posttoday

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

10 พฤศจิกายน 2555

หากชวนไปเที่ยว “ทุ่งโนนสน” หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง”

โดย...กาญจน์ อายุ

หากชวนไปเที่ยว “ทุ่งโนนสน” หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง” น่าจะเคยได้ยินมากกว่า อุทยานแห่งนี้อยู่ใน จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง เช่น ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งนางพญา และทุ่งโนนสน

การโน้มน้าวใจให้ “คนทั่วไป” ไปเที่ยวทุ่งโนนสนคงยากเสียหน่อย เพราะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบจะเป็นคนเฉพาะกลุ่ม นั่นคือกลุ่มคนรักธรรมชาติ ชอบเดินป่า ชอบนอนเต็นท์ และรับกับความลำบากได้ดี คนทั่วไปที่ไม่นิยมความลำบากคงไม่เลือกที่จะมาเที่ยวในสถานที่เช่นนี้ แต่เดี๋ยวก่อน...อย่าเพิ่งประเมินตัวเองต่ำไป

หลายคนได้ยินคำว่า “เดินป่า” ก็ขยาดแล้วทั้งที่ยังไม่เคยเดิน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบ และถ้ายังไม่เคย มันไม่ได้หมายความว่าตัวเองทำไม่ได้ ดังนั้นแล้วลองเปิดใจพิสูจน์ตัวเองสักครั้ง คุณอาจพบชีวิตที่ซ่อนอยู่ข้างในก็ได้

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

แล้วบนทุ่งโนนสนมีอะไรตอบแทนความกล้าของคุณ

“ทุ่งดอกไม้”

ทุ่งดอกไม้คือคำตอบเดียว จุดเด่นบนทุ่งโนนสนคือความหลากหลายของดอกไม้ป่าที่ออกดอกสะพรั่งระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย. ทุกเช้ายามแสงสีทองของดวงอาทิตย์สาดพ้นก้อนเมฆ “ทุ่งดอกเหลืองพิศมร” หรือเอื้องนวลจันทร์ จะกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองทอง พวกมันจับตัวกันเป็นหย่อมๆ เต็มลานหิน ปล่อยให้แสงอาทิตย์ย้อมสีที่เหลืองอยู่แล้วให้เป็นเหลืองสดใส เหมือนเป็นคำทักทายวันใหม่ว่าโชคดีแค่ไหนที่มีวันนี้

สุดสายตาจากลานหินเป็นแนวต้นสนและป่าทึบ ปิดบังดวงอาทิตย์สีแดงกลมไว้ด้านหลัง คนมองก็รอเพียงเวลาให้ตัวการปล่อยแสงโผล่พ้นยอดไม้ ท่ามกลางป่าถูกปกคลุมด้วยหมอกสีควันบุหรี่ บางจุดต้องแสงแดดเป็นสีทองลอยละล่องตามแรงลม

เมื่อความอบอุ่นปะทะหน้าและแลดูมีอานุภาพเหนือความเย็นในตอนเช้า คนเฝ้าทุ่งเหลืองพิศมรมาตั้งแต่เช้ามืดต้องหาทิศทางใหม่ ตามหาเหล่าดอกไม้ที่ซุกซ่อนอยู่บนนี้ ทุ่งโนนสนอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 700 เมตร ถือว่ายังสูงไม่พอสำหรับต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลทางนิเวศน์อันใดที่ทำให้ “ทุ่งหม้อข้าวหม้อแกงลิง” มาสร้างเผ่าพันธุ์บนทุ่งโนนสนได้ ซึ่งมันกลายเป็นกรณีศึกษาของนักวิจัยตามหาคำตอบว่าทุ่งโนนสนมีอะไรดีให้พืชชนิดนี้เจริญเติบโต

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ลักษณะบนทุ่งโนนสนมีลานหินขนาดกว้างหลายจุด ซึ่งแต่ละจุดจะมีพุ่มดอกไม้เล็กๆ ให้ชม ถ้าจุดไหนเป็นลานหินชื้นแฉะจะพบ “จอกบ่วาย” พืชกินแมลงที่ใช้น้ำหวานเหนียวๆ ล่อแมลง จะเห็นหยดน้ำเล็กๆ คล้ายน้ำค้างเกาะอยู่ “ข้าวตอกฤๅษี” มอสที่ใหญ่ที่สุดในไทยและจะเลือกขึ้นในที่สะอาดเท่านั้น พวกมันมีสีเขียวสดขึ้นหนาแน่นตามแหล่งน้ำขัง พอมันแห้งจะเป็นสีขาวเหมือนข้าวตอก

และตามลานหินยังจะได้พบ “ดุสิตา” ดอกสีม่วง พืชกินแมลงอีกชนิดหนึ่งโดยใช้ปล่องที่รากหาอาหาร “ผักปราบภู” ดอกกลมสีม่วง ตรงกลางสีเหลือง เมื่อสังเกตใกล้ๆ จะเห็นว่าดอกของมันเป็นขนเล็กๆ “หัสไดเครือ” หรือผักบุ้งดอย ดอกสีเหลืองอ่อน มีใบเหมือนผักบุ้ง และเป็นไม้เลื้อยเช่นกัน “เอื้องม้าวิ่ง” กล้วยไม้พบตามร่องหิน ลักษณะไม่เหมือนม้าแต่อย่างใด

