posttoday

4 เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนเพื่อตัวเอง

28 มกราคม 2563

ลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อครอบครัว เพื่อกิจการและความสำเร็จไปมากเท่าไหร่กัน แล้วการลงทุนเพื่อตัวเองล่ะ มีอะไรควรทำไปดูกันเลย

ลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อครอบครัว เพื่อกิจการและความสำเร็จไปมากเท่าไหร่กัน แล้วการลงทุนเพื่อตัวเองล่ะ มีอะไรควรทำไปดูกันเลย

4 เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนเพื่อตัวเอง

1. ความรู้และทักษะ

ความรู้และการเพิ่มทักษะ เป็นสมบัติหนึ่งที่จะไม่มีใครมาพรากไปจากตัวเราได้ ความรู้จะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้เราไม่ล้าหลังและมีความรู้เกี่ยวกับทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ เป็นการเพิ่มคุณค่าของตัวเอง ย่อมนำมาสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ผลงานที่ดีขึ้น และตำแหน่งที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน ลองมองหาวิธีที่จะเพิ่นพูนศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อเกี่ยวกับความรู้เฉพาะด้านที่จำเป็นในระดับที่สูงขึ้น หรือการเทคคอร์สสั้นๆ ที่ช่วยเพิ่มทักษะด้านวิชาการแบบ Hard Skills และทักษะด้านอารมณ์อย่าง Soft Skills ให้แก่เราได้ การเวิร์กช็อปเจ๋งๆและการหางานอดิเรกใหม่ๆ ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน

4 เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนเพื่อตัวเอง

2. สุขภาพ

การลงทุนกับสุขภาพ นับเป็นการลงทุนที่ฉลาดที่สุด เพราะหากเราละเลยสิ่งนี้ กว่าจะรู้ตัวก็ต้องเจอกับปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล นอกจากนั้นปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพใจยังเป็นเหมือนแก่นกายของเรา ถ้าสุขภาพไม่ดี การจะผลิตงานที่ดีและมีคุณภาพก็ย่อมเป็นเรื่องยาก กระทบกันเป็นโดมิโน่ไปหมด เรียกได้ว่าหากกายไม่พร้อม ใจไม่พร้อม งานก็จะไม่พร้อมเช่นเดียวกัน

Dr. Paul Lanthois เคยกล่าวถึงตัวเลขสถิติในงานวิจัยเอาไว้ว่า คนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพอย่างลึกซึ้ง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตของตัวเอง ตอบสนองต่อความเครียดด้วยการพัฒนาความสุขมากกว่าการพึ่งพาแอลกอฮอลล์และสิ่งบันเทิงใจที่หยุดความเครียดได้ตามอาการนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่สามารถมีความสุขและหารายได้ได้มากกว่ากลุ่มคนที่ละเลยสุขภาพของตัวเองและตามใจปาก เพราะพฤติกรรมเหล่านั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และความสัมพันธ์รอบตัวท้ายที่สุด

4 เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนเพื่อตัวเอง

3. ที่อยู่อาศัย

หนี้ก้อนใหญ่ที่สุดที่ทุกคนปรารถนาจะก้าวข้ามไปให้ได้ก็คือการซื้อบ้านที่อยู่อาศัย แม้จะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุดเช่นกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ หากเราเลือกลงทุนในเวลาที่เหมาะสมกับอสังหาริมทรัพย์แล้ว ย่อมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเผชิญกับความเสี่ยงน้อย แต่ทั้งนี้ก็อย่าเลือกบ้านที่มีราคาสูงและความเสี่ยงเกินตัว เพราะนั่นจะนำมาสู่ปัญหายุ่งยากในภายหลังได้เช่นกัน นอกจากนั้น บ้านยังตอบสนองในเรื่องของจิตใจ ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอนเพียงอย่างเดียว หลังการทำงานที่เหนื่อยยากในแต่ละวันและได้กลับมาในสถานที่ที่ผ่อนคลาย เราย่อมมีความสุขและสามารถทำกิจกรรมสุดโปรดของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องมีใครมารบกวนหรือเกรงใจใคร บ้านย่อมเป็นสิ่งที่สามารถเติมเต็มความสุขในหัวใจมนุษย์เงินเดือนทุกคนได้

4 เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนเพื่อตัวเอง

4. การลงทุนด้วยเงินในรูปแบบต่างๆ

หากเงินออมทรัพย์นอนอยู่เฉยๆ มูลค่าก็จะมีแต่ตกลงเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่เราหลายคนควรสนใจ นั่นก็คือเรื่องของการลงทุนให้เงินทำงานให้เราบ้างค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกลงทุนในสิ่งที่เรามีความรู้เฉพาะด้านเป็นอย่างดี หรืออย่างน้อยมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำแก่เราได้

อย่างการซื้อหุ้นเองก็เป็นสิ่งที่หลายคนเริ่มศึกษาและให้ความสนใจมากขึ้น เพราะมีตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจากการเล่นหุ้นจริง แต่การจะเริ่มซื้อหุ้นสักตัวจำเป็นจะต้องอาศัยความรู้และข้อมูลหลายอย่าง เราต้องประเมินตัวเองก่อนว่าเราพร้อมสำหรับความเสี่ยงแบบไหน การซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง แน่นอนว่าเราจะได้รับค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ต้องยอมแบกรับความเสี่ยงที่เราจะเสียเงินทุนของเราไปเช่นกัน แต่ถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะเสียเงินเก็บก้อนนี้ไป การลงทุนกับหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำอาจเป็นคำตอบที่ดีกว่า ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการประเมินตนเอง

นอกจากการซื้อหุ้นเพื่อหวังกำไรแล้ว การลงทุนบางประเภทก็ให้ผลประโยชน์กับเราได้มากกว่า การลงทุนกับกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund : SSF) หรือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF) คืออีกทางเลือกที่จะทำให้เราได้ทั้งผลตอบแทนและได้ลดหย่อนภาษีไปได้พร้อมๆ กัน

SSF เป็นกองทุนน้องใหม่โดยเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาว กองทุนนี้ไม่มีกำหนดขั้นต่ำในการซื้อ และไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี แต่ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปีและไม่เกิน 200,000 บาท โดยกองทุนนี้ก็ให้สิทธิเราในการลดหย่อนภาษี

ส่วน RMF เป็นกองทุนที่ให้ผลประโยชน์ระยะยาวช่วยให้เราออมเงินเพื่อใช้ยามเกษียณ และให้สิทธิลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกับ SSF ซึ่งนโยบายการลงทุนของ RMF จะมีหลากหลาย และมีความเสี่ยงทั้งระดับต่ำ กลาง สูง ให้เลือกได้ตามความต้องการ.สิ่งสำคัญสำหรับการลงทุนทุกประเภทคือ ผู้ลงทุนจำเป็นจะต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการลงทุน เพื่อให้แน่ใจว่าเรารู้ทุกแง่มุมของการลงทุน เพื่อให้การลงทุนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับระบบการเงินของเรา