posttoday

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

08 มกราคม 2560

ยังอยู่ในช่วงของปีใหม่ หลายคนตั้งเป้าหมายที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต การเข้าวัดเพิ่มความสุข และเป็นสิริมงคลกับการดำเนินชีวิตทางใจ

โดย...สืบสิน

ยังอยู่ในช่วงของปีใหม่ หลายคนตั้งเป้าหมายที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต การเข้าวัดเพิ่มความสุข และเป็นสิริมงคลกับการดำเนินชีวิตทางใจ จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในโปรแกรมของหลายคน หากมีเวลาไม่มากนัก แนะนำว่าให้มานมัสการและไหว้พระกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มาเพียงวันเดียวก็จะสุขทั้งกายและใจ

วันนี้เราหลบจากวัดใหญ่ๆ ที่ใครเดินทางมาที่จังหวัดนี้แล้วต้องแวะไปไหว้พระกันเป็นประจำ เป็นวัดร้างที่อาจถูกหลงลืม ทั้งที่ในอดีตนั้นล้วนเป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์เช่นกัน และมาครั้งเดียวก็สามารถไหว้พระได้ 3 วัดเลยทีเดียว ซึ่งทั้ง 3 วัดนี้ตั้งอยูที่ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหลังพระราชวังหลวง

วัดโลกยสุธาราม วัดที่มีพระนอนองค์ใหญ่ที่สุด

สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ในรัชสมัยสมเด็จพระนครินทราธิราช พระราชบิดาเจ้าสามพระยา ราว พ.ศ. 1995 เป็นวัดที่ขึ้นเชื่อว่ามีพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน สันนิษฐานว่าแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปไม่ทรงเครื่อง แต่การบูรณะใน พ.ศ. 2499 คงมีการแก้พระเศียรเป็นอย่างพระพุทธรูปทรงเครื่อง รอบองค์พระมีเสาอิฐ 8 เหลี่ยม รวม 24 ต้น ซึ่งแต่เดิมคงจะมีการสร้างวิหารครอบพระพุทธไสยาสน์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้พังทลายลงเมื่อใด ยามที่ดวงอาทิตย์ทอแสงอ่อนจะแลเห็นพระพุทธไสยาสน์องค์สีขาวห่มคลุมด้วยจีวรสีสดตัดกับท้องฟ้าจะงดงามมากทีเดียว

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

วัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับเขตพระราชวังโบราณ และวัดพระศรีสรรเพชญ์ ด้วยเค้าโครงของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่หลงเหลือในพระอารามร้างที่ถูกผลาญด้วยไฟแห่งสงครามนั้น แสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของวัดโลกยสุธารามในอดีต เช่น ฐานรากที่เหลืออยู่ของพระวิหารขนาดใหญ่ถึง 9 ห้อง ที่ตั้งอยู่ตรงกลางมีความยาวถึง 49.50 เมตร กว้าง 20.10 เมตร มีมุขยื่นออกมาทั้งสองด้าน พระประธานขนาดใหญ่ที่ชำรุดเสียหายเหลือเพียงฐานด้านหลังพระอุโบสถ ยังมีพระปรางค์องค์ใหญ่สูงถึง 30 เมตร และมีแนวกำแพงแก้วล้อมรอบเขตพุทธาวาสทั้งหมด

ทุกวันนี้วัดโลกยสุธารามมักมีผู้เดินทางมาสักการะพระพุทธไสยาสน์อยู่เสมอ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ยังมีความเชื่อที่แพร่หลายในหมู่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าการได้มานมัสการพระพุทธไสยาสน์ วัดโลกยสุธารามซึ่งมีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีแห่งนี้ ถือเป็นดังนิมิตหมายอันดีที่ช่วยส่งเสริมสิริมงคลให้ชีวิต และให้คุณทางด้านเมตตามหานิยมแก่ผู้นั้นด้วย

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

วัดวรเชษฐาราม วันสำคัญที่ถูกลืม

วัดเล็กๆ ที่มีป้ายบอกเล่าเรื่องราวที่ง่ายต่อการเลยผ่านไป แต่หากได้แวะชมที่วัดนี้แล้ว นอกจากที่จะพบกับความร่มรื่นด้วยสถานแห่งธรรมะภายในขอบสีมาธรรมจักรแห่งบวรพุทธศาสนาแล้ว ยังได้แวะหาข้อมูลความรู้เชิงประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งอีกด้วย