ถ้าเลือกชมดอกไม้ตามลานหินจะพบสิ่งที่กล่าวมา แต่หากอยากเห็นดอกไม้ป่าที่พบในป่าต้องเลือกเข้า “ป่า” ไปหามัน โดยเส้นทางศึกษาธรรมชาติมีวางไว้แล้วเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ดอกไม้ที่จะได้พบ อาทิ “เอื้องบายศรี” กล้วยไม้หินสีเหลืองขาว “หงอนนาค” ดอกสีม่วงที่จะบานยามต้องแดด “เอนอ้าน้อย” กลีบดอกใหญ่สีม่วง “สิงโตกลอกตา” กล้วยไม้หินที่ต้นอยู่บนหิน แต่ดอกชูก้านสูง “สิงโตรวงข้าว” ดอกสีส้มเป็นพวงหาชมได้ยาก “เอื้องน้ำต้น” ดอกเป็นปล้องมีสีเหลืองและชมพู นอกจากนี้ ยังมี กงควน จุกนกยูง หญ้าหนูต้น เฒ่าหลังราย จ่าฮ่อม หญ้าแส้ม้าฮ่อ หญ้าขนตาช้าง และต้นเสม็ดแดง ต้นไม้ซึ่งปกติขึ้นตามทะเล แต่กลับมาพบบนเขา

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ดอกไม้นานาพันธุ์มีอยู่จริงบนทุ่งโนนสน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ดูเพียงความสวยงามอาจไม่ทันได้นับว่ามันมีมากจริงๆ

ขายความสวยงามไปแล้ว ถึงคราวต้องบอกชะตากรรมที่ทุกคนต้องเผชิญ การเดินขึ้นทุ่งโนนสนปัจจุบันมีระยะทาง 9.5 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวต้องนั่งรถบรรทุกของชาวบ้านจากหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ สล.12 (เนินมะปราง) เพื่อมายังจุดเริ่มเดิน เส้นทางนี้เป็นทางขึ้นใหม่ เปลี่ยนจากเส้นทางเดิมที่เคยเปิด ณ หน่วยพิทักษ์อุทยาน สล.8 หรือหน่วยฯ หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ระยะทาง 16 กิโลเมตร ซึ่งตอนนี้ได้ปิดไม่ให้ขึ้นแล้ว

ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร มีทั้งทางราบ ลง และขึ้นตามปกติของสภาพภูเขา โดยจะผ่านลานหินลาด เนินทดลอง เนินลองใจ และเนินป่าซอง สามเนินที่ขึ้นไม่ยากเพราะมีราวไม้ไผ่ให้จับ แต่จะล้าตรงความชัน โดยเฉพาะเนินป่าซางที่ชันที่สุด เมื่อผ่านด่านประลองจิตใจมาแล้ว ยังต้องผ่านลานดูใจและจุดชมวิว รวมแล้วใช้เวลาราว 46 ชั่วโมง

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ข้าวของเครื่องใช้จำพวกเต็นท์ ถุงนอน เครื่องมือทำอาหาร และวัตถุดิบ ยกให้ลูกหาบได้หากแบกเองไม่ไหว โดยลูกหาบจะคิดค่าบริการ 1,300 บาทต่อเที่ยวต่อน้ำหนัก 20 กิโลกรัม บนทุ่งโนนสนจะมีจุดกางเต็นท์ที่กำหนดไว้แน่นอน ซึ่งจะอยู่ใกล้กับทุ่งเหลืองพิศมร อยู่ใกล้กับลำธารที่ทุกคนต้องอาศัยอาบกิน แต่หากขยันเดินหน่อยประมาณ 45 นาที จะได้อาบน้ำที่น้ำตกกุหลาบแดง ที่เรียกเช่นนี้เพราะตรงน้ำตกมีต้นกุหลาบพันปีสีแดงออกดอกอยู่ ตรงจุดนี้จะมีน้ำมากเพราะเป็นต้นน้ำ สามารถลงไปอาบได้อย่างสะใจ ส่วนเรื่องห้องน้ำต้องเข้าทุ่งอย่างเดียว อันที่จริงทางอุทยานได้ทำห้องส้วมแบบง่ายๆ ไว้ให้ แต่หากได้มาเห็นสภาพแล้ววิธีการเข้าทุ่งน่าจะสบายใจกว่า

ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม การเดินขึ้นเขาต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่ายากไหม “ไม่ยาก” ระดับความยากของการขึ้นทุ่งโนนสนนั้นไม่ยาก แต่คนขึ้นอาจบอกว่ายากถ้าใจไม่อยากเดินแล้ว ดังนั้น จะรู้ว่าใจตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหนต้องพิสูจน์เวลาเดินขึ้นเขานี่แหละ และเมื่อตัวเองสามารถมายืนอยู่บนจุดหมายแล้วคุณจะ “ภูมิใจ” ในตัวเองมาก ที่สามารถผ่านช่วงเวลาลำบากนั้นมาได้ และที่สำคัญคุณจะเห็น “คุณค่า” ของทุกสิ่งที่อยู่บนนั้นมากกว่าเดิม สิ่งที่คุณอุตส่าห์ฝ่าฟันมาเพื่อพวกมัน

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

เมื่อคุณอยู่บนทุ่งโนนสน คุณจะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ อย่างดอกไม้หรือแม้กระทั่งดอกหญ้า คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนโทรตามเพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และคุณจะมีชีวิตแบบไม่ต้องมองเข็มนาฬิกา เพราะดวงอาทิตย์จะบอกเวลาให้เอง

ทุ่งโนนสนคืออีกโลก และคุณจะเป็นอีกคนเมื่ออยู่ที่นี่

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้

 

ทุ่งโนนสน ดงดอกไม้