สูญพันธุ์ เช่น วิงลิงเวิช (Rutidosis Leptorrynchoides) ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับเดซีและทานตะวัน
ป่าเขตอบอุ่นจะมีความหลากหลายทางชีวภาพต่ำกว่าป่าเขตร้อน ทั้งนี้เราอาจศึกษาได้จากผลการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์หลายท่าน เช่น Raven P.H. (1976) กล่าวว่า 65 เปอร์เซ็นต์ ของไม้ดอกในโลก (2.5 แสนชนิด) จะพบในป่าเขตร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าเขตที่ราบต่ำซึ่งมีฝนตกชุก (Wet Lowland Tropics) ยังมีผู้สำรวจน้อย สำหรับป่าเขตอบอุ่นของออสเตรเลียจะมีค่าเฉลี่ยจำนวนชนิดไม้ยืนต้นอยู่ประมาณ 48 ชนิด (เฉพาะจากโซนสำรวจ) ในขณะที่ป่าดิบชื้นเขตร้อน เช่น ปานามา 2 แห่ง และบราซิล มีค่าเฉลี่ย 88-125 และ 91 ชนิดตามลำดับ สวนป่าไม้พุ่มเตี้ย (Heath) ในออสเตรเลียจะมีจำนวนพันธุ์พืชอยู่เฉลี่ยประมาณ 65 ชนิด
ผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์
ป่าเขตอบอุ่นของออสเตรเลีย ถูกคุกคามจากชาวยุโรปซึ่งเข้าไปตั้งหลักแหล่งทำกิจกรรมเกษตร เหมืองแร่ ทำป่าไม้ การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ และมีการพัฒนาเขตเมืองใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง เช่น เมลเบิร์นและแคนเบอร์รา ป่าลุ่มต่ำที่ชุ่มชื้น (Scalerophyll Forest) ถูกทำลายโดยกิจกรรมชักลากไม้ซุงออกจากพื้นที่ พืชพรรณไม้หลายชนิดอ่อนแอลงและถูกโรคยอดเน่าแห้งตาย ซึ่งเกิดจากเชื้อไฟทอพเทอราหลายชนิดเข้าทำลาย ไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง กิจกรรมของมนุษย์ที่คุกคามธรรมชาติ ได้แก่ การนำเอาสัตว์แปลกถิ่น เช่น กระต่าย สุนัขจิ้งจอก และแมว เข้าไปเลี้ยง มีผู้ประเมินว่าป่าไม้เขตอบอุ่นของรัฐวิกตอเรียถูกทำลายไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมเกษตร คงเหลือพื้นที่ป่าเพียง 6,000 ตารางกิโลเมตร (ข้อมูลปี ค.ศ. 2000)