จากประวัติของวัดเล่าว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางตะวันตกของพระราชวังหลวงและด้านหลังของพระราชวังหลัง ภายในกำแพงเมืองพระนครศรีอยุธยา วัดนี้ตามพระราชพงศาวดารสมเด็จพระเอกาทศรถทรงสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2136 ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเชษฐาของสมเด็จพระเจ้าเอกาทศรถได้ยกทัพไปตีเมืองตองอู และขณะเคลื่อนทัพถึงเมืองหางทรงประชวรหนักและเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเอกาทศรถจึงโปรดให้อัญเชิญพระศพมายังกรุงศรีอยุธยา และให้แต่งพระเมรุสูงเส้น 17 วา แล้วเสด็จไปถวายพระเพลิงศพให้นิมนต์พระสงฆ์มาร่วมในพิธีจำนวน 1 หมื่นรูป เข้าใจว่าได้ถวายพระเพลิงศพ ณ วัดวรเชษฐารามแห่งนี้

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

ภายในกำแพงวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงลังกาแบบสุโขทัย พระวิหารจำนวน 3 หลังพระอุโบสถ และเจดีย์ย่อมุมขนาดเล็ก 2 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันเชื่อกันว่าน่าจะมีการบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ภายในเจดีย์องค์ใดองค์หนึ่งภายในวัดนี้

ยังมีเรื่องราวกล่าวถึงวันนี้อีกว่าในสมัยโบราณ วัดวรเชษฐ์ถูกเรียกว่าวัดเจ้าเชษฐ์ ถือเป็นวัดประจำพระองค์พระนเรศวร แต่ที่มาเพี้ยนเป็น วัดวรเชษฐาราม นั้นอนุมานได้ว่าเป็นเพราะภายหลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้ว

ผู้เฒ่าแม่แก่ชาวกรุงเก่ายังเล่าให้ฟังอีกว่าเคยมีผู้ที่ลงไปในเจดีย์ทรงปรางค์องค์ใหญ่ จะได้พบกับโกศขนาดใหญ่และมีงูเห่าเผือกนอนขดอยู่ใกล้ๆ จากนั้นให้หลังประมาณ 30 ปีก็มีเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรลงไปเก็บสมบัติและของมีค่าเพื่อนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ ก็พบงูเห่าเผือกที่อยู่เฝ้าโกศขนาดใหญ่นี้เช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ที่ผ่านมาที่ได้มีการบวงสรวงเจดีย์เหล่านี้ ก็มีผู้พบงูเห่าเผือกเลื้อยออกมาจากช่องเจดีย์เช่นกัน

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

น่าเสียดายที่วัดแห่งนี้ถูกทอดทิ้งปล่อยให้วัดโบราณที่มีหมู่เจดีย์และเต็มไปด้วยซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ วิหารที่มีเสมาโบราณที่ควรได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ จนภายหลังได้มีกรมศิลปากรมาบูรณะจึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยส่วนตัวผมชอบวัดนี้มาก ผนังโบสถ์ดูขลังและงดงามมาก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้กราบนมัสการองค์พระภายในโบสถ์ที่แสดงถึงความสวยงาม รวมถึงองค์พระพุทธรูปด้านนอกที่ตั้งเด่นสง่าท้ากาลเวลา

วัดวรโพธิ์ วัดที่พระเจ้าทรงธรรมเคยผนวช

วัดวรโพธิ์ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดวรเชษฐ์ เดิมชื่อ วัดระฆัง ใกล้กับวัดโลกยสุธาราม เป็นวัดสำคัญมาแต่อดีตโดยเป็นวัดที่ประทับของพระสังฆราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด แต่มีชื่อวัดปรากฏในพงศาวดารว่า พระศรีศิลป์ (ภายหลังได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็น พระเจ้าทรงธรรม) ได้ผนวชที่วัดแห่งนี้ โดยได้สมณศักดิ์เป็น พระพิมลธรรมอนันตปรีชา ต่อมาในสมัย พระเจ้าบรมโกศ ได้มีการปลูกต้นโพธิ์ ซึ่งได้จากเกาะลังกา คราวที่คณะสงฆ์ได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา และได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดวรโพธิ์ นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ภายในวัดประกอบด้วย ปรางค์ประธาน มีระเบียงคตล้อมรอบ ปัจจุบันเหลือให้เห็นเฉพาะฐานเท่านั้น ด้านทิศเหนือของปรางค์ประธานยังคงปรากฏซากของอาคาร วิหารและเจดีย์เหลี่ยม ส่วนทางทิศใต้มีพระวิหารสำหรับประดิษฐานรอยพระพุทธบาทตั้งอยู่ซึ่งงดงามมาก อาคารโบราณสถานของวัดทั้งหมด มีกำแพงวัดล้อมรอบอยู่อีกชั้นหนึ่ง และต่างหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่

 

เที่ยว 3 วัด รับปีใหม่