posttoday

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

17 มกราคม 2564

แนะนำรายการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับในเมนูอาหารสั่งกลับบ้าน ให้ทุกท่านได้มีโอกาสรับประทานอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารยามาซาโตะ ห้องอาหารที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี 2564 ที่บ้านได้แล้ว

เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัว (Master Chef) ประจำห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) แนะนำรายการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับในเมนูอาหารสั่งกลับบ้านที่ล้วนเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม ให้ทุกท่านได้มีโอกาสรับประทานอาหารญี่ปุ่นจาก ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2564 ที่บ้านของตนเอง

เมนูอาหารสั่งกลับบ้านนั้นประกอบไปด้วยอาหารหลากหลายชนิดจัดเป็นหมวดหมู่ ได้แก่ สลัดแบบญี่ปุ่น ข้าวห่อสาหร่าย อาหารประเภทย่าง อาหารประเภททอด อาหารประเภทข้าว อาหารย่างบนเตาร้อนแบบเทปปันยากิ เบนโตะ (Bento) และดงบุริ (Donburi) โดยเชฟฮางิวาระได้คัดเลือกแต่อาหารญี่ปุ่นจานเด่นที่ทุกท่านชื่นชอบและยังคงรสชาติอร่อยถูกปากเมื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

อาทิ ปลาไหลราดย่างด้วยซอสสูตรพิเศษรสชาติกลมกล่อม (Unagikabayaki) เสิร์ฟพร้อมกับข้าว สลัดผัก ไข่หวานญี่ปุ่น ผักดองแบบญี่ปุ่น และซุปผักรวม ราคา 1,000 บาท คาคิฟราย (Kaki Fry) หรือหอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด ที่เชฟคัดสรรแต่หอยนางรมสด ๆ ตัวโตมาชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบนอกนุ่มในเป็นเอกลักษณ์ ราคา 400 บาท ส่วนซูวาอิ คานิ สลัด (Zuwai Kani Salad) เป็นสลัดผักสดที่มีเนื้อปูหิมะที่ไม่เพียงแค่มีรสชาติหอมหวานแต่ยังมีรสสัมผัสนิ่มนวลมาเพิ่มความโดดเด่นให้กับอาหารจานนี้ ราคา 600 บาท นอกจากนั้นยังมีข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งเทมปุระ (Ebiten Maki Roll) ราคา 400 บาท

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

ปลาหิมะย่างซอสเทอริยากิ (Ginmutsu Teriyaki) ปลาหิมะเนื้อหนานุ่มย่างด้วยซอสเทอริยากิสูตรพิเศษของห้องอาหารยามาซาโตะรสชาติอร่อยกลมกล่อม ราคา 750 บาท ส่วนอาหารจานพิเศษที่พลาดไม่ได้ คือ สเต็กเนื้อซัทซึมะ (Satsuma) ที่เชฟเลือกใช้เนื้อวากิวชั้นดีคัดพิเศษจากจังหวัดคาโงะชิมะ (Kagoshima) มาย่างให้สุกตามที่ต้องการบนเตาร้อนแบบเทปปันยากิ ราคา 2,700 บาท

สั่งอาหารญี่ปุ่นจากห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน เพลท จากมิชลิน ไกด์ ไปกินที่บ้านได้แล้ว

ส่วนเมนูเบนโตะและดงบุริ ประกอบไปด้วยอาหารน่ารับประทานหลายรายการ อาทิ ยามาซาโตะเบนโตะ (Yamazato bento) ซึ่งเป็นอาหารชุดสุดคุ้มค่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการราคาเพียง 600 บาท ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยแบบญี่ปุ่น ไข่ม้วนญี่ปุ่น กุ้งเทมปุระ ถั่วแระญี่ปุ่น ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น ไก่ทอดแบบญี่ปุ่น มันญี่ปุ่น ปลาซัมมะตุ๋น สลัดมันฝรั่ง ผักตุ๋นแบบญี่ปุ่น ข้าวโรยหน้าด้วยผงปรุงรสแบบญี่ปุ่น ผักดอง และ ซุปมิโซะนอกจากนั้นยังมี เบนโตะหมูผัดขิงสไตล์ญี่ปุ่น (stir-fried ginger pork bento) ราคา 500 บาท ส่วนรายการอาหารในเมนูดงบุริ อาหารแนะนำได้แก่ ข้าวหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน (salmon & salmon roe donburi) ราคา 700 บาท, ข้าวหน้าปลาไหลย่าง (grilled eel donburi) ราคา 650 บาท และ ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ (pork loin cutlet donburi) ราคา 450 บาท และ อื่น ๆ อีกหลายรายการ

เมนูอาหารสั่งกลับบ้าน ราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท และรับส่วนลดพิเศษ 30% ทันทีเมื่อทำการสั่งอาหารโดยตรงกับทางโรงแรม (ยกเว้นเมนูเบนโตะและดงบุริ) โดยสามารถสั่งอาหารได้ทุกวันระหว่างเวลา 11:30 น. ถึง 14:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น. ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ โทรศัพท์ 02-687-9000 อีเมล [email protected] หรือ ส่งข้อความเข้ามาที่เพจ The Okura Prestige Bangkok ส่วนบริการเดลิเวอรี่นั้น จะใช้บริการผ่าน Line Man โดยค่าบริการจัดส่งจะถูกเรียกเก็บปลายทางตามที่ Line Man กำหนด