posttoday

Cover Letter และ Resume สองเรื่องต้องรู้ก่อนก้าวสู่การทำงาน

23 มกราคม 2563

ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ หรือคนที่กำลังอยากหางานทำใหม่ ยังไงการแนะนำตัวผ่านจดหมายและเรซูเม่สมัครงานก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี 

ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ หรือคนที่กำลังอยากหางานทำใหม่ ยังไงการแนะนำตัวผ่านจดหมายและเรซูเม่สมัครงานก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี 

ซึ่งสองนี้จะช่วยสร้างความประทับใจแต่แรกแก่นายจ้าง เสมือนคุณได้ขายตัวเองและบอกผ่านตัวอักษร ดังนั้นคุณจึงควรแสดงโชว์จุดเด่นด้านการจัดการด้านอารมณ์ (soft skill) อย่างเช่นการสื่อสาร ความเป็นผู้นำ การจัดการปัญหา การจัดการความขัดแย้งและการทำงานเป็นทีม การเขียนเชิงโน้มน้าวเพื่อที่จะสามารถชักจูงให้นายข้างคล้อยตามในสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อว่าคุณเหมาะสมกับบริษัทมากแค่ไหน ถึงแม้คุณจะยังไม่มีประสบการณ์ก็ตามที

 

Cover Letter และ Resume สองเรื่องต้องรู้ก่อนก้าวสู่การทำงาน

Cover Letter

คือจดหมายสมัครงาน มีจุดประสงค์เพื่อแนะนำตัวให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลรู้จักประวัติเบื้องต้นของผู้สมัครและทราบเหตุผลที่ต้องการสมัครตำแหน่งงานนี้ ยิ่งเขียนได้น่าสนใจเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงดูดให้คนสนใจอ่าน Resume ต่อ และอยากนัดสัมภาษณ์ในที่สุด ควรใช้ภาษาที่เป็นทางการ โดยปกติแล้วการเขียน Cover Letter จะเเบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 

ส่วนแนะนำ (Introduction) เริ่มด้วยการเขียนแนะนำตัวประวัติสั้นๆ และระบุตำแหน่งที่ต้องการสมัคร

เนื้อหาหลัก (Body) เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้คุณบอกเล่าคุณสมบัติของตัวเอง ทัศนคติในการทำงาน พร้อมด้วยการบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ยิ่งถ้าคุณไม่ได้ร่ำเรียนมาโดยตรง ก็ควรเขียนอธิบายให้ผู้อ่านเห็นถึงมุ่งมั่นของคุณอย่างชัดเจน ควรระบุถึงผลงานที่โดดเด่น ประสบการณ์ฝึกงาน เวิร์กชอป หรืองานอดิเรกที่ส่งเสริมกับตำแหน่งที่สมัคร มีการยกตัวอย่างการเขียนที่ถนัดซึ่งตรงกับความต้องการของบริษัท แต่ ไม่ควรเขียนเยิ่นเย้อหรือบรรยายความสามารถเกินจริง เพราะส่วนของเนื้อหาเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณถูกคัดเลือกสัมภาษณ์ 

ส่วนปิดท้าย (Closing) ควรเขียนถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากร่วมงานกับบริษัทนี้ และถ้าได้ร่วมงานกันในอนาคต คุณจะมีส่วนช่วยผลักดันองค์กรได้อย่างไร 

 

Cover Letter และ Resume สองเรื่องต้องรู้ก่อนก้าวสู่การทำงาน

Resume

Resume มีไว้เพื่อบอกข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ทั้งด้านการศึกษา ความสามารถพิเศษ ทักษะที่เชี่ยวชาญ ที่จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ทักษะทางภาษา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพ ฯลฯ รวมทั้งจุดมุ่งหมายในอาชีพ หรือ Career Objective ที่ควรอยู่ในย่อหน้าแรกของ Resume เพราะเป็นการสรุปให้บริษัททราบว่าคุณมีดีอะไร ทำไมถึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ควรเขียนด้วยประโยคที่เรียบง่าย ความยาวไม่เกิน 2 บรรทัด ระบุเงินเดือนที่คาดหวังไปด้วย

ทั้งนี้ Resume ไม่ควรยาวเกิน 1 หน้ากระดาษ สิ่งสำคัญคือควรแยกแต่ละหัวข้อให้ชัดเจน เรียงลำดับข้อมูลการศึกษาและฝึกงานตามลำดับเวลา จัดหน้ากระดาษให้ดูอ่านง่าย ใช้คำที่กระชับ เพราะ Resume ที่มีรายละเอียดเยอะจนเกินไป อ่านแล้วไม่สบายตา จะเสี่ยงต่อการถูกคัดทิ้ง 

จะเห็นได้ว่า Resume และ Cover Letter นั้นมีจุดประสงค์แตกต่างกัน โดยสรุปก็คือ Resume มีไว้เพื่อบอกข้อมูลเบื้องต้นของผู้สมัคร ส่วน Cover Letter มีไว้เพื่อแนะนำตัวและโน้มน้าวให้ฝ่าย HR ทราบว่าทำไมคุณถึงเหมาะสมกับตำแหน่งงาน  ขอแนะนำให้คุณยื่นทั้งสองอย่างในการสมัครงาน ในบางสาขาอาชีพอาจจะต้องมี Portfolio เพื่อประกอบการพิจารณา เช่น สายงานดีไซน์และครีเอทีฟ ให้คุณคัดเลือกผลงานเด่นๆ หรือจะสร้างผลงานใหม่ขึ้นมาเลยก็ได้