posttoday

ความแตกต่างของไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก

07 มิถุนายน 2562

จากกรณี กรมควบคุมโรค เตือนโรคไข้เลือดออกระบาดสูงสุดใน 5 ปี พบเป็นเดงกีสายพันธุ์ 2 ร้ายสุด ป่วยแล้ว 2.3 หมื่นราย ตาย 30 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในช่วงเดียวกัน วันนี้เราจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันสังเกตอาการป่วยของตัวเองและคนที่รัก

จากกรณี กรมควบคุมโรค เตือนโรคไข้เลือดออกระบาดสูงสุดใน 5 ปี พบเป็นเดงกีสายพันธุ์ 2 ร้ายสุด ป่วยแล้ว 2.3 หมื่นราย ตาย 30 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในช่วงเดียวกัน วันนี้เราจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันสังเกตอาการป่วยของตัวเองและคนที่รัก

ความแตกต่างของไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการระบาดของโรคไข้เลือดออก ว่า มีการคาดการณ์มาตั้งแต่ต้นปี 2562 แล้วว่าจะมีการระบาดหนัก โดยอาจมีผู้ป่วยมากถึงแสนกว่าราย ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึงปัจจุบัน ประมาณ 2.3 หมื่นราย เสียชีวิตแล้ว 30 ราย นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก สถานการณ์ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะปีนี้ผู้ป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง มาตั้งแต่ ม.ค. โดยพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานใต้ อย่าง จ.อุบลราชธานี มีผู้ป่วยเสียชีวิตติดกันหลายราย รวมถึงภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า โรคไข้เลือดออกที่ระบาดในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากที่สุดใน 4 สายพันธุ์ ยิ่งหากเป็นการป่วยไข้เลือดออกครั้งที่ 2 จะยิ่งมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคมากขึ้น ดังนั้น ขอย้ำว่าหากประชาชนมีไข้สูงลอย 2 วันแล้วไม่ลด ให้รีบไปพบแพทย์ และถึงแม้ไข้จะลดแล้วก็ต้องดูว่า สภาพร่างกายผู้ป่วยเป็นอย่างไร ซึมลง ไม่มีเรี่ยวแรงหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ให้รีบไปพบแพทย์ซ้ำ อย่าซื้อยากินเอง หรือคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา และขอความร่วมมือคลินิก ร้านขายยา หากเจอผู้ป่วยไข้สูง ขอให้หลีกเลี่ยงการจ่ายยากลุ่มเอ็นเสด เพราะเสี่ยงทำให้เลือดออกเสียชีวิตได้ และขอทุกฝ่ายช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ป้องกันไม่ให้ยุงกัดด้วย เช่น นอนกางมุ้ง ทายากันยุง

ความแตกต่างของไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก

รู้จักโรคไข้เลือดออกให้มากขึ้น

โรคไข้เลือดออก (dengue hemorrhagic fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่รุนแรงมากนักไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

สาเหตุของโรคไข้เลือดออก

เชื้อไวรัสเดงกีซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 DENV-4 นั้นมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค เมื่อยุงลายดูดเลือดผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสเดงกี เชื้อจะเข้าไปฝังตัวภายในกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุงโดยมีระยะฟักตัวประมาณ 8-12 วัน เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสไปกัดคนอื่นๆ ต่อ เชื้อไวรัสก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่โดนกัด ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกตามมา

ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เคยได้รับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใดจะมีภูมิคุ้มกันเฉพาะสายพันธุ์นั้น หากได้รับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ต่างออกไปจากครั้งแรกก็สามารถเป็นไข้เลือดออกได้อีก และโดยทั่วไปอาการของโรคครั้งที่สองมักรุนแรงกว่าครั้งแรก

ทั้งนี้ ในแต่ละปีพบว่ามีการกระจายของเชื้อทั้ง 4 สายพันธุ์หมุนเวียนกัน และมีเชื้อที่เด่นแตกต่างกันไป ทำให้มีการระบาดของโรคมาโดยตลอด เนื่องจากประชาชนไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์นั้นๆ

อาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีนั้นหากไม่รุนแรงมากยังไม่ถือว่าเป็นโรคไข้เลือดออก แต่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคไข้เดงกี (dengue fever) ซึ่งอาการที่พบได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อหรือกระดูก มีผื่นขึ้นคล้ายผื่นของโรคหัด และอาจมีภาวะเลือดออกหรือไม่มีก็ได้

สังเกตอาการโรคไข้เลือดออก

ส่วนโรคไข้เลือดนั้น นอกจากจะมีอาการเช่นเดียวกับโรคไข้เดงกีแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค คือ

  1. มีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียสประมาณ 2-7 วัน
  2. คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
  3. หน้าแดง อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน
  4. ปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บชายโครงด้านขวา
  5. ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก หลังจากมีไข้มาแล้วหลายวันผู้ป่วยอาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก และเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก (dengue shock syndrome) โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้

สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะช็อก หลังจากมีไข้สูง 2-7 วัน ไข้จะเริ่มลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ความดันโลหิตและชีพจรเริ่มคงที่ เมื่อผ่านไป 2-3 วันจึงเข้าสู่ระยะหายเป็นปกติ ผู้ป่วยจะมีแรงมากขึ้น เริ่มรับประทานอาหารได้ อาการปวดท้องดีขึ้น ระยะนี้มักพบผื่นแดงและคันตามฝ่ามือและฝ่าเท้าซึ่ง จะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์

ความแตกต่างของไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก

ความแตกต่างของไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้ดังนี้

  1. ป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด
  2. ใช้สารไล่ยุงชนิดต่างๆ เช่น DEET รวมถึงป้องกันไม่ให้ยุงลายเข้ามาหลบซ่อนในบ้าน ทั้งนี้ ยุงลายมักกัดในเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน
  3. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบริเวณบ้านและใกล้เคียง ด้วยการปิดฝาภาชนะที่มีน้ำขังไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ได้ เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ปิดไม่ได้โดยขัดล้างทำความสะอาดเพื่อกำจัดไข่ยุงทุกสัปดาห์ หรือปล่อยปลากินลูกน้ำ
  4. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาดปราศจากเศษวัสดุที่อาจมีน้ำขังได้ เช่น ขวดเก่า กระป๋องเก่า เป็นต้น
  5. ในรายที่อายุมากกว่า 9 ปี และเคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้ว อาจพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจากสายพันธุ์อื่น