posttoday

สาธุ...สาธุ...สาธุอนุโมทามิ

14 กุมภาพันธ์ 2553

หัวใจสำคัญของงานธรรมจักรบูชาในปีนี้นั้น อยู่ที่การได้ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระอัครสาวกคู่ขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง

หัวใจสำคัญของงานธรรมจักรบูชาในปีนี้นั้น อยู่ที่การได้ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระอัครสาวกคู่ขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]

อาตมาได้มาประกอบศาสนกิจ ณ ดินแดนพุทธภูมิ ตามกิจนิมนต์ของมหาโพธิสมาคมของอินเดีย (Maha Bodhi Society of India) เพื่อมาเป็นพระอาจารย์ (Master Vipassana) ให้กรรมฐาน อบรมจิตภาวนา และสั่งสอนธรรมจากพระสูตรที่สำคัญๆ ณ โพธิมณฑลสถาน (พระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา อินเดีย) สังเวชนียสถาน ที่ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นเวลา ๕ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.พ. เรียกว่า โครงการธรรมจักรบูชา และสืบต่อเนื่องในวันที่ ๖-๗ ก.พ. ด้วยโครงการธรรมยาตรา ซึ่งอาตมาได้รับนิมนต์ให้เป็นผู้นำ (Leader) ของคณะธรรมยาตรา มีพระสงฆ์หลายชาติเข้าร่วม ทั้งเวียดนาม ไทย ศรีลังกา เกาหลี ทิเบต ลาว และอินเดีย รวมแล้วประมาณ ๕๐๐ กว่าท่าน มีอุบาสกอุบาสิกา เข้าร่วมจากหลายชาติ ยอดรวมน่าจะอยู่ที่ ๖๐๐-๗๐๐ ท่าน โดยเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการอบรมจิตตภาวนาตามหลักสมถวิปัสสนาญาณแล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในแผนงานของมหาโพธิสมาคม ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยมีคณะสงฆ์เวียดนามให้การสนับสนุนด้านปัจจัย

ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับการให้การศึกษาปฏิบัติแด่พระสงฆ์นานาชาติ ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกา ตามโครงการดังกล่าว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นปัจจัยสำคัญอันน่าจะนำมาเล่าสู่ท่านผู้อ่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ใคร่จะบอกกล่าวให้ทราบคือ ความสนใจ ความศรัทธา ในความต้องการปฏิบัติธรรมนั้นมีสูงมาก ซึ่งหากจัดระบบให้การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ถูกต้องตามแบบแผนในพระพุทธศาสนา อาตมาเชื่อว่าจะนำมาสู่ความเข้มแข็งของชาวพุทธ และองค์กรพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน ทั้งนั้นทั้งนี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความสามัคคีของคณะสงฆ์นานาชาติที่ควรให้ความร่วมมือร่วมใจกันในการจัดศาสนกิจ มุ่งเน้นเชิงปฏิบัติกรรมฐานตามแบบแผนของพระพุทธศาสนาจริงๆ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างคุณภาพของชาวพุทธให้เข้มแข็งเป็นไปแบบเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน สู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่หลากหลายดังเช่นทุกวันนี้

หัวใจสำคัญของงานธรรมจักรบูชาในปีนี้นั้น อยู่ที่การได้ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระอัครสาวกคู่ (พระสารีบุตรเถรเจ้า พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า) ขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง จัดริ้วขบวนสวยงาม มีชาวพุทธนานาชาติเข้าร่วมขบวน สักการบูชา อัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุฯ รอบโพธิมณฑลสถาน ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง ซึ่งอาตมาได้รับนิมนต์ให้เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประทับบนหลังช้าง (เป็นครั้งแรกที่อาตมาได้นั่งหลังช้าง) ขณะที่เคลื่อนขบวนอัญเชิญเสด็จไปตามถนนรอบๆ เมือง ก็จะมีชาวพุทธโปรยดอกไม้สักการบูชา มีการแต่งเครื่องทรงให้ช้าง ดูคล้ายๆ พิธีการในอดีต ซึ่งมีชาวไทยเข้าร่วมขบวนจำนวนหนึ่ง รวมถึงพระสงฆ์จากประเทศไทยได้เห็นความสามัคคีก็ออกจะให้ยินดี ยังให้เกิดความเชื่อมั่นในความสืบเนื่องของพระพุทธศาสนาในเบื้องหน้า

ในส่วนของ “ธรรมยาตรา” นั้น ออกจะหนักพอสมควร เพราะต้องนำคณะสงฆ์ อุบาสกอุบาสิกา จำนวนน่าจะมากกว่า ๕๐๐ ท่าน ซึ่งตั้งขบวนจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ (โพธิ์ตรัสรู้) ณ มหาโพธิวิหาร พุทธคยา เดินเท้า “ธรรมยาตรา” สู่ดงสิริ ณ ถ้ำบำเพ็ญทุกรกิริยา ที่พระมหาบุรุษเคยทรงบำเพ็ญเพียรนานถึง ๖ พรรษา เป็นระยะทางร่วม ๑๕ กิโลเมตร โดยมุ่งตัดตรงข้ามแม่น้ำเนรัญชรา แม่น้ำโมหณี ผ่านหมู่บ้านคนยากจนที่เรียงรายตามภูเขา สู่ถ้ำดงคสิริ และพักฉันอาหาร ใช้เวลาเดินเร็วมากร่วม ๒ ชั่วโมง (กำหนดการประมาณ ๓ ชั่วโมง) และออกเดินต่อสู่หมู่บ้านต่างๆ ช่วงดังกล่าวนี้ลำบากพอสมควร กว่าจะตัดตรงขึ้นถนนใหญ่ได้ มีชาวบ้านในท้องถิ่นซึ่งเป็นพี่น้องมุสลิมให้การต้อนรับอย่างประทับใจยิ่ง และได้เดินทางต่อไปสู่เจเที่ยน หรือลัฏฐิวัน (สวนตาลหนุ่ม) โดยมีรถยนต์นำเข้าไป เพื่อให้ถึงสถานที่พักค้างคืนก่อนมืดค่ำ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนายความสะดวกรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางและตลอดคืน อากาศหนาวเย็นมาก สื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ ทีวี ให้ความสนใจใน “ธรรมยาตรา” มาก มีข่าวตีพิมพ์ ออกทีวี สัมภาษณ์กันเป็นระยะๆ

ในยามเช้าวันที่ ๗ ก.พ. อากาศหนาวพอสมควร คณะขบวนธรรมยาตราออกเดินทางสู่พระนครราชคฤห์ โดยมีจุดหมายที่คิชฌกูฏ (รัตนคีรี) และวัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งตลอดเส้นทางมีความร่มรื่นสวยงาม ในหุบเขาที่โอบดุจอ้อมแขนอันกว้างใหญ่ ให้นึกถึงสมัยพระพุทธองค์นำพระสงฆ์สาวก ๑,๐๐๐ รูป เสด็จพระดำเนินสู่วัดเวฬุวันมหาวิหาร ที่จอมกษัตริย์พระเจ้าพิมพิสารน้อมถวาย ซึ่งมีเรื่องสำคัญๆ เกี่ยวกับธรรมะที่จะนำมาบรรยายต่อไป เพื่อความมีส่วนในบุญกุศลดังกล่าวร่วมกัน ด้วยการกล่าวว่า สาธุ...สาธุ...สาธุ อนุโมทามิ

ขอเจริญพร

**ส่งคำถามหรือ แสดงความเห็นในเรื่องต่างๆได้ที่ คอลัมน์ธรรมส่องโลก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ อาคารบางกอกโพสต์ 136 ถนน ณ ระนอง แยกสุนทรโกษา คลองเตย กทม. 10110 โทรสาร 02-671-3132

ข่าวล่าสุด

พลังงานคุมเข้มแท่นขุดเจาะอ่าวไทย สกัดโดรนป่วน ไม่กระทบการผลิต